ประวัติ ชินจิ โอโนะ

| 01/01/1970 07:00 น. | 1044 Views

 shinji

ชินจิ โอโนะ

เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งเอเชียประจำปี 2002 ผู้มี ดีเอโก้ มาราโดน่า เทพเจ้าลูกหนังของปวงชนชาวอาร์เจนไตน์ เป็นนักเตะขวัญใจเหมือนกับใครๆ อีกหลายคน เจิดจรัสขึ้นมาในฐานะเด็กสร้างมหัศจรรย์ของ อูราวะ เร้ดส์ ไดมอนด์ ก่อนย้ายไปดังสุดขีดกับ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม แห่งศึกพรีเมียร์ดัตช์ เมื่อปี 2001 ฝากผลงานชั้นยอดด้วยการยึดตำแหน่งตัวจริงและพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ มาครองได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ไปร่วมทีม

ในญี่ปุ่น โอโนะ มีชื่อเล่นที่แฟนๆ ตั้งให้ว่า "เทนไซ" หรือ "จีเนียส" (อัจฉริยะ) สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ โดยในระดับชาติ อายุ15 ก็เริ่มฉายแววแล้ว เมื่อร่วมทัพ "ซามูไรจิ๋ว" เดินทางมาคว้าแชมป์เยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศไทย คว้าตั๋วผ่านไปร่วมชิงชัยในศึกฟุตบอลชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่เอกวาดอร์ และปี 1998 มีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ไปร่วมแข่งขันในศึกเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย ที่ประเทศฝรั่งเศสด้วย ขณะมีวัยเพียง 18 ปี

ชินจิ โอโนะ

ปี 1999 สวมบทกัปตันพาทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นยู-20 คว้ารองแชมป์เยาวชนโลกอย่างยิ่งใหญ่ที่ประเทศไนจีเรีย และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 11 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ พร้อมกับซิวตำแหน่งดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชียประจำปีนั้นไปครองตามความคาดหมาย

มาถึงปีล่าสุดนี้ แม้เส้นทางชีวิตค้าแข้งของ โอโนะ กับ เฟเยนูร์ด จะมีปัญหาหลายๆ อย่างรุมเร้าโดยเฉพาะอาการบาดเจ็บ จนทำให้ต้องหวนกลับมาซบ อูราวะ ถิ่นเก่า ปิดฉากชีวิตค้าแข้งในถิ่น เดอ ไคป์ สเตเดี้ยม ด้วยสถิติลงเล่นทั้งสิ้น 111 นัด ยิงได้ 19 ประตู แต่กับทีมชาติญี่ปุ่นแล้ว นั่นไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลย ขอเพียงไม่เจ็บไม่ไข้เกินเยียวยาเท่านั้น ยังไงความอัจฉริยะของ "เทนไซ" ก็โดนใจ ซิโก้ ผู้เป็นเจ้านาย รวมถึงฝ่ายสนับสนุนไม่ยอมเปลี่ยนแปลง

ชินจิ โอโนะ

แต่ถึงอย่างไร ผมงานก็ต้องมาก่อน แม้ฟอร์มเก่าๆที่ค่อนข้างน่าประทับใจ แต่จากการที่ได้ลงเล่นให้กับทีมน้อย (ทั้งฤดูกาล 2005-06 ลงได้ทั้งสิ้น 4 นัดเท่านั้น) ทำให้ทีมดังลีกฮอลแลนด์จำต้องตัดใจขายโอโนะทิ้ง ซึ่งทีมที่มารับช่วงต่อก็คือ "อุราวะ เรด ไดมอนด์" ทีมเก่าของเขานั่นเอง ในสนธิสัญญารวม 3 ปีด้วยกัน

เมื่อหายจากอาการบาดเจ็บ ได้ลงแข่งอย่างสม่ำเสมอ เขาก็กลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง โอโนะเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก2002 จากนั้น โอโนะก็ได้ไปซ้อมทีมชาติร่วมกับเด็กๆรุ่นน้อง เมื่อเขาติด 1 ใน 3 นักเตะอายุเกิน 23 ปี ชุดเข้าแข่งขันโอลิมปิก ปี 2004 จากนั้นก็ติดทีมชาติอีกทีในชุดลุยฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมัน

ช่วงต้นฤดูกาล 2007 โอโนะซึ่งอยู่กับทีมอุราวะมาแล้วปีหนึ่ง ก็เกิดอาการบาดเจ็บขึ้นอีกครั้ง ทำให้หลุดออกจากตัวจริงของทีม จนกระทั่งมีโอกาสได้กลับมาเล่นในลีกยุโรปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือการย้ายมาร่วมทีม โบคุ่ม จนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งการลงแมทช์แรกของเขากับโบคุ่มนั้น โอโนะจ่ายสองลูกช่วยให้ทีมเอาชนะเบรเมนไปได้เป็นหนแรกเสียด้วย!!!

 

ADS