ประวัติ ไมค์ ไทสัน

| 01/01/1970 07:00 น. | 1111 Views

ไมค์ ไทสัน

 

 


ชื่อเต็ม                  ไมเคิ่ล เจอราร์ด ไทสัน

 

พิกัดการชก                    เฮฟวี่เวท

สูง                                 5ฟุต 11นิ้ว

สัญชาติ                            อเมริกัน

วันเกิด                        30 มิถุนายน 1966

สถานที่เกิด     บรู๊คลิน, นิวยอร์ค ซิติ้, นิวยอร์ค

ศาสนา                              คริสต์

ฉายา            “ไอ้เด็กนรก” “มฤตยูดำ” “คนถ่อยสะท้านโลก”



ไมเคิ่ล เจอร์ราด “ไมค์” ไทสัน เกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 1966 เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นนักมวยที่ดีที่สุดตลอดกาลในรุ่นเฮฟวี่เวท และเป็นนักมวยที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมวยเฮฟวี่เวทที่คว้าแชมป์3สถาบันใหญ่อย่าง WBC, WBA และ IBF เพียงอายุ20ปีเท่านั้น ไทสันได้รับการกล่าวขานว่าเป็นบุคคลที่เถื่อนถ่อยทั้งในและนอกสังเวียน
 

 

 “มฤตยูดำ” ไมค์ ไทสัน ชนะน็อกต์กราวรูด 19ไฟต์รวด จากการขึ้นชกทั้งหมด19ครั้งแรกในการชกอาชีพ และเป็นการน็อกต์ในยกที่1ถึง12ครั้ง เขาคว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครองในยุคปลายของทศวรรษที่80 ตั้งแต่อายุ20ปีและเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในรุ่นเฮฟวี่เวท ไทสันต้องมาพ่ายน็อกต์อย่างช็อกโลกให้กับเจมส์ “บัสเตอร์”ดักลาส ในวันที่11 กุมภาพันธ์ 1990


 ในปี1992 อนาคตในอาชีพการชกมวยของเขามีอันต้องวูบลง หลังจากถูกจับในคดีข่มขืนจนถูกต้องโทษจำคุก3ปี จนกระทั่งในปี1995 ไทสันถูกปล่อยตัวออกมา และกลับมาใหม่ในภาค “ไทสัน”รีเทริน์ เขากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์โลกมาครองได้ จนกระทั่งมาพลาดท่าแพ้น็อกต์ไปอย่างหมดสภาพในยกที่11ให้กับ อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ ในปี1996 และในปี1997ก็มีเหตุการณ์อัปยศเกิดขึ้น ในไฟต์รีแมตซ์กับโฮลีฟิลด์นี้เอง เมื่อไทสันกัดเข้าที่ใบหูของโฮลีฟิลด์จนถูกจับแพ้  และถูกยึดใบอนุญาตชกมวยอย่างไม่มีกำหนด เขากลับมามาอีกครั้งในปี2002 แต่ก็ถูก เลนน็อกส์ ลูอิส ไล่ต่อยอยู่ข้างเดียวแพ้น็อกต์ไปอย่างไม่เหลือคราบอดีตแชมป์โลก


ไมค์ ไทสัน ต้องแขวนนวมอย่างเป็นทางการในปี2005 หลังจากถูกทุบโดยมวยโนเนมอย่าง แดนนี่ วิลเลี่ยมส์ และ เควิน แม็คไบรด์ต่อเนื่องกัน ไทสันต้องมาล้มละลายในปี2003 โดยมีหนี้สินถึง300ล้านเหรีญสหรัฐ

 

“มฤตยูดำ”ถูกจัดให้อยู่อันดับ16 นักมวยยอดเยี่ยมตลอดกาล จากการจัดอันดับของนิตยาสารเดอะริง


 ชีวิตในวัยเด็ก

 

 



ไทสันเกิดที่ บรู๊คลิน นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา มีพี่น้อง2คนคือ ร็อดนี่ย์ และเดนีส ไทสันต้องอยู่กับแม่และพี่น้อง เพราะพ่อของเขา จิมมี่ เคริกแพทริก ทิ้งไปตั้งแต่ไทสันอายุ2ขวบ ตอนที่ไมค์ ไทสัน อายุครบ13ปีเขาถูกจับทั้งหมด13ครั้งส่วนใหญ่ไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำเยาวชน จอห์นสทาวน์ ที่นั่นเขาไปฝึกซ้อมมวยกับบ็อบบี้ สจ๊วต ซึ่งก็เห็นแววเพชฌฆาตในตัวของไมค์ จึงแนะนำให้ปรมจารย์อย่าง คัส ดิ อามาโต ปั้นต่อ

 

เมื่อไทสันอายุครบ16ปี แม่ของเขาก็เสียชีวิตลงและไทสันเข้าไปอยู่ในความดูแลของ คัส ดิ อามาโต ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อเขามากที่สุดในเวลาต่อมา

จุดสูงสุดของอาชีพ

 

 

ไทสันเริ่มต้นชกมวยอาชีพครั้งแรกในวันที่ 6 มีนาคม 1985 ใน อัลบานี่ นิวยอร์ค และก็เอาชนะน็อกต์ เฮคเตอร์ เมอร์เซเดสได้ในยกที่1 ในช่วง2ปีแรกในการเริ่มต้นชกมวยอาชีพของไทสัน เขาสามารถเอาชนะน็อกต์คู่ต่อสู้ได้ถึง26ครั้ง จากชัยชนะทั้งหมด28ครั้ง และเป็นการชนะน็อกต์ในยกแรกถึง16ครั้ง จนกลายเป็นนักมวยดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดในยุคนั้น

 


ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1986 ไทสันได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทเป็นครั้งแรกกับเจ้าของเข็มขัดสภามวยโลก(WBA) ชาวกาน่า เทรเวอร์ เบอร์บิค และไทสันก็เก็บเบอร์บิคไปอย่างง่ายดายในยกที่2 และกลายเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมวยรุ่นยักษ์เมื่ออายุ 20ปี 4เดือน

ไมค์ ไทสัน มีลีลาการชกที่ดุดัน ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว พลังกำปั้น ความแข็งแกร่ง การป้องกันตัวตามแบบฉบับของเขา  


ยอดแชมป์เปี้ยนส์โลก

ความคาดหวังในตัวของ ไทสัน นั้นสูงมาก และเขาก็ปราบยอดมวยในรุ่นเฮฟวี่เวทมาเกลี้ยงคลอก เขาเอาชนะคะแนน เจมส์  สมิธ ในการเดิมพันแชมป์ (WBA-WBC)  ในวันที่ 7 มีนาคม 1987 ที่ลาสเวกัส และวันที่1สิงหาคม ไทสันก็รวบเข็มขัดมาได้อีกเส้น ด้วยการปราบ โทนี่ ทัคเกอร์ แชมป์ IBF เขากลายเป็นแชมป์เฮฟวี่เวท3สถาบันคนแรกในวงการมวยยักษ์




ไทสัน ชก3ไฟต์ในปี1988 ไทสันเจอกับ ลาร์ลี่ โฮลมส์ และเขาก็ตะบันอดีตแชมป์พ่ายน็อกต์ครั้งแรกในชีวิตการเป็นนักมวยในยกที่4  ถัดมา ในเดือนมีนาคม เป็นการเปิดตัวของไทสันในญี่ปุ่น และเขาก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง ด้วยการทุบโทนี่ ทับส์ ชักในยกที่2 และไฟต์สุดท้ายในปีนั้นก็คือการเอาชนะไมเคิ่ล สปิ๊งส์นักมวยที่ยังไม่เคยแพ้ใครในยกที่1 และทำให้สปิ๊งส์ต้องแขวนนวมไปเลย

 


จุดพลิกผัน

ในที่สุดตัวตนที่แท้จริงของ “มฤตยูดำ”
ก็เริ่มเผยออกมาโดยเฉพาะเรื่องนอกสังเวียน เขาแต่งงานกับ โรบิน กิฟเว่นส์ ก่อนที่จะหย่าขาดจากกันจนกลายเป็นข่าวใหญ่ และเขาก็มีปัญหาเรื่องสัญญาการชกมวยระหว่าง ดอน คิง กับ บิล เคย์ตัน ในช่วงปลาสยปี1988  ไทสันก็จัดการตะเพิด เควิน รูนี่ย์ พ้นสภาพการเป็นเทรนเนอร์ ซึ่งเป็นคนๆที่พาไทสัน ก้าวมาเป็นยอดมวยได้ตั้งแต่ดิ อามาโต ตายไป

สไตล์การชกของไทสันเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาพยายามจะอัดคู่ต่อสู้ด้วยหมัดเดียว และจ้องจะต่อยแต่หน้า แถมยกการ์ดต่ำอีกด้วย ในปี1989 ไทสันขึ้นชกแค่2ครั้ง เป็นการตะบันกับ แฟรงค์ บรูโน่ และ “มฤตยูดำ” ก็เช็กบิลไปได้ในยกที่5 ตามด้วยน็อกต์ คาร์ล วิลเลี่ยมส์ในยกที่1

ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1990 ก็ขึ้นชกกับ บัสเตอร์ ดักลาส ที่โตเกียว โดยไทสันเป็นต่อถึง42-1 แต่ดักลาสกลับทำเรื่องช็อกโลกด้วยการตะบันไทสันไปอย่างหมดสภาพในยกที่10 ว่ากันว่านี่เป็นไฟต์พลิกล็อกมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมวยโลก



หลังจากนั้น

ไทสันกลับมาแก้ตัวได้ด้วยการน็อกต์ เฮนรี่ ทิลล์มาน

 


อเล็กซ์ สจ๊วต ในยกแรก ทั้ง2ไฟต์ ทำให้ไมค์มีโอกาสกระชากเข็มขัดของเขาคืนมาจาก อีแวนเดอร์ โฮลี่ฟิลด์ที่ไปเอาชนะน็อกต์ดักลาสได้ในยกที่3



อย่างไรก็ตาม ไฟต์หยุดโลกระหว่างไทสัน-โฮลี่ฟิลด์ มีอันต้องยุติลง เพราะไทสันต้องติดคุกจากคดีข่มขืนในเดือนกรกฎาคม 1992 เขาต้องรับโทษอยู่ในคุกเป็นเวลา3ปี จนกระทั่งปี1995 ไทสันพ้นโทษออกมา และกลับมาทวงเข็มขัดแชมป์ที่เขาเคยครองกลับมาได้สำเร็จ ด้วยการไล่ทุบแฟรงค์ บรูโน่ กองในยกที่3 กระชากแชมป์WBCมาครอง ในเดือนมีนาคม 1996 และรวบแชมป์WBAมาอีกเส้นหลังจากตะบันบรู๊ซ เซลดอนชกคามุมเพียงแค่ยกที่1ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน

ไทสัน
vs โฮลี่ฟิลด์ ภาค1


 


 

 “มฤตยูดำ”ไมค์ ไทสันขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์สมาคมมวยโลก(WBA)กับ “ของจริง” อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ ในเดือนกันยายน1996 ซึ่งไทสันเป็นต่อบานเบอะ แต่ “the real deal”ก็ช็อกโลกด้วยการเอาชนะน็อกต์ไทสันไปได้อย่างเหลือเชื่อในยกที่11

ไทสัน
vs โฮลีฟิลด์ ภาค2



ไฟต์อัปยศของวงการมวยโลกก็อุบัติขึ้นในไฟต์นี้ หลังจาก2ยกแรกเกมการชกดำเนินไปอย่างตื่นเต้น และทำท่าว่าจะสนุกอีกครั้ง แต่แล้วในช่วงปลายยกที่3 ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อไทสันกัดเข้าที่ใบหูข้างขวาของโฮลีฟิลด์จนแหว่ง ถูกจับแพ้ไปในที่สุด และหลังจากไฟต์นี้ผ่านไป ไทสันก็ถูกยึดใบอนุญาตชกมวยอย่างไม่มีกำหนด


ไทสัน vs ลูอิส


หลังจากพ้นโทษแบนกลับมา ไทสันชกอุ่นเครื่องอยู่2-3ครั้งก่อนได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกกับ เลนน็อกส์ ลูอิส เจ้าของแชมป์3สถาบัน

 

(WBC,IBF และ IBO) แต่ไทสันที่ไม่เหลือสภาพแชมป์โลกให้เห็นก็พ่ายน็อกต์ไปอย่างหมดสภาพในยกที่8

สูงสุดสู่สามัญ

ในเดือนสิงหาคม 2003 ไทสันถูกฟ้องล้มละลาย โดยไทสันที่ทำเงินได้จากการชกมวยถึง300ล้านเหรียญสหรัฐ
 ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าจะล้มละลายได้



วันที่30 กรกฎาคม 2004 ไทสันเผชิญหน้ากับ แดนนี่ วิลเลี่ยมส์ นักชกจากเกาะอังกฤษ และไทสันก็แพ้ไปอย่างหมดสภาพในยกที่4 ซึ่งไทสันกล่าวหลังเกมการชกว่า เขามีอาการบาดเจ็บที่เข่าตั้งแต่ยกแรกนั่นเป็นสาเหตุที่เขาต้องแพ้ไป

ในไฟต์ต่อมาเขาก็แพ้ให้กับเควิน แม็คไบร์ด อย่างหมดสภาพในยกที่7 และเขาก็ประกาศแขวนนวมอย่างเป็นทางการพร้อมเหตุผลที่ว่า “เขาไม่มีใจรักการชกมวยอีกต่อไปแล้ว”
 


 

ชีวิตหลังสังเวียน
มิถุนายน 2005 ไทสันได้ยอมรับว่าเขาได้หลงทางไปพักใหญ่ช่วงชีวิตการชกมวยและเขาก็ขอโทษต่อสื่อและแฟนมวยทุกคนกับสิ่งที่น่าอับอายที่เคยทำลงไป




ธันวาคม 2006 ไทสันถูกจับฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครอง แต่เขาก็พ้นผิดไม่โดนต้องโทษหนักแต่อย่างใด
เมษายน 2009 ไทสันยืนยันตอบรับข้อตกลงที่จะเอาชีวิตเขามาทำเป็นภาพยนตร์ โดยมี เจมี่ ฟ็อกซ์ แสดงเป็นบทบาทของไมค์ ไทสัน

เกียรติประวัติต่างๆ

Tyson established an impressive list of accomplishments, mostly early in his career:[117]

Titles

  • Junior Olympic Games Champion Heavyweight 1982
  • National Golden Gloves Champion Heavyweight 1984
  • Undisputed Heavyweight champion (held all three major championship belts; WBA, IBF, and WBC) — August 1, 1987 – February 11, 1990
  • WBC Heavyweight Champion — November 22, 1986 – February 11, 1990, March 16, 1996 – 1997 (Vacated)
  • WBA Heavyweight Champion — March 7, 1987 – February 11, 1990, September 7, 1996 – November 9, 1996
  • IBF Heavyweight Champion — August 1, 1987 – February 11, 1990

Records

  • Youngest Heavyweight champion — 20 years and 4 months
  • Junior Olympic quickest KO — 8 seconds

Awards




ADS