ประวัติ อัลวาโร่ โมราต้า

| 01/01/1970 07:00 น. | 839 Views

หัวใจราชัน! โมราต้าขอล้มบาร์ซาเพื่อแฟนมาดริด

     อัลบาโร โมราต้า กองหน้ายูเวนตุส ขอนำทีมเอาชนะบาร์เซโลนา คู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ ให้ได้ เพื่อเอาใจสาวกเรอัล มาดริด ต้นสังกัดเขาอีกทางหนึ่ง นอกจากเหตุผลเรื่องคว้าแชมป์

     เจ้าของแชมป์กัลโช เซเรีย อา จะต้องมีโปรแกรมพบกับเจ้าของแชมป์ลาลีกา ในวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายนนี้ เพื่อเป็นการตัดสินใจว่าใครจะเป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรป ประจำฤดูกาล 2014-15 ขณะที่ดาวยิงทีมชาติสเปนบอกว่ามันยังมีความหมายอื่นต่อเขาด้วย

     "ผมจะพยายามเอาชนะบาร์เซโลนา เพราะมันคือสิ่งที่มีความหมายต่อแฟนๆ เรอัล มาดริด เช่นกัน" โมราค้ากล่าวกับ Cadena SER "แต่มันก็ไม่ได้พิเศษเพียงเพราะเป็นการทำประตูบาร์ซาเท่านั้น แต่เพราะความสำคัญของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศด้วย

     "มันคือโอกาสที่จะได้เป็นประวัติศาสตร์ แน่นอนว่าการทำประตูบาร์เซโลนามันก็คงไม่เจ็บปวดเท่าการทำประตูเรอัล มาดริด

     "แต่ผมจำเป็นต้องยิงประตูให้ได้จริงๆ เสียก่อนค่อยมาคิดเรื่องฉลอง! การทำประตูสักประตูในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบชิงกับบาร์เซโลนานั้นไม่ใช่งานง่ายเลย"

ชื่อ : อัลวาโร่ โมราต้า
เชื้อชาติ : สเปน
วันเกิด : 23 ตุลาคม 1992
อายุ : 22 ปี
สถานที่เกิด : มาดริด , สเปน
ตำแหน่ง : กองหน้า
สโมสร : ยูเวนตุส

ประวัติ
     หากจะพูดถึงศูนย์หน้าว่าที่สตาร์ดังคนต่อไปในตอนนี้คงหนีไม่พ้น ''หนุ่มหน้ามน คนหน้าหล่อ'' อย่าง อัลวาโร่ โมราต้า ด้วยฟอร์มการถล่มประตูที่โหดตรงข้ามกับหน้าตา หลังเจ้าตัวเพิ่งมีส่วนช่วยให้ทัพ ''ม้าลาย'' ยูเวนตุส ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ ด้วยการยิงประตูไปกลับใส่ทีมเก่าอย่าง เรอัล มาดริด ได้ทั้งสองนัด ทำให้ศูนย์หน้าชาว สเปน คนนี้ดังเป็นพลุแตกและถูกจับตามองจากหลายๆฝ่ายเลยทีเดียวว่าตัวเขานั้นจะพัฒนาไปได้ไกลขนาดไหน


     อัลวาโร่ โมราต้า ในตอนเป็นนักเตะฝึกหัดนั้นเขาได้ลงเล่นให้กับ 3 สโมสรด้วยกันไม่ว่าจะเป็น แอตเลติโก้ มาดริด เกตาเฟ่ และ เรอัล มาดริด โดยในระหว่างปี 2007-2008 ที่ โมราต้า ยังเล่นอยู่กับ เกตาเฟ่ เขาถูกจับตามองจากสื่อในสเปนเลยว่าน่าจะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์หน้าที่ดีได้ในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่ามันก็หนีไม่พ้นเงื้อมือสโมสรยักษ์ใหญ่ของ สเปน อย่าง เรอัล มาดริด ที่ได้ข่าวและไปคว้าตัวเขามาครองในทันที โมราต้า ใช้เวลาอยู่ประมาณ 2 ปีในชุดเยาวชนของ เรอัล มาดริด ก่อนที่จะถูกดันขึ้นมาอยู่ในทีมชุดสำรองของ เรอัล มาดริด ในปี 2010 ด้วยฟอร์มการถล่มประตูในทีมเยาวชนของ มาดริด ในฤดูกาลสุดท้ายโดยเขาซัดไปคนเดียวทั้งหมด 34 ประตู พาทีมเยาวชน เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ได้สำเร็จ

สโมสร เรอัล มาดริด (2010-2014)
     15 สิงหาคม 2010 โมราต้า ลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด คาสติลล่า เป็นเกมแรกในการพบกับ อัลคอร์ค่อน ซึ่งเกมนี้ผลจบลงด้วยการเสมอกันไป 0-0 ก่อนที่เขาจะมายิงประตูแรกของตัวเองได้สำเร็จในฐานะนักเตะของ เรอัล มาดริด คาสติลล่า ในเกมที่พบกับ อัลคาล่า ซึ่งเกมนี้ผลก็จบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1


     12 ธันวาคม 2010 โมราต้า ถูกเรียกขึ้นมามีชื่อในทีมชุดใหญ่จนได้ โดยเกมนัดนั้นเป็นเกมในศึก ลาลีกา ที่ เรอัล มาดริด พบกับ เรอัล ซาราโกซ่า โดยเขาถูกส่งลงไปเล่นแทน อังเคล ดิ มาเรีย ในนาทีที่ 88 ของเกม ซึ่งเกมนั้น เรอัล มาดริด ก็เอาชนะไปได้ 3-2 จากนั้น 10 วันต่อมา โมราต้า ก็ได้ลงเล่นอีกครั้งในฐานะนักเตะชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด ในเกม โคปปาเดลเลย์ โดยนัดนี้ โมราต้า ถูกส่งลงมาในนาทีสุดท้ายของเกมเนื่องจาก กอนซาโล่ อิกวาอิน มีอาการบาดเจ็บ หลังจากนั้น โมราต้า ก็เรียกได้ว่าขึ้นๆลงๆระหว่างชุดเล็กและชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด อยู่ตลอดเวลา


     13 กุมภาพันธ์ 2011 อัลวาโร่ โมราต้า กดแฮตทริคแรกในชีวิตค้าแข้งได้สำเร็จในเกม เซกุนด้า ที่ เรอัล มาดริด คาสติลล่า ไล่ถล่ม ลา คอรุนญ่า ไปได้ถึง 7-1 และฤดูกาลแรกใน เซกุนด้า ลีก ของ โมราต้า เขาซัดไปได้ทั้งหมด 15 ประตู จากการลงเล่น 28 นัด ก็ที่เขาจะทำประตูได้อย่างต่อเนื่องให้กับ เรอัล มาดริด ชุดสำรอง โดยในฤดูกาล 2012-2013 เป็นฤดูกาลที่ โมราต้า ถูกเรียกขึ้นมามีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่บ่อยมากขึ้น ด้วยฟอร์มการถล่มประตูใน เซกุนด้า ลง 18 นัด ยิงไป 12 ประตู ซึ่งในฤดูกาลนี้แหละที่เจ้าตัวสามารถยิงประตูให้กับทีม เรอัล มาดริด ชุดใหญ่จนได้ เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2012 ในเกมที่พบกับ เลบานเต้ โดยเขาถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 83 ของเกมและใช้เวลาเพียง 60 วินาทีเท่านั้นในสนามก็สามารถทำประตูได้เลย พา เรอัล มาดริด เอาชนะไปได้ 2-1


     ฤดูกาล 2013-2014 อัลวาโร่ โมราโต้ ถูกกุนซือใหม่อย่าง คาร์โล อันเชลอตติ เรียกขึ้นมาติดอยู่ในทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว 18 มีนาคม 2014 โมราต้า ซัดประตูแรกให้กับจนได้ ในเกม ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับ ชาลเก้ 04 โดยเกมนั้นผลจบลงด้วยชัยชนะของ เรอัล มาดริด 3-1 แต่ทว่าเมื่อถูกดึงขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวฟอร์มการระเบิดประตูของ โมราต้า กลับไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างสักเท่าไหร่ หลังยิงไปได้เพียง 9 ประตูเท่านั้นจากการถูกส่งลงสนามถึง 34 เกม ทำให้เมื่อจบฤดูกาลนี้ อันเชลอตติ เลยตัดสินใจปล่อยโมราต้า ไปอยู่กับ ยูเวนตุส อีกหนึ่งสโมสรยักษ์ใหญ่ประเทศ อิตาลี

สโมสร ยูเวนตุส (2014-ปัจจุบัน)
     19 กรกฎาคม 2014 อัลวาโร่ โมราต้า ย้ายมาอยู่กับ ยูเวนตุส ด้วยสัญญา 5 ปี โดยค่าตัวของเขาคาดกันว่าน่าจะอยู่ที่ประมาน 20 ล้านยูโร(ประมาน 760 ล้านบาท) ซึ่ง เรอัล มาดริด เองก็ยังคงหวังว่านักเตะรายนี้จะกลายเป็นสตาร์ดังในอนาคตได้เลยมีออฟชั่นการซื้อกลับในอนาคตพ่วงมาด้วย


     13 กันยายน โมราต้า เปิดตัวในฐานะนักเตะของ ยูเวนตุส เป็นเกมแรกด้วยการถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน เฟอร์นานโด ยอเรนเต้ ในนาทีสุดท้ายของเกม ซึ่งนัดนั้น ยูเวนตุส ก็สามารถเอาชนะ อูดิเนเซ่ ไปได้ 2-0 ทว่า 2 สัปดาห์ต่อมา โมราต้า ก็สามารถยิงประตูแรกในสีเสื้อทัพ ''ม้าลาย'' ได้สำเร็จ โดยสามารถทำได้ในเกมที่ ยูเวนตุส เอาชนะ อตาลันต้า ไปได้ 3-0
     5 ตุลาคม 2014 ในเกมที่พบกับ โรม่า อัลวาโร่ โมราต้า ถูกไล่ออกสนามเป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาไปทำฟาวล์ใส่ คอสตาส มาโนลาส จนถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไป แต่ทว่าเกมนั้น ยูเวนตุส ก็เป็นฝ่ายที่เอาชนะ โรม่า ไปได้ 3-2 แต่ทว่าเมื่อกลับมาฟอร์มของ โมราต้า ก็ไม่ได้ตกลงไปหรืออย่างใดโดยเจ้าตัวจัดการเหมาคนเดียว 2 ประตู ในเกมที่ ยูเวนตุส ไล่ถล่ม ปาร์ม่า ไปได้ 7-0 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งเกมนั้นเขามีเวลาในสนามเพียง 19 นาทีเท่านั้นหลังจากโดนเปลี่ยนตัวลงไปแทนที่ของ เฟอร์นานโด ยอเรนเต้


     และปรากฎการที่สร้างชื่อให้กับเขาเลยในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเกม ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย ที่ ยูเวนตุส ต้นกัดปัจจุบันของเขาต้องโคจรมาพบกับ เรอัล มาดริด สโมสรที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมา ซึ่งคงไม่มีใครจะเชื่อว่า อัลวาโร่ โมราต้า จะกลายเป็นตัวแสบไปได้หลังจัดการซัดประตูทีมเก่าได้ทั้งเกมนัดแรกและเกมนัดที่สอง โดยนัดที่ 2 ที่เล่นที่ สเปน นั้น ลูกยิงของ โมราต้า ถือว่าน่าจะเป็นประตูที่สำคัญที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเขาเลยทีเดียวเมื่อมันกลายเป็นประตูที่ทำให้ ยูเวนตุส สามารถล้ม เรอัล มาดริด และทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ถึงตอนนี้ อัลวาโร่ โมราต้า ยิงไปแล้ว 14 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 44 นัด

ทีมชาติ
     อัลวาโร่ โมราต้า ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติ สเปน รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ชิงแชมป์โลกที่ ไนจีเรีย ด้วย โดยเขาได้ลงสนามไปทั้งหมด 4 นัดยิงไปได้ 2 ประตู พา สเปน คว้าอันดับ 3 มาครองได้สำเร็จ หลังจากนั้น โมราต้า ก็ขยับขึ้นมาได้ลุย ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีให้กับทีมชาติ สเปน โดยในทัวร์นาเม้นท์นี้เขาสามารถยิงประตูให้กับทัพ ''กระทิงน้อย'' ไปได้ถึง 6 ลูกด้วยกัน ทำให้เขากลายเป็นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นท์นี้ไปเลย แค่นั้นยังไม่พอ ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21ปี โมราต้า ก็ถูกเรียกให้ไปเล่นด้วยเช่นกัน ซึ่งฟอร์มของเขาก็ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังพา สเปนน้อย เป็นแชมป์ในปี 2013 แล้วคว้าตำแหน่ง ดาวซัลโว และ ติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์


     7 พฤศจิกายน 2014 โมราต้า ถูก บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เรียกขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่จนได้ และเขาก็ถูกส่งลงสนามเกมแรกในเกมที่ สเปน เอาชนะ เบลารุส ไปได้ 3-0 โดยเขาถูกส่งลงมาเล่นแทน อิสโก้ ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ประตูแรกและประตูเดียวที่ โมราต้า สามารถทำได้ให้กับทีมชาติ สเปน ชุดใหญ่ เกิดขึ้นเมื่อ 27 มีนาคม 2015 ในศึก ยูโร 2016 รอบคัดเลือก ซึ่งเขาสามารถทำประตูชัยให้ทัพ ''กระทิงดุ'' เอาชนะ ยูเครน ไปได้ 1-0

เกียรติประวัติ
สโมสร
เรอัล มาดริด คาสติลล่า
- แชมป์ เซกุนด้า : 2011-12
เรอัล มาดริด
- แชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก : 2013-14
- แชมป์ ลา ลีกา : 2011-12
- แชมป์ โคปา เดล เลย์ : 2010-11,2013-14
ยูเวนตุส
- แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา : 2014-15
ทีมชาติ
- แชมป์ ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี : 2011
- แชมป์ ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี : 2013
- ดาวซัลโว ประจำการแข่งขัน ฟุตบอล ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี : 2011
- ดาวซัลโว ประจำการแข่งขัน ฟุตบอล ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี : 2013
- ติดทีมยอดเยี่ยมของ ยูโร รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี : 2013

ADS