ประวัติ มามาดู ซาโก้

| 01/01/1970 07:00 น. | 711 Views

     แกรี่ เนวิลล์ อดีตตำนานแบ็คขวาทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแสดงทรรศนะผ่านทวิตเตอร์ ถึงฟอร์มการเล่นของ มามาดู ซาโก้ เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวฝรั่งเศสของ ลิเวอร์พูล ที่คุมเกมรับได้ย่ำแย่ และไม่ประทับใจเลย ในเกมที่ หงส์แดง บุกไปแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 ที่สนาม อัพตัน พาร์ค

     เกมนี้ ลิเวอร์พูล เสียประตูให้กับบรรดานักเตะเจ้าถิ่นอย่าง วินสตัน รีด, ดิยาฟรา ซาโก้ และ มองก็อง อมาลฟิตาโน่ ส่วน ทีมเยือนได้จาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

     เนวิลล์ มองว่า ซาโก้ ที่ลงมาแทน ฆาเบียร์ มานกิโญ่ ในนาทีที่ 20 เล่นได้เลวร้าย จนพาทีมเสียถึง 3 ประตู และได้โพสข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า "ซาโก้ นายเคยโหม่งสกัดโดนบอลบ้างเปล่าเนี่ย??"

 

 

ชื่อเต็ม : มามาดู ซาโก้

วันเกิด : 13 กุมภาพันธ์ 1990 (อายุ 24)

สถานที่เกิด : ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส

สัญชาติ : ฝรั่งเศส

ส่วนสูง : 187 เซนติเมตร

ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ

สโมสรปัจจุบัน : ลิเวอร์พูล

 
 
 
ประวัติการค้าแข้ง

ปารีส แซง แชร์กแมง 2007-2013

     มามาดู ซาโก้ เกิดที่กรุงปารีส เป็นลูกคนที่ 4 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 7 คน และเป็นนักเตะที่มีเชื้อสายเซเนกัล เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนกับสโมสรบ้านเกิดอย่าง ปารีส เอฟซี ตั้งแต่ปี 1996 ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2002 ในตอนแรกเขาเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า แต่โค้ชเยาวชนมองว่า เขาเหมาะสมมากกว่าในตำแหน่งกองหลัง ทำให้เขาเปลี่ยนมาเล่นเป็นกองหลังตลอดมา

     ซาโก้ เกือบถูกไล่ออกจาก อะคาเดมี่ ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เพราะการประพฤติตัวแย่ๆ ของเขา ตอนอายุุ 14 ปี พ่อของเขาตายอย่างกระทันหัน ทำให้เขาหันหลังให้กับฟุตบอลไปช่วงหนึ่ง แต่เขาก็กลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง โดยคราวนี้ เขากลับมาด้วยความมุ่งมั่นและเลิกพฤติกรรมแย่ๆ ของตัวเอง หันมาทุ่มเทให้กับฟุตบอลเพียงอย่างเดียว หลังจากถูกบ่มเพาะอยู่ในระบบเยาวชนของทีมและโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ในปี 2007 ปอล เลอ กูเอน ผู้จัดการทีมในเวลานั้น เรียกตัวเขาขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ เขาได้ลงเล่นครั้งแรกในเกมยูฟ่า คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ที่พบกับ เออีเค เอเธนส์ ซึ่ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เอาชนะไป 2-0

 



     วันที่ 14 มิถุนายน 2007 ซาโก้ เซ็นสัญญาอาชีพเป็นครั้งแรกกับทีม เป็นระยะเวลา 3 ปี เขาได้เลื่อนไปอยู่ทีมชุดใหญ่อย่างเป็นทางการในฤดูกาล 2007-08 ด้วยอายุเพียง 17 ปี ใส่เสื้อหมายเลข 3 เขาลงเล่นให้กับสโมสรครั้งแรกในลีก ในวันที่ 20 ตุลาคม 2007 นัดที่เสมอ วาล็องเซียนส์ ไป 0-0 ซึ่ง เลอ กูเอน แต่งตั้งให้เขาเป็นกัปตันทีม ด้วยวัยเพียง 17 ปี 8 เดือน เท่านั้น ท่ามกลางความสงสัยของทุกคน เพราะในทีมก็ยังมีนักเตะที่มีอาวุโสอีกหลายคน ทำให้เขากลายเป็นกัปตันที่มีอายุน้อยที่สุด ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุด ที่ได้รับบทบาทกัปตันของลีก เอิง อีกด้วย ซาโก้ ประสบความสำเร็จได้แชมป์แรกในชีวิต ในรายการ เฟรนช์ ลีก คัพ ในปี 2008 โดยนัดชิงชนะเลิศ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เอาชนะ ล็องส์ ไปได้ 2-1

 


     ฤดูกาลต่อมา ซาโก้ ทำประตูแรกในชีวิตการค้าแข้งของตัวเองได้ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2009 หลังจากวันเกิดครบรอบอายุ 19 ปีแค่วันเดียว โดยยิงประตูในเกมลีก นัดที่พบกับ แซงต์ เอเตียน ต่อมา ในปี 2011 ซาโก้ ได้รับรางวัล "ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี" และมีชื่ออยู่ใน "ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี" ในฤดูกาลนั้นด้วย การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นกับตัวเขาอีกครั้ง ในปี 2012 เมื่อ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปลี่ยนแปลงกุนซือมาเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลี่ยน ซาโก้ ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีม แต่ด้วยฟอร์มที่แย่ลงทำให้เขาโดนปลดไปเป็นตัวสำรอง แต่ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท เขาก็ได้โอกาสกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง เมื่อ มิลาน บิเซวัค ปราการหลังทีมชาติเซอร์เบีย ได้รับบาดเจ็บ เขาจึงยึดตำแหน่งตัวจริงกลับมาได้อีกครั้ง

ลิเวอร์พูล

     วันที่ 2 กันยายน 2013 ลิเวอร์พูล ได้ประกาสเซ็นสัญญา ซาโก้ ที่ราคา 15 ล้านปอนด์ เขาประเดิมเกมแรกให้หงส์แดง เมื่อวันที่ 16 กันบายน 2013 ในเกมบุกเสมอ สวอนซี 2-2 ต่อมาเขาทำลูกแรกในนามต้นสังกัดใหม่ได้ ในเกมถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2013 และด้วยอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้เขาลงสนามให้ทีมเพียง 19 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้

     เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2014 ซาโก้ ไม่มีชื่ออยู่ในทีมที่ลงเตะเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้กับ เอฟเวอร์ตัน เพราะเจ้าตัวน้อยใจ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ไม่ให้เขาลงเล่นบ้างเลยและเดินออกจากสนามไปหน้าตาเฉย โดยภายหลังได้ออกมากล่าวขอโทษเกี่ยวกับการกระทำนั้น และกลับมาลงซ้อมร่วมกับทีมตามเดิม ซึ่งต่อมาเขาก็ได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้นจากระบบการเล่น 3-5-2 ทำให้เขามั่นใจมากขึ้นและโชว์ฟอร์มได้ดีตามลำดับ แถมยังเป็นฮีโร่ในการทำประตูตีเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 ในวันที่ 33 ธันวาคม 2014 อีกด้วย

     เริ่มต้นฤดูกาล 2015-2016 เขาต้องเป็นสำรองให้กับ เดยัน ลอฟเรน ที่หายเจ็บและกลับมาลงสนามได้ โดยกว่าที่เขาจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้งต้องกินเวลาไปถึงวันที่ 17 กันยายน 2015 เลยทีเดียว (1 เดือนหลังจากเปิดซีซั่น) นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัล "แมน อ็อฟ เดอะ แมตช์" ในเกม ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่บุกไปเสมอ บอร์กโดซ์ 1-1 และยังได้รับความไว้ว่างใจให้เป็นกัปตันทีมอีกด้วย

     ภายหลังจากการเข้ามาทำทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ทำให้เขากลับมายึดตำแหน่งตัวจริงอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นขวัญใจของกุนซือใหม่ได้ทันที อย่างไรก็ดี ในวันที่ 8 พฤศจิกายน เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและต้องพักยาวกว่า 2 เดือน จนกระทั่งกลับมาลงสนามได้ตามเดิมในช่วงปลายเดือนธันวาคม

ฤดูกาล 2014-2015

     ซาโก้ เริ่มซีซั่นนี้ ด้วยการอยู่ที่ม้านั่งสำรองใน 2 นัดแรก ก่อนได้โอกาสในเกมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส

ทีมชาติฝรั่งเศส

     วันที่ 5 สิงหาคม 2010 ซาโก้ถูกเรียกติดทีมขาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ ให้ผู้จัดการทีม โลร็องต์ บล็องก์ ในนัดอุ่นเครื่อง กับ นอร์เวย์ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2010 จากนั้นเขาได้โอกาสลงเป็นตัวจริงครั้งแรก ในเกมชนะ อังกฤษ 2-1 ที่เวมบลีย์
     13 พฤษภาคม 2014 ซาโก้ ถูกเรียกติดทีมชุดลุยฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล โดยได้ลงสนามจับคู่กับ ราฟาแอล วาราน และเขาได้ลงทุกนัดของทัวร์นาเม้นท์นี้

 

 

ADS