ประวัติ สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล

| 01/01/1970 07:00 น. | 1685 Views

สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล

ประวัติส่วนตัว


ชื่อ-สกุล : สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล
ชื่อเล่น : แว่น ความจริงชื่อเล่นว่าจิ๋ว
ภูมิลำเนา : กรุงเทพฯ
เกิดเมื่อ 14 ก.พ. 2520

ประวัติการศึกษา :
-  เรียนอนุบาลถึงชั้นป.6 ที่โรงเรียนคณิตวิทยา
-  โรงเรียนน้อยนพคุณ
-  ปริญญาตรี คณะสังคมวิทยามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว

ประสบการณ์ :
- นักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียน
- ได้รับเลือกติดทีมเยาวชนเขต 10 เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติถึง 4 ครั้ง
- ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และสุพรรณบุรี
- ได้รับคัดเลือกติดทีมชาติไทยในที่สุด ในการแข่งขันบาสเกตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ประเภทดิวิชั่นสอง ที่ประเทศญี่ปุ่นชื่อของสิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล มาดังระเบิดเถิดเทิงเมื่อเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะทั้งฝีมือ หน้าตาทำให้ทุกครั้งที่ น้องแว่น ลงเล่น คนดูเต็มสนามทุกที และทำให้บาสเกตบอลกลับมาเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอีกครั้งตอนนี้แว่นก็ยัง เล่นบาสเกตบอลอยู่เหมือนเดิม

ที่อยู่ :
- 99/105 ถ.เทศบาลสงเคราะห์ ต.ลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ  หรือ
- 459 ซ.พิบูลย์อุปถัมภ์ ลาดพร้าว 48 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.10310

You Are What You Eat
กินดี…สุขภาพดี แค่นี้ก็ Happy แล้ว



 

 


สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล (น้องแว่น)
      หากพูดถึงสาวหล่อ เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง น้องแว่น สิริรัตน์ ยนต์โยธินกุล อดีตนักบาสเกตบอลหญิงทีมชาติไทย เป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน จำได้ว่าเราเริ่มรู้จัก น้องแว่น ครั้งแรกเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ในฐานะ นักบาสสาวหล่อ ซึ่งดังระเบิดวงการกีฬาบ้านเราด้วยภาพลักษณ์ของนักบาสหญิงฝีมือดีที่หล่อจน สื่อมวลชนขนานนามเธอว่า ศรราม 2 แต่เอ…ช่วงนี้ น้องแว่น หายหน้าหายตาไปไหน Live Well Guide ฉบับนี้รับอาสาตามหา น้องแว่น มาไขข้อข้องใจให้คลายความสงสัยและหายคิดถึงกัน

ก้าวสู่ทีมชาติ…ต้องฝึกซ้อมหนัก
      แว่นติดทีมชาติตั้งแต่ปี 2538 ค่ะ ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 1 คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ. ต้องเรียนที่ศูนย์รังสิต แต่แว่นเก็บตัวฝึกซ้อม รวมทั้งกินอยู่หลับนอนที่การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ซ้อมหนักมากกกก (น้องแว่นลากเสียงยาว) ตื่นมาซ้อมตั้งแต่ตี 5 ถึง 7 โมงเช้า แล้วนั่งรถเมล์ไปถึงมหาวิทยาลัยไม่เกิน 9 โมงครึ่ง พอเลิกเรียน 4 โมงเย็นก็รีบกลับมาซ้อมที่หัวหมาก แว่นก็อาศัยพักผ่อน (นอนหลับ) บนรถเมล์นั่นแหละค่ะ (พูดไปหัวเราะไป) ส่วนเรื่องเรียนไม่มีปัญหาค่ะ เพราะแว่นโชคดีที่เพื่อนๆ และอาจารย์เข้าใจ อาจมีแอบหลับบ้าง ยืมเล็คเชอร์เพื่อนไปอ่านบ้าง แต่แว่นไม่เคยขาดเรียนนะคะ ส่วนชีวิตหลังเรียนจบก็เหมือนเดิมค่ะ ยังคงซ้อมหนักเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนจากไปเรียนเป็นไปทำงานเท่านั้นเอง แต่มีช่วงหนึ่งที่แว่นเหนื่อยสุดๆ (ปี 2544) ทั้งซ้อมบาส ทั้งเรียนปริญญาโท ทั้งทำงาน เริ่มรู้สึกว่าไม่ค่อยเต็มที่กับงาน เกรงใจทั้งเพื่อนร่วมงานทั้งเจ้าของบริษัท เลยตัดสินใจลาออกจากงานค่ะ หลังจากเรียนจริญญาโท คณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ จึงเริ่มทำงานอีกครั้งที่บริษัทของคุณอา

อิ่มตัวแล้วกับ 9 ปีที่รับใช้ชาติ
      แว่นเลิกเล่นทีมชาติตั้งแต่ปี 2547 ค่ะ รู้สึกว่าอิ่มตัวแล้วกับ 9 ปีที่รับใช้ชาติ แต่แว่นก็ไม่ได้ละทิ้งวงการบาสไปไหนนะคะ ยังมีเล่นบาสเพื่อการกุศลอยู่บ้างเหมือนกัน และช่วยคุณอาทำทีมบาสสโมสรไฮเทค ซึ่งเพิ่งได้แชมป์ ถ้วยพระราชทานฯ ถ้วย ก มาหมาดๆ ด้วยค่ะ ปัจจุบันนี้แว่นทำงานอยู่เบื้องหลังวงการบันเทิงเป็น Co-Producer รายการเงาะถอดรูป ทางช่อง 3 ค่ะ อย่าลืมติดตามชมนะคะ

หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ
      แว่นยังออกกำลังกายสม่ำเสมอนะคะ เช่น ทำงานบ้านเอง เล่นกับสุนัขที่บ้าน แต่ถ้าวันไหนกลับบ้านเร็วแว่นจะไปเล่นบาสที่สนามใกล้บ้าน ซึ่งก็ได้สอนน้องๆ แถวนั้นด้วย สำหรับสุขภาพของแว่นก็โอเคนะคะ แข็งแรงดีเหมือนเดิม อาจเป็นโชคดีที่แว่นไม่เที่ยวกลางคืน เพราะแพ้ควันบุหรี่และแอลกอฮอล์ค่ะ และแว่นบริจาคโลหิตทุก 3 เดือนมาโดยตลอดด้วยค่ะ

อาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญ
      แว่นให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารการกินเป็นปกติอยู่แล้ว ยิ่งเลิกเล่นบาสทีมชาติยิ่งต้องใส่ใจมากขึ้นค่ะ เพราะตอนนี้แว่นไม่ได้ออกกำลังกายหนักเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แถมอายุก็มากขึ้นด้วย (หัวเราะ) เลยต้องระวังเรื่องอาหารจำพวกแป้งและไขมัน ทานผักผลไม้เยอะๆ ดื่มน้ำมากๆ ไม่ทานน้ำอัดลมและเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัวค่ะ

วิธีจัดการความเครียด
      ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา, นักศึกษา, หรือพนักงานบริษัทแน่นอนว่าต้องมีบางเวลาที่รู้สึกเครียด แต่แว่นมีวิธีจัดการกับความเครียดโดยการนั่งสมาธิ, สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน, ไปดูหนังหรือดู VCD ที่บ้านบ้าง, เปิดเพลงฟังแล้วร้องตามขณะขับรถ, ออกกำลังกาย เช่น ตีแบด ว่ายน้ำ เล่นบาส และเดินเล่นกับสุนัขค่ะ

ปัจจัยที่ทำให้หนุ่มๆ แข็งแรง กระชุ่มกระชวย และสาวๆ สดใส เปล่งปลั่ง
      แว่นคิดว่าผู้ชายควรหันมาออกกำลังกายให้มากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อเฟิร์ม รูปร่างดี พุงไม่พลุ้ย และจะดียิ่งขึ้นถ้าลดเที่ยวกลางคืน งดเหล้าเบียร์บุหรี่ได้ก็จะดีที่สุดค่ะ และต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะคะ ส่วนปัจจัยที่ทำให้สาวๆ สดใส เปล่งปลั่ง น่าจะมาจากการที่ผู้หญิงระวังเรื่องอาหารการกินกันมากขึ้น ดูแลเรื่องความสะอาดของร่างกายอย่างดี และแบ่งเวลาให้กับการออกกำลังกายบ้าง รวมทั้งทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคู่ไปด้วยค่ะ

วิธีดูแลตัวเองให้สดใส สุขภาพดี อยู่เสมอ
      แว่นให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารการกินเป็นอันดับแรกเลยค่ะ แว่นจะใส่ใจทุกครั้งก่อนที่จะทานอะไร ดูว่ามีประโยชน์ไหม แว่นไม่ทานอาหาร Fast Food ของหมักดอง ระวังอาหารจำพวกแป้งและของมันๆ ดื่มน้ำเยอะๆ ผิวจะได้ไม่เหี่ยว แว่นทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบ้างเหมือนกันนะคะ เช่น วิตามินต่างๆ เพื่อช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ส่วนช่วงที่ต้องใช้พลังงานเยอะหรืออ่อนเพลีย อดหลับอดนอน แว่นจะทานซุปไก่สกัดค่ะ นอกจากเรื่องการกิล้วเรื่องจิตใจแว่นก็นั่งสมาธิค่ะ

เคล็ดลับเด็ดๆ ที่ทำให้หน้าใส ชะลอริ้วรอย
      จะว่าไปแล้วแว่นก็เข้าใกล้เลขสามเต็มทีแล้ว แต่หลายคนบอกว่าแว่นยังหน้าใสผิวดีไม่เปลี่ยนเลย (น้องแว่นพูดไปเขินไป) แว่นมีเคล็ดลับค่ะ เด็ดๆ เลยคือเรื่องอาหารการกิน จะเห็นว่าแว่นย้ำเรื่องนี้มาก เพราะกินอะไรเข้าไปจะส่งผลกับร่างกายเราอย่างนั้น อีกเรื่องคือการดูแลผิวพรรณ ต้องรักษาความสะอาด และทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ที่สำคัญห้ามล้างหน้าด้วยน้ำเย็นตอนอากาศร้อน หรือหลังออกแดดทันที เพราะจะทำให้เป็นฝ้าค่ะ


 

ADS