ประวัติ มาธิเยอ เดอบูชี่

| 01/01/1970 07:00 น. | 467 Views
ชื่อเต็ม : มาธิเยอ เดอบูชี่
วันเกิด : 29 กรกฏาคม 1985 (อายุ 29 ปี)
เกิดที่ : เฟรย์ติน , ประเทศฝรั่งเศส
สัญชาติ : ฝรั่งเศส
ส่วนสูง : 177 เซนติเมตร
ตำแหน่ง : แบ็คขวา
สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซน่อล

ประวัติส่วนตัว
     เดอบูชี่ เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมในบ้านเกิดอย่าง ยูเนี่ยน สปอร์ตทีฟ เฟรย์ติน ก่อนจะได้เข้าร่วมสังกัดกับสโมสร ลีลล์ ในวัย 8 ขวบ หลังจากนั้นเขาก็เล่นในทีมเยาวชนของ ลีลล์ มาเรื่อยๆและโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ จนเข้าสู่ฤดูกาล 2003-2004 ในช่วงพักเบรคฤดูหนาว เดอบูชี่ ถูกเรียกให้ลองมาลงซ้อมในทีมชุดใหญ่ดูซึ่งเขาก็สามารถโชว์ฟอร์มได้เข้าตาเหล่าบรรดาสต๊าฟและกุนซือ ลีลล์ ในยุคนั้น จนได้รับเสื้อเบอร์ 33  

ลีลล์ (2003 - 2013)
     ในทีมชุดใหญ่ ลีลล์ เดอบูชี่ ลงเล่นเกมแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2004 โดยได้ลงเล่นในเกมที่พบกับ เมตซ์ และเขาก็สามารถพา ลีลล์ เอาชนะไปได้ในเกมนั้น 1-0 สุดท้ายแล้วฤดูกาลแรกในการเล่นในทีมชุดใหญ่กับ ลีลล์ เดอบูชี่ ได้รับโอกาสลงสนามไปทั้งหมด 5 นัด โดยแบ่งเป็นได้ลงตัวจริง 2 นัด และสำรอง 3 นัด
     ฤดูกาลต่อมา เดอบูชี่ ได้เปลี่ยนมาสวมเสื้อหมายเลข 2 เพื่อให้ดูเหมาะกับการเป็นแบ็คขวาซะหน่อย ฤดูกาลนี้เขาได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น โดยได้ลงไปทั้งหมด 19 นัด และสามารถทำได้ถึง 3 ประตู ลูกแรกที่เขาสามารถยิงได้ในการเล่นให้กับ ลีลล์ เป็นการยิงใส่ทีมอย่าง บอร์กโดซ์ และมันก็เป็นประตูที่น่าจดจำเพราะเขายิงมันได้ตั้งแต่นาทีแรกของเกมเลยทีเดียว ฤดูกาลนี้ ลีลล์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมมากโดยสามารถจบในอันดับ 2 ของศึกลีกเอิง ได้สำเร็จ ทำให้ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือกของศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก
 
     ฤดูกาล 2005-2006 เดอบูชี่ เริ้มต้นเล่นไปเพียง 11 นัด การได้รับอาการบาดเจ็บตรงบริเวณหัวเข่าในเกมที่พบกับ สตาร์บอร์ก ทำให้เขาต้องพักยาวถึง 6 เดือนเลยทีเดียว เดอบูชี่ ตรงรูดม่านปิดฤดูกาลนี้อย่างรวดเร็ว และมันส่งผลให้เขา พลาดการติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดยู-21 ปี ลุยศึกยูโร 2006 อีกด้วย เขาสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาได้เมื่อวันที่ 4 เมษายน และ ลีลล์ ก็มอบสัญญาฉบับใหม่ให้เขาลากยาวไปจนถึงปี 2010 
     เดอบูชี่ ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่อีกครั้งในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2011 ซึ่งคราวนี้ก็เซ็นกันไปทั้งหมด 4 ปี ฤดูกาลนี้ ฤดูกาลนี้ เดอบูชี่ สามารถช่วยให้ ลีลล์ ได้เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก โคปา เดอ เฟรนข์ โดยเขาลงสนามครบทั้ง 5 เกมเลยทีเดียว ในนัดชิง คู่แข่งของพวกเขาคือทีมที่แข็งแกร่ง อย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่ง เดอบูชี่ และ ทัพ ''หมาดำ'' ก็ต้านไหวไม่อยู่พ่ายไป 1-0 ทำได้เพียงแค่รองแชมป์ แต่พวกเขาก็สามารถลบฝันร้ายได้สำเร็จ เมื่อ ลีลล์ สามารถคว้าแชมป์ลีกเอิงมาครองได้ในฤดูกาลนี้ โดยนัดตัดสินแชมป์ เป็นเกมที่ ลีลล์ ต้องโคจรมาพบกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อีกครั้ง และก็เป็น เดอบูชี่ ที่เปิดบอลจากด้านข้างมาให้ มูซซ่า โซว์ ยิงเข้าไปให้ลีลล์ ตีเสมอเป็น 2-2 เก็บ 1 คะแนน และคว้าแชมป์ลีกเอิงมาครองได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกของลีลล์ตั้งแต่ ฤดูกาล 1953-1954 โดยต้องบอกเลยว่าฤดูกาลนี้เหมือนเป็นการแจ้งเกิดของ เดอบูชี่ ให้ผู้คนทั่วโลก หรือหลายสโมสรในยุโรปหันมาสนใจในตัวเขามากขึ้น

     ฤดูกาลต่อมา ในวันที่ 6 สิงหาคม 2011 เดอบูชี่ ออกสตาร์ทเกมแรกในลีกพาลีลล์พบกับ น็องซี่ และเขาก็สามารถทำประตูได้ในนาทีที่ 47 ของเกม พาลีลล์ แบ่งแต้มกับ น็องซี่ ได้สำเร็จ ฤดูกาลนี้ในศึกแชมป์เปี้ยนส์ลีก เดอบูชี่ ต้องกำศึกหนักอย่างมากเมื่อเขาถูกส่งลงครบ 90 นาที ทั้ง 6 นัด ในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ เดอบูชี่ ก็คงปลาบปลื้มไม่น้อย เมื่อในที่สุด เขาก็ได้รางวัลตอบแทนจากการทำงานอย่างหนัก เมื่อเขามีชื่อติดอยู่ในทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมฟุตบอลของฝรั่งเศส ตลอดระยะเวลาประมาน 10 ปี เดอบูชี่ ลงเล่นให้กับลีลล์ ไปทั้งหมด 233 นัด และยิงไปได้ทั้งหมด 16 ประตู

นิวคาสเซิ่ล (2013 - 2014)

     เดอบูชี่ ย้ายมาค้าแข้งในศึกพรีเมียร์ลีกของอังกฤษจนได้ ซึ่งเขาเองอยากได้รับความท้าทายใหม่ๆ หลังจากอยู่รับใช้ ลีลล์ มานานถึง 10 ปี โดยเซ็นสัญญาอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2013 โดยเซ็นสัญญาด้วยกันทั้งหมด 5 ปี ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านปอนด์ (ประมาน 298 ล้านบาท) ซึ่ง เดอบูชี่ ก็ลงเล่นเกมแรกให้กับทัพ ''สาลิดง'' เมื่อวันที่ 12 มกราคม ในเกมที่พบกับ นอริช ซิตี้ 
     เดอบูชี่ สามารถทำประตูแรกกับ นิวคาสเซิ่ล ได้ ในเกมที่ทำศึก ดาร์บี้แมตช์กับทีม ''แมวดำ'' ซันเดอร์แลนด์ ที่ เดอะ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2013 แต่ทัพ ''สาลิกาดง'' ก็ต้องแพ้ไปในเกมนี้ 2-1 ขึ้นปีใหม่ 2014 เดอบูชี่ ก็ประเดิมด้วยการโดนใบแดงครั้งแรกในสีเสื้อ นิวคาสเซิ่ล เลย จากจังหวะที่ไปเข้าปะทะหนักใส่ คลาวดิโอ ยาค็อบ ส่งผลให้ เดอะแม็กพายส์ พ่าย เวสบรอมฯไปในเกมนี้ 1-0 เดอบูชี่ ลงเล่นให้กับ ''สาลิกาดง'' นิวคาสเซิ่ล ไปทั้งหมด 43 นัด และยิงไปได้ 1 ประตู

อาร์เซน่อล (ปัจจุบัน)
     เดอบูชี่ ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับอาร์เซน่อล เมื่อวันที่ 17 กรกฏาคม 2014 โดยไม่มีการเปิดเผยสัญญาหรือค่าตัวใดๆทั้งสิ้น แต่สื่อคาดกันว่าค่าตัวของ เดอบูชี่ น่าจะอยู่ที่ประมาน 12 ล้านปอนด์ (ประมาน 650 ล้านบาท) และเซ็นสัญญากันในระยะยาว เดอบูชี่ ได้รับเสื้อหมายเลข 2 และเขามั่นใจว่า ฤดูกาลนี้จะสามารถพา อาร์เซน่อล คว้าถ้วยใบใดใบหนึ่งที่เป็นใบใหญ่ได้อย่างแน่นอน เดอบูชี่ ลงประเดิมสนามเกมแรกกับอาร์เซน่อลไปแล้วในเกม คอมมูนิตี้ชิวด์ ที่ถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ 3-0 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2014 ที่ผ่านมา


ทีมชาติ
     เดอบูชี่ เริ่มต้นการติดทีมชาติฝรั่งเศสด้วยการติดชุดยู-21ปี จนเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ปี 2010 เดอบูชี่ ถูกเรียกติดทีมชุดใหญ่จนได้ซึ่งตอนนั้นก็เป็นกุนซือคนใหม่อย่าง ลอรองท์ บลองซ์ โดยเป็นการเตรียมทีมเพื่อเล่นนัดอุ่นเครื่องกับทีมชาติ นอร์เวย์ ในวันที่ 11 สิงหาคม 2010 ประตูแรกของ เดอบูชี่ ในนามทีมชาติเขาทำได้ในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติ ไอซ์แลนด์ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2012 เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจจนติดเป็น 1 ใน 23 ผู้เล่นลุยศึก ยูโร ที่ประเทศ โปแลนด์ และ ยูเครน เป็นเจ้าภาพ เดอบูชี่ เปิดตัวด้วยการลงเล่นเป็นแบ็คขวาให้กับทัพ ''ตราไก่'' ในเกมที่เสมอกับทีมชาติ อังกฤษ ไป 1-1 ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว และเหมาลงเล่นครบ 90 นาที อีก 2 นัดที่เหลือของทีมชาติฝรั่งเศสในรอบแบ่งกลุ่มอีกด้วย

     ในยุคที่ฝรั่งเศส เปลี่ยนกุนซือใหม่มาเป็น ดิดิเยร์ เดอร์ชองปส์ เดอบูชี่ ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชุดนี้ด้วย ทำให้เขาสามารถมีชื่อติดไปเล่นในศึกเวิลด์คัพ 2014 ได้สำเร็จ โดยเขาได้ลงเล่นเกือบทุกนัดมีเพียงนัดเดียวที่โดน บาการี่ ซานญ่า เบียดลงตัวจริงไปนั่นก็คือเกมกับ เอกวาดอร์ ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เดอบูชี่ลงเล่นในนามทีมชาติไปทั้งหมด 25 นัด และทำไปได้ 2 ประตู  

   

ADS