ประวัติ ฮาเมส ดาบิด โรดริเกซ รูบีโอ (เจมส์)

| 01/01/1970 07:00 น. | 944 Views

ิิิิ
ฮาเมสประกบโด้หลังเข้าแคมป์ซ้อมวันแรก 



     ฮาเมส โรดริเกซ กองกลางทีมชาติโคลอมเบีย ซึ่งเพิ่งจะย้ายมาร่วมทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ยอดทีมแห่งลา ลีก้า สเปน เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดเข้ารายงานตัวในแคมป์ซ้อมเป็นมื้อแรก และได้พบกับแข้งรุ่นพี่อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด เป็นที่เรียบร้อย

     เรอัล มาดริด ทำการฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการวันแรก ที่สนามซ้อมซิอูดัด โดย คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ลงคุมซ้อมด้วยตัวเอง ซึ่งทัพนักเตะตัวหลักๆ มาร่วมซ้อมกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็น คริสเตียโน โรนัลโด, ฮาเมส โรดริเกซ, คาริม เบนเซมา, เซร์คิโอ รามอส และ แกเร็ธ เบล 

     การฝึกซ้อมวันนี้ ยังเป็นการพบกันครั้งแรกของ 2 ยอดดาวดังอย่าง โรนัลโด และ ฮาเมส ซึ่งทั้งคู่ต่างมีความยินดีที่จะได้เล่นร่วมทีมเดียวกัน ทั้งนี้ ในรายของ โทนี โครส กองกลางทีมชาติเยอรมัน ชุดแชมป์โลก 2014 จะเดินทางมาร่วมซ้อมกับต้นสังกัดใหม่ ในวันอังคารที่ 5 สิงหาคมนี้
ชื่อเต็ม : ฮาเมส ดาบิด โรดริเกซ รูบีโอ (เจมส์)
วันเกิด : 12 กรกฎาคม 1991 (อายุ 22)
สถานที่เกิด : คาคูต้า , โคลอมเบีย
ส่วนสูง : 180 เซนติเมตร
ตำแหน่ง ปีก , กองกลางตัวรุก
สโมสรปัจจุบัน : โมนาโก

ประวัติส่วนตัว
     ฮาเมส โรดริเกซ เกิดที่เมืองคาคูต้า ประเทศโคลอมเบีย เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีม เอนวิกาโด้ เอฟซี ทีมในดิวิชั่น 2 ของโคลอมเบียในฤดูกาล 2007-2008 โดยเขาได้ลงเล่นไปทั้งหมด 30 นัดและยิงไปได้ 9 ประตู ก่อนจะย้ายไปเล่นลีก อาร์เจนตินา ให้กับทีม เบเนฟิลด์ ในปี 2008-2010 ซึ่งเขาก็สามารถทำผลงานได้โดดเด่นพอสมควรในตำแหน่งปีกหรือกองกลางตัวรุก แถมยังเคยถูกนำฟอร์มไปเปรียบเทียบกับ คริสเตียนโน โรดัลโด้ จนในขณะนั้นสื่อต่างๆได้ตั้งฉายาให้เขาว่า ''เจมส์บอนด์ แห่งเบเนฟิลด์'' เขาลงเล่นให้เบเนฟิลด์ไปทั้งหมด 42 นัด และยิงไป 5 ประตู


ปอร์โต้ 2010-2013
     เจมส์ ย้ายมาร่วมทีม ปอร์โต้ ด้วยราคา 5.1 ล้านยูโร(ประมาน 226 ล้านบาท) ด้วยการเซ็นสัญญา 4 ปี ซึ่งมาถึงเพียงไม่กี่เดือนเขาก็สามารถทำประตูแรกในสีเสื้อของ ปอร์โต้ ได้แล้ว ในเกมยุโรปที่เจอกับ ซีเอสเคเอ โซเฟีย ซึ่งเกมนั้นต้นสังกัดของ เจมส์ ก็เอาชนะไป 3-1 แถมเขายังโชว์ฟอร์มโหดในนัดชิงชนะเลิศในศึกบอลถ้วยของโปรตุเกส ด้วยการกด แฮตทริกใส่ ฆิร์มาเนส ให้ ปอร์โต้ ชนะไป 6-2 คว้าถ้วยแชมป์มาครองได้สำเร็จ ในฤดูกาลแรกกับปอร์โต้เขาได้ลงสนามไปทั้งหมด 24 นัด และยิงไป 6 ลูกกับอีก 8 แอสซิส
     ในฤดูกาล 2011-2012 เขาสามารถคว้ารางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำลีกของโปรตุเกสได้สำเร็จ แถมด้วยรางวัล โกลเด้นบอล อีกหนึ่งตำแหน่ง โดยในฤดูกาลนี้เขาซัดไปได้ 14 ประตู กับ 11 แอสซิส 
     เข้าสู่ฤดูกาล 2012-2013 เสื้อเบอร์ 10 ของ โรดริเกซ ขายดีเอามากๆ แฟนบอลปอร์โต้ต่างชื่นชอบและหลงรักในเด็กหนุ่มผู้นี้ ทั้งเรื่องฝีเท้าและหน้าตา โดยในฤดูกาลนี้เขาลงเล่นไปทั้งหมด 24 นัด ยิงได้ 10 ประตู กับอีก 13 แอสซิส 


โมนาโก 2013-2014
     ฮาเมส โรดริเกซ ตกเป็นข่าวฮือฮาอีกครั้งจากการย้ายจากปอร์โต้ ไปสู่สโมสรแดนน้ำหอมอย่าง โมนาโก ด้วยค่าตัวที่หลายคนมองว่าแพงไปหรือเปล่าเพราะมันสูงถึง 45 ล้านยูโร(ประมาน 2,000 ล้านบาท) โรดริเกซ ยิงประตูแรกในสีเสื้อของโมนาโก ในนัดที่ต้นสังกัดเอาชนะ บาสเตียไป 3-0 และในนัดถัดมาเขาก็สามารถทำประตูที่สองของตัวเองได้ทันทีในนัดที่พบกับ แซงท์ เอเตียน โดยในเกมนี้เขาสามารถคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตท์ ไปครองได้ด้วย ฤดูกาลล่าสุดนี้ เจมส์ ได้ลงเล่นไป 34 นัด และยิงไป 9 ประตู


ฟุตบอลโลก
     ฮาเมส โรดริเกซ หรือ เจมส์ มีชื่อติดมาเป็น 23 ขุนพลของทัพนักเตะ ''โคเคน'' แบบไม่ต้องสงสัย และได้รับเสื้อหมายเลข 10 นัดเปิดสนามกับทีมชาติกรีซ เจมส์โชว์ เหมา 2 ประตูพาโคลอมเบีย เก็บ 3 คะแนนแรกได้สำเร็จ ส่วนเกมนัดที่ 2 เขาก็ยังโชว์ฟอร์มโหดอย่างต่อเนื่องด้วยการซัดไป 1 ประตู ช่วยให้โคลอมเบียเฉือนเอาชนะไอวอรี่ โคสต์ ไปได้ 2-1 เกมนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มเป็นการพบกับทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งเกมนี้ โรดริเกซ ได้พักก่อนในช่วงครึ่งแรกโดยขณะนั้นเสมอกันอยู่ 1-1 แต่พอครึ่งหลัง เจมส์ ถูกส่งลงมา ''โคเคน'' ก็เหมือนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไล่ถล่มแข้ง ''ซามูไร''ไปถึง 4-1 เจมส์ สามารถพาโคลอมเบียผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาแบบสบายๆด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มโดยเก็บไป 9 คะแนนเต็ม ทำให้ชื่อเสียงของเขาตอนนี้เริ่มเป็นที่จับตามองว่าอนาคตหลังจบฟุตบอลโลกของเขาจะไปลงเอ่ยกับสโมสรยักษ์ใหญ่ทีมไหนในยุโรป
     ในรอบน็อคเอาท์ โรดริเกซ ยังคงฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะเข้ารอบมาเจอกับทีม ''จอมโหด'' อุรุกวัย โดย เจมส์ เหมาคนเดียว 2 ประตู พา ''โคเคน'' เขี่ย อุรุกวัย ตกรอบไปแบบที่ว่ากุนซือทีม ''จอมโหด'' เองต้องออกมายอมรับและชื่นชมในความยอดเยี่ยมของ โรดริเกซ ที่ได้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ประจำศึกเวิลด์ คัพ 2014 ไปแล้ว หนทางของ ฮาเมส โรดริเกซ ในรอบต่อไปจะเป็นบททดสอบอีกหนึ่งขั้นว่าเขานั้นเป็นของจริงหรือไม่เมื่อต้องเข้ารอบไปพบกับเจ้าภาพอย่างบราซิล แต่ถึงแม้อะไรจะเกิดขึ้น อย่างน้อยทัวร์นาเม้นท์นี้สำหรับคนชื่อ ฮาเมส โรดริเกซ แล้ว นี่เป็นเวทีแจ้งเกิดสำหรับเขาอย่างแท้จริง

ADS