ประวัติ ฟิลิปป์ ลาห์ม

| 01/01/1970 07:00 น. | 2400 Views

เลิฟ ชี้ ลาห์ม คือ "มิสเตอร์ เอฟวรีติง"


 

     โยอาคิม เลิฟ ผู้จัดการทีมของทีมชาติเยอรมัน ออกโรงยกย่อง ฟิลิปป์ ลาห์ม แบ็คขวาจากสโมสรบาเยิร์น มิวนิค ว่าเป็นนักเตะที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งที่สุดในเวทีบุนเดสลีก้า

     ลาห์ม ถูก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของ "เสือใต้" โยกไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับในฤดูกาลนี้ ซึ่ง เลิฟ เชื่อว่า มีนักเตะแค่ไม่กี่คนที่จะทำได้เช่นนั้น

     "ตามแผนของผม ฟิลิปป์ จะลงเล่นตรงตำแหน่งแบ็คขวา เพราะในสายตาของผม เขาคือ ฟูลแบ็คที่ดีที่สุดในโลก" เลิฟ กล่าว

     "ฟิลิปป์ อาจจะเป็นนักเตะเพียงคนเดียวในเยอรมัน ที่สามารถลงเล่นในทุกตำแหน่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ"

     "เขาไม่เคยมีปัญหากับการปรับตัวให้เข้ากับตำแหน่งใหม่ๆ เลย แม้จะโยกจากด้านขวาไปเล่นอยู่ด้านซ้ายแทนก็ตาม คุณสามารถวาง ฟิลิปป์ ตรงตำแหน่งไหนก็ได้ เพราะยังไง เขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอยู่ดี" เลิฟ ปิดท้าย

     ในปัจจุบัน ลาห์ม เป็นกัปตันของทีมชาติเยอรมัน และลงสนามรับใช้ชาติไปแล้วทั้งสิ้น 101 นัด

2013-10-14

ชื่อ : ฟิลิปป์ ลาห์ม
 
เชื้อชาติ : เยอรมัน
 
วันเกิด : 11 พฤศจิกายน 1983
 
อายุ : 29 ปี
 
สถานที่เกิด : เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันตะวันตก
 
ส่วนสูง : 170 ซม.
 
ต้นสังกัด : บาเยิร์น มิวนิค

ตำแหน่ง : ฟูลแบ็ค, กองกลางตัวรับ

 

     ฟิลิปป์ ลาห์ม เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1983 ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันตะวันตก เริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งก็อยู่กับบาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่เริ่มแรก เขาเติบโตจากการเป็นนักเตะเยาวชนของ "เสือใต้" ทีมต้นสังกัดปัจจุบัน โดยเริ่มเล่นในตำแหน่ง แบ็กซ้าย และเติบโตมาในทีมเยาวชน ลาห์ม ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของบาเยิร์นเป็นครั้งแรกในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่เสมอกับ ลองส์ ไป 3-3 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2002

     ในฤดูกาล 2003-04 บาเยิร์น ก็ได้ตัดสินใจปล่อยตัว ลาห์ม ไปหาประสบการณ์กับ สตุ๊ตการ์ต แบบยืมตัว ในระยะเวลา 2 ฤดูกาล โดยมีสถิติลงสนามทั้งหมด 52 นัด ยิงได้ 2 ประตู ต่อมา ในเดือน กรกฎาคม ปี 2005 แบ็กดาวรุ่ง ก็กลับมายัง ต้นสังกัด บาเยิร์น มิวนิค อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาก็เจออาการบาดเจ็บรบกวน จนต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่เป็นระยะ ซึ่งกินเวลาถึง 5 เดือน กว่าที่ ลาห์ม จะหายกลับมาอยู่บนผืนหญ้าอีกครั้งในเดือนธันวาคม

     ฤดูกาล 2006-07 ลาห์ม ลงเล่นบุนเดสลีกาเต็มทั้ง 34 นัด เพราะเขาทำหน้าที่ในตำแหน่งแบ็คซ้ายได้ดีที่สุดในสโมสร และในวันที่ 20 สิงหาคม 2006 ในนัดที่บุกไปชนะ โบคุ่ม 2-1 เขาก็สามารถยิงประตูแรกให้กับต้นสังกัดได้ ต่อมา ในฤดูกาล 2007-08 บาเยิร์นได้ซื้อตัว มาร์เซลล์ แยนเซ่น แบ็คซ้ายทีมชาติเยอรมันมาร่วมทีม ทำให้ ลาห์ม ถูกโยกไปเป็นแบ็คขวา และช่วงปิดฤดูกาล มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการย้ายทีมของเขาไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า แต่สุดท้าย บาเยิร์น ก็จับเขาต่อสัญญากับทีมได้สำเร็จ

     ในฤดูกาล 2008-09 ลาห์ม ทำประตูได้ถึง 3 ประตู จากการลงสนาม 28 นัดในลีก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยให้ บาเยิร์น คว้าแชมป์ใดๆ ได้อยู่ดี ทำให้ เจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ เทรนเนอร์ของ "เสือใต้" ในตอนนั้น ต้องออกจากตำแหน่งไป ในฤดูกาล 2009-10 ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล โค้ชคนใหม่ ลาห์ม ได้ลงเล่นในตำแหน่งที่เขาชอบ คือ แบ็คขวา ซึ่งเขาทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยิง 1 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูอีก 12 ครั้ง รวมในทุกรายการ

     จากการย้ายทีมออกไปของ มาร์ค ฟาน บอมเมล ทำให้ ลาห์ม ได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมบาเยิร์นในฤดูกาล 2010-11 และในวันที่ 12 พฤษภาคม 2012 เขาก็พาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งพบกับ เชลซี แต่สุดท้ายก็ได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์ ต่อมาในฤดูกาล 2012-13 ลาห์ม ก็พาทีมประสบความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ สามารถคว้าได้ถึง 3 แชมป์ คือ แชมป์บุนเดสลีก้า, แชมป์เดเอฟเบ โพคาล และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

     และล่าสุดในฤดูกาล 2013-14 นี้ ลาห์ม ได้พบกับความท้าท้ายครั้งใหม่ โดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จับเขาไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ ซึ่งเขาลงสนามไปแล้ว 12 นัด ยังทำประตูไม่ได้เลย

     สำหรับในนามทีมชาติเยอรมัน ลาห์ม ติดทีมชาติตั้งแต่ชุดเยาวชนในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี, 20 ปี และ 21 ปี จนกระทั่งถึงทีมชาติชุดใหญ่ โดยเขาลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2004 ในนัดที่เอาชนะ โครเอเชีย 2-1 ด้วยวัยเพียง 20 ปี หลังจากนั้น ลาห์ม ก็เป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชาติเยอรมันมาโดยตลอดในทุกรายการแข่งขัน จนถึงตอนนี้ เขาลงสนามให้กับทีมชาติไปแล้ว 101 นัด ยิงได้ 5 ประตู

     ถ้าจะนึกถึงฟูลแบ็คที่เก่งที่สุดในโลก คงจะต้องมีคนเอ่ยชื่อ ฟิลิปป์ ลาห์ม ขึ้นมาเป็นแน่ เพราะด้วยความสามารถที่เขาแสดงออกมาให้กับทุกคนได้เห็นก็เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่ายอดเยี่ยมขนาดไหน ถึงตอนนี้เขาจะต้องพิสูจน์ตัวเองกับบทบาทใหม่ในตำแหน่งกองกลางตัวรับ แต่เชื่อเหลือเกินว่า ลาห์ม คงทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กับตำแหน่งฟูลแบ็คเป็นแน่

Updated by [G]

ADS