ประวัติ เกอแว็ง เดอ บรุยน์

| 01/01/1970 07:00 น. | 372 Views

เอางั้นเลย? โวล์ฟส์บวร์กเคลม

     เควิน เดอ บรุนย์ กองกลางฟอร์มจรัสของ โวล์ฟสบวร์ก จารึกประวัติศาสตร์ให้กับวงการลูกหนังเยอรมัน ด้วยการทำลายสถิติทำแอสซิสต์มากที่สุดในลีกต่อ 1 ฤดูกาลของ ซเวจ์ดาน มิซิโมวิช ตำนานเพลย์เมกเกอร์ของหมาป่าเมืองเบียร์ลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังบวกเพิ่มอีก 2 แอสซิสต์ในเกมเปิดรังเฉือน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา ตามคำยืนยันจากสโมสร

     จอมทัพวัย 23 กะรัต เปิดให้ ดาเนียล คาลิกูรี ทำประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่ 38 วินาทีแรก ก่อนที่ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง จะมาซัดจุดโทษให้เสือเหลืองตามตีเสมอเป็น 1-1 แต่แล้วนาทีที่ 49 เจ้าบ้านพลิกขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ เดอ บรุนย์ เปิดลูกเตะมุมให้ อิวาน เปริซิช โหม่งไปติดบล็อคกองหลังเข้าทาง นัลโด้ พลิกตัวยิงเสียบเสาแรกเข้าไป

     โดยประตูที่สองของโวล์ฟสบวร์กนั้น อดีตดาวเตะเชลซี ไม่ได้มีส่วนทำแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงประตูโดยตรงแต่อย่างใด ทว่าสโมสรกลับยืนยัน ว่าจังหวะนั้นนักเตะของพวกเขาคือคนทำแอสซิสต์ได้ และเฉลิมฉลองการทำลายสถิติจ่ายให้เพื่อนทำประตูสูงสุดในลีกต่อ 1 ซีซั่นผ่านทวิตเตอร์สโมสรไปเรียบร้อย

     อย่างไรก็ตาม หากนับจากสถิติอย่างเป็นทางการ เดอ บรุนย์ ยังไม่ได้ทำลายสถิติทำแอสซิสต์มากที่สุดในลีกต่อ 1 ฤดูกาลแต่อย่างใด เพียงแค่ขึ่นไปทาบสถิติของ ซเวจ์ดาน มิซิโมวิช เท่านั้น ด้วยจำนวนแอสซิสต์ทั้งสิ้น 20 ครั้ง

ชื่อเต็ม : เกอแว็ง เดอ บรุยน์
วันเกิด : 28 มิถุนายน 1991
เกิดที่ : ดรองเก้น, เบลเยียม
สัญชาติ : เบลเยียม
ส่วนสูง : 181 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก / ปีก

ประวัติส่วนตัว

          เกอแว็ง เดอ บรุยน์ (เกิด มิถุนายน 1991) กองกลางชาวเบลเยียมของสโมสร โวล์ฟสบวร์ก ที่สามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิดล์ตัวรุกและปีก เขาเคยเป็นนักเตะเยาวชนของทีม เก็นท์ และ เก็งค์ ในลีกบ้านเกิด ก่อนที่ยักษ์ใหญ่จากอังกฤษอย่าง เชลซี จะเห็นแววเก่งและคว้าตัวไปร่วมทีม แต่เจ้าตัวไม่สามารถเบียดมิดฟิลด์ตัวอื่นขึ้นมาเป็นตัวจริงได้

เส้นทางในอาชีพการค้าแข้ง

          เดอ บรุยน์ เริ่มต้นอาชีพนักบอลกับทีมบ้านเกิดอย่าง KVV ดรองเก้น ในปี 2003 และสองปีต่อมา เขาได้เข้าร่วมกับสโมสร เก็นท์ ก่อนที่จะย้ายไปซบทีม เก็งค์ ในปี 2005 ซึ่งเป็นสโมสรอาชีพทีมแรกของเขาในลีกสูงสุดอีกด้วย

เก็งค์ (2008-2012)

          เดอ บรุยน์ ลงสนามประเดิมเป็นเกมแรกไม่ค่อยดีนัก เมื่อต้นสังกัดต้องพบกับความพ่ายแพ้ 0-3 ที่เมือง ชาร์เลอรัว ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2009 หลังจากนั้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2010 เขาสามารถยิงประตูให้กับทีมได้เป็นที่เรียบร้อยและช่วยให้ทีมเก็บสามแต้มสำคัญ ด้วยการเอาชนะ สตองดาร์ ลิแอช ซึ่งเขาทำประตูทั้งหมด 5 ลูก และเก็บแอสซิสได้สูงถึง 16 ครั้งจาก 32 เกมลีกในระหว่างฤดูกาล 2010-11

          ในวันที่ 29 ตุลาคม 2011 เดอ บรุยน์ ซัดแฮตทริกแรกในชีวิตช่วยให้ทีมเอาชนะ คลับ บรูซ 5-4 โดยเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2012 หลังจากที่เขาได้ยอมรับข้อตกลงของทางสโมสร เชลซี และได้กลับมาช่วยทีมในสัญญายืมตัวชั่วคราวทำประตูเอาชนะ ม็องส์ 2-1 ซึ่งจบฤดูกาลนั้น เขาลงสนามให้กับทีมทั้งหมด 28 เกมและยิงประตูได้ทั้งสิ้น 8 ลูก ก่อนที่จะเก็บข้าวของไปเข้าแคมป์ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์

เชลซี (2012-2014)

          31 มกราคม 2012 ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายช่วงหน้าหนาว มีรายงานว่ายักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีกอย่าง เชลซี ประกาศคว้าตัว เดอ บรุยน์ มาร่วมทัพเป็นที่เรียบร้อย ด้วยค่าตัวราว ๆ 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 340 ล้านบาท) กับสัญญายาว 5 ปีครึ่ง แต่ทางสโมสร เก็งค์ อยากให้เจ้าตัวอยู่ช่วยทีมให้จบฤดูกาล 2011-12 ก่อน

          ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2012 เดอ บรุยน์ ลงสนามเป็นเกมแรกให้กับ "สิงห์บลูส์" ในแมตช์อุ่นเครื่องที่เอาชนะ ซีแอ็ตเทิ่ล ซาวน์เดอร์ส สโมสรใน เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ 4-2 และหลังจากนั้นก็ได้ลงเล่นในช่วงครึ่งเวลาแรกพบกับทีม เปแอสเช ที่สนาม แยงกี้ สเตเดี้ยม, นิวยอร์ค

แวร์เดอร์ เบรเมน (2012-2013) - ยืมตัว

          เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2012 เชลซี ประกาศว่า เดอ บรุยน์ จะย้ายไปร่วมศึก บุนเดสลีก้า กับทีม แวร์เดอร์ เบรเมน ในสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล และเขาสามารถทำประตูแรกให้กับทีมใหม่ช่วยให้ทีมเอาชนะ ฮันโนเวอร์ 3-2 ในวันที่ 15 กันยายน ซึ่ง เดอ บรุยน์ ยังโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่องด้วยการยิงประตูในเกมต่อไป ช่วยให้ทีมเสมอกับ สตุ๊ตการ์ต 2-2 ในวันที่ 23 กันยายน ซึ่งจบฤดูกาลเขาสามารถพาทีมรอดตกชั้นได้ด้วยการเสมอกับ ไอน์ทรัชต์ แฟร้งค์เฟิร์ต ในเกมสุดท้ายของซีซั่นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม

โวล์ฟสบวร์ก (2014-ปัจจุบัน)

          เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2014 สโมสร โวล์ฟสบวร์ก ได้เซ็นสัญญาคว้าตัว เดอ บรุยน์ มาร่วมทัพด้วยค่าตัวราว ๆ 18 ล้านปอนด์ (ประมาณ 873 ล้านบาท) และหลังจากจบมหากาพย์การซื้อ-ขายอันยาวนาน ในวันที่ 25 มกราคม 2014 เขาก็ลงสนามประเดิมให้กับต้นสังกัดใหม่ทันที แต่เป็นทาง โวล์ฟสบวร์ก ที่พลาดท่าพ่ายคาบ้านให้กับ ฮันโนเวอร์ 1-3

          ในวันที่ 12 เมษายน 2014 เดอ บรุยน์ ทำสองแอสซิสให้ทีมเปิดรังเอาชนะ เนิร์นแบร์ก 4-1 และหลังจากนั้นอีกหนึ่งสัปดาห์ เขาก็สามารถทำประตูแรกให้กับทีมได้สำเร็จในเกมที่เอาชนะ ฮัมบูร์ก 3-1 นอกจากนี้ยังยิงประตูได้ในสองเกมสุดท้ายของลีกช่วยให้ทีมเอาชนะ สตุ๊ตการ์ต และ กลัดบัค

          เดอ บรุยน์ ซัดประตูแรกสำหรับซีซั่น 2014/15 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2014 จากการวอลเล่ย์สุดสวยนอกกรอบเขตโทษให้ทีมเสมอกับ ลีลล์ ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ต่อมาในวันที่ 30 มกราคม 2015 เขาสามารถทำประตูให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 4-1 ซึ่งเป็นการยัดเยียดความปราชัยให้กับแชมป์ บุนเดสลีกก้า เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เมษายน 2014

          เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2015 เขาทำถึงสามแอสซิสให้ทีมเอาชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน อดีตทีมที่เคยยืมตัวไปเล่นด้วย 5-3 และต่อมาในวันที่ 12 มีนาคม 2015 เดอ บรุยน์ ซัดสองประตูในเกม ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ให้ทีมเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 3-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกแรก

ADS