ประวัติ ฮวน โรมัน ริเกลเม่

| 01/01/1970 07:00 น. | 2420 Views

 

ฮวน โรมัน ริเกลเม่ "จอมทัพทีมฟ้า-ขาว"

ฮวน โรมัน ริเกลเม่ มิดฟิลด์ตัวรุก ของสโมสร โบคา จูเนียร์ เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปี 1978 ในย่านยากจน ที่ ซาน เฟร์นานโด กรุงบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า โดยเขามีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย จึงฝึกปรือพัฒนาฝีเท้ามาตั้งแต่ในวัยเด็ก และจากการที่เขามีพรสวรรค์ทางด้านลูกหนังติดตัวมาด้วย จึงทำให้ ริเกลเม่ เอาดีทางด้านอาชีพนักเตะได้ไม่ยาก แม้ว่าจะเป็นนักเตะที่เชื่องช้า แต่ ริเกลเม่ ก็ปิดจุดอ่อนนั้นด้วยพรสวรรค์และเทคนิคที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งการจ่ายบอลที่แม่นยำ สร้างสรรค์เกมได้อย่างเฉียบขาด แถมยังยิงประตูได้ดีอีกด้วย

อาชีพนักฟุตบอล

1996-2002 : เริ่มต้นชีวิตค้าแข้ง

ริเกลเม่ เริ่มต้นสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง จากการเป็นนักเตะดาวรุ่งอนาคตไกลของสโมสรอาร์เจนติโนส จูเนียร์ ทำให้ได้รับความสนใจจากสองสโมสรยักษ์ใหญ่ของอาร์เจนติน่า ทั้ง โบคา จูเนียร์ และ ริเวอร์เพลท จนกระทั่ง ในปี 1995 โบคา จูเนียร์ ได้ลงทุนควักเงิน 800,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 28 ล้านบาท) เพื่อซื้อตัว ริเกลเม่ มาร่วมทีม ในฐานะดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังอาร์เจนไตน์ และ โบคา ก็ใช้เวลาขัดเกลาฝีเท้าของเขาอยู่ร่วมปี กว่าจะส่ง ริเกลเม่ ลงสนามในระดับอาชีพเป็นครั้งแรก ในเกมที่ โบคา จูเนียร์ เอาชนะ ยูเนี่ยน เดอ ซานตา เฟ่ 2-0 เมื่อปี 1996 และอีก 2 สัปดาห์ต่อมา ริเกลเม่ ก็ทำประตูแรกได้ในเกมที่ โบคา จูเนียร์ ถล่ม ฮูราคัน 6-0

2002-2003 : บาร์เซโลน่า

ส่วนในเส้นทางค้าแข้งระดับสโมสรนั้น หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากมายใน 7 ปีที่ค้าแข้งอยู่กับโบคา จูเนียร์ ในปี 2002 ริเกลเม่ ก็ถูก บาร์เซโลน่า ทีมยักษ์ใหญ่ของสเปน ซื้อตัวมาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 11 ล้านยูโร (ประมาณ 583 ล้านบาท) ซึ่ง ก่อนที่ ริเกลเม่ จะย้ายออกจากทีม ไม่นาน ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ คริสเตียน พี่ชายแท้ๆ ของ ริเกลเม่ ถูกลักพาตัวไป และ ริเกลเม่ ก็ได้เจรจาให้ผู้ร้ายยอมปล่อยตัวพี่ชายของเขา โดยตกลงที่จะยอมจ่ายค่าไถ่ให้ตามที่กลุ่มผู้ร้ายเรียกร้องมา ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้น ริเกลเม่ ก็ได้ออกมาเผยว่า สิ่งนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาตัดสินใจย้ายออกจากทีม โบคา มาค้าแข้งยังดินแดนสเปน

อย่างไรก็ตาม ชีวิตในสเปนของ ริเกลเม่ กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด เพราะเขาแทบจะไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีม “เลือดหมู-น้ำเงิน” เลย ซึ่ง หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือของทีมในขณะนั้น ออกมาให้เหตุผลว่า การเซ็นสัญญากับริเกลเม่ เป็นเหตุผลทางการเมือง รวมถึงการที่ ริเกลเม่ มักจะถูกจับลงเล่นทางริมเส้น ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาถนัดอย่างการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกตรงกลาง ส่งผลให้เขาไม่สามารถงดฟอร์มเก่งออกมาได้ และต้องใช้เวลาในถิ่น คัมป์ นู ส่วนใหญ่ เป็นตัวสำรอง  และในที่สุด ริเกลเม่  ก็ถูกปล่อยให้ บียาร์รีล ยืมตัวไปเล่น ในปีต่อมา

 ฮวน โรมัน ริเกลเม่

  

 ข้อมูลส่วนตัว
วดป.เกิด - 24 มิ.ย 1978
สถานที่เกิด - ซาน เฟอร์นานโด, อาร์เจนติน่า
ส่วนสูง - 183 ซม.
ตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรุก
สโมสรปัจจุบัน - โบคา จูเนียร์ส
หมายเลขเสื้อ - 10

สโมสรเยาวชน
1996-2002 / โบคา จูเนียร์ส / 150(38)
2002-2003 / บาร์เซโลน่า / 30(3)
2003-2007 / บียาเรอัล / 106(36)
2007         / โบคา จูเนียร์ส / 15(2)
2008- ปัจจุบัน / โบคา จูเนียร์ส / 39(6)

ทีมชาติ
1997-ปัจจุบัน / อาร์เจนติน่า / 54(18)
2008         / อาร์เจนติน่า ชุดโอลิมปิก / 6(1)

2003-2008 : บียาร์เรอัล

 



ท่ามกลางนักเตะอเมริกาใต้ รวมถึงเพื่อร่วมทีมชาติอาร์เจนติน่า อย่าง ฮวน โรมัน โซริน ทำให้ ในฤดูกาล 2004/2005 ริเกลเม่ สามารถทำผลงานที่ บียาร์รีล ได้สุดประทับใจ โดย เขายิงได้ 15 ประตู และจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้ 11 ครั้ง จนกระทั่งช่วยให้ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน กองหน้าที่เคยฟอร์มฝืดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิงประตูกระจุยกระจาย จนกลายเป็นดาวซัลโวของยุโรป ขณะที่ บียาร์รีล ก็จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 ได้โควต้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ชนิดที่เกินความคาดหมายของแฟนๆ

 

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม ทำให้ หนังสือพิมพ์ มาร์ก้า ได้มอบรางวัล “Artistic Player” ให้แก่ ริเกลเม่ นอกจากนี้ เขายังถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อีกด้วย ขณะที่ทาง บียาร์เรอัล ก็ต้องการเก็บเขาไว้ใช้งานอย่างถาวร ดังนั้น ทีมจึงซื้อตัวเป็นเจ้าของในตัว ริเกลเม่ 75 เปอร์เซ็นต์ จาก บาร์เซโลน่า ในราคา 8 ล้านยูโร (ประมาณ 424 ล้านบาท) เป็นอย่างน้อย โดยขึ้นอยู่กับผลงานของทีมใน 2 ฤดูกาลข้างหน้า พร้อมกับเซ็นสัญญากับนักเตะเป็นเวลา 4 ปี ส่วนอีก 25 เปอร์เซ็นต์ บียาร์เรอัล จะจ่ายให้ บาร์ซ่า ก็ต่อเมื่อได้ขายตัวริเกลเม่ ออกจากทีมไป

ในฤดูกาล 2005/2006 แม้ว่า บียาร์รีล จะมีผลงานไม่ดีนักในศึกลา ลีก สเปน แต่ ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งที่ลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็ตะลุยฝ่าเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ ก่อนจะพ่าย อาร์เซน่อล ชวดเข้าชิงไปอย่างน่าเสียดาย โดยที่ ริเกลเม่ ยิงลูกจุดโทษไม่เข้าในนัดที่สองของการแข่งขัน ซึ่งเป็นจุดหักเหของเกมเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม จากผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าว ทำให้ บียาร์เรเรอัล ต้องยอมจ่ายเงินอีกราว 2 ล้านยูโร (ประมาณ 265 ล้านบาท) ให้กับ ทีมดังแคว้นกาตาลัน ตามข้อสัญญาการย้ายทีมที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ 

2007 : โบคา จูเนียร์

ริเกลเม่ ยอมรับสัญญายืมตัวกลับไปเล่นให้กับต้นสังกัดเดิม อย่าง โบคา จูเนียร์ เป็นเวลา 5 เดือน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2007 หลังจากที่เขาต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับเมื่อครั้งที่ค้าแข้งอยู่กับบาร์เซโลน่า เนื่องจากไปมีความขัดแย้งกับประธานและกุนซือของสโมสร บียาร์เรอัล ส่งผลให้เขาไม่ได้ลงเล่นในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล 2006-2007

ริเกลเม่ กลับมาแจ้งเกิดในอีกครั้ง หลังจากมีส่วนสำคัญพาทีม โบคา ประสบความสำเร็จในศึก โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส 2007 โดยเขาทำประตูได้ในเกมที่พบกับ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย, คลับ ลิเบอร์ตาด ในรอบก่อนรอง และ คูคูต้า เดปอร์ติโว่ ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่ โบคา จะคว้าแชมป์ไปครองในที่สุด หลังเอาชนะ เกรมิโอ ไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ และ ริเกลเม่ ก็ยังได้รางวัล ผู้เล่นทรงคุณค่า ประจำทัวร์นาเม้นต์ อีกด้วย

ในเดือนสิงหาคม 2007 มีรายงานว่า โบคา ยอมแพ้ต่อความหวังที่จะเซ็นสัญญาคว้าตัว ริเกลเม่ มาร่วมทีมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม อีก 2-3 วันต่อไป สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป เมื่อ ฮวน คาร์ลอส เครสปี้ ประธานสโมสร โบคา ออกมาแสดงความมั่นใจว่า จะดึงตัว ริเกลเม่ ไปร่วมทีมภายใน 10 วัน  แต่แผนทุกอย่างก็ล้มเหลวไป เมื่อทั้งสองสโมสรหาข้อตกลงร่วมกันไม่ได้ ส่งผลให้ ริเกลเม่ ยังคงเป็นผู้เล่นของ บียาร์เรอัล ต่อไป แต่ในที่สุด เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2007 ฝันของริเกลเม่ ก็เป็นจริง เมื่อ บียาร์เรอัล ยอมปล่อยตัวเขาย้ายกลับไปร่วมทัพ โบคา หลังจากตลาดซื้อขายเปิดทำการครั้งที่ 2 ในเดือนมกราคม 2008 ด้วยสัญญาค้าแข้งจนถึงปี 2010 แต่ทว่า ก็ไม่ทันที่จะทำให้เขาสามารถร่วมทีม โบคา ไปลุยศึกสโมสรโลกได้ทันเวลา

ทีมชาติอาร์เจนติน่า

1997-1999 : เริ่มต้นทีมชาติชุดใหญ่
 

 

 

ริเกลเม่ ในตอนที่เป็นนักเตะดาวรุ่ง จัดว่าเป็นนักเตะกำลังสำคัญของทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดเยาวชน โดยสามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์อเมริกาใต้ และฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก ในปี 1997 ได้สำเร็จ โดยมีเพื่อนร่วมทีมอย่าง ปาโบล ไอมาร์ และ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ ซึ่งตอนนี้ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ด้วยกัน

ในตอนนั้นทีม “ฟ้า-ขาว” จูเนียร์ มี โฮเซ่ เปเกร์มัน เป็นกุนซือ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าหลังจากที่ เปเกร์มัน ก้าวขึ้นมาคุมทีมชาติชุดใหญ่ เขาจึงเลือก ริเกลเม่ มาเป็นเพลย์เมกเกอร์ของทีม โดยไม่แยแส ฮวน เซบาสเตียน เวรอน แม้แต่น้อย

เมื่อ ริเกลเม่ แจ้งเกิดกับทีมเยาวชนของอาร์เจนติน่า ได้แล้ว ดาเนี่ยล พาสซาเรลล่า กุนซือทีมชุดใหญ่ของอาร์เจนติน่า ในตอนนั้น จึงดึงตัวเขาขึ้นมาเล่นในทีม “ฟ้า-ขาว” ชุดใหญ่ เป็นก้าวต่อมา และส่ง ริเกลเม่ ลงสนามให้กับทีมเป็นครั้งแรก ในนัดที่เสมอกับ โคลอมเบีย 1-1 ในนัดสุดท้ายของฟุตบอลโลก 1998 รอบคัดเลือก

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ริเกลเม่ ก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดใหญ่มาครองได้ ภายใต้การเปลี่ยนแปลงกุนซือมาเป็น มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ซึ่งก็ให้โอกาส ริเกลเม่ ในการพิสูจน์ตัวเองพอสมควร ทั้งในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ หรือโคปา อเมริกา ปี 1999 ซึ่ง ริเกลเม่ และชาวคณะกระเด็นตกตั้งแต่รอบสอง

2002 : ไม่ติดทีมไปฟุตบอลโลก

หลังจากนั้นก็มาทดสอบฝีเท้าของ ริเกลเม่ ในช่วงการลงเตะอุ่นเครื่องก่อนทำศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายปี 2002 ที่ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ แต่สุดท้าย บิเอลซ่า ก็ไม่เหน็บ ริเกลเม่ เจ้าของตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปอเมริกาใต้ ปี 2001 ไปลุยฟุตบอลโลกที่เอเชีย

แต่หลังจากที่ เปเกร์มัน ก้าวขึ้นมาคุมทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่ อนาคตของ ริเกลเม่ ในทีมชาติ ก็กลับมาสดใสอีกครั้ง เพราะ เปเกร์มัน เชื่อมั่นในฝีเท้าของลูกทีมรายนี้มาก หลังจากที่เคยร่วมหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่ทีมเยาวชน และ ริเกลเม่ ตอบแทนความไว้วางใจของ เปเกร์มัน อย่างคุ้มค่า ด้วยการสร้างผลงานก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญของทีม และได้รับการยกย่องชื่นชมจากบรรดาสื่อมวลชนอาร์เจนติน่า อย่างมาก

2006 : ฟุตบอลโลก

ริเกลเม่ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่ถล่ม เอาชนะ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร 6-0 พร้อมกับพาทีม อาร์เจนติน่า ฉลุยผ่านเข้ารอบสองไปด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม ด้วยการ ไม่แพ้ใคร โดยชนะ 2 นัด และเสมอ 1 นัด อย่างไรก็ตาม ทัพ “ฟ้าขาว” ก็ต้องปิดฉากเส้นทางในทัวร์นาเม้นต์ ที่ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น หลังจากปราชัยต่อ เยอรมัน ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยการดวลจุดโทษตัดสิน ซึ่งในเกมนั้น ริเกลเม่ มีส่วนในการทำประตู ด้วยการเปิดลูกเตะมุมให้ โรเบร์โต้ อยาล่า พังประตูออกนำทีม “อินทรีเหล็ก” แต่หลังจาก เปลี่ยนตัวริเกลเม่ออกไป เยอรมัน ก็สามารถตีเสมอได้เป็น 1-1 ทำเห็นเกมต้องยืดเยื้อออกไปในช่วงต่อเวลาพิเศษ และยิงจุดโทษตัดสินในที่สุด

หลังจากความปราชัยดังกล่าว เปเกร์มัน ได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นกุนซือของ อาร์เจนติน่า และ ริเกลเม่ ก็ได้รับหน้าที่สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม แทน โซริน อย่างไรก็ตาม การเป็นจอมทัพของทีมครั้งแรกของเขา ในเกมอุ่นเครื่องของทีม “ฟ้าขาว” ภายใต้การคุมบังเหียนของ อัลฟิโอ บาซิเล่ ในวันที่ 13 กันยายน 2006 ริเกลเม่ ก็ตัดสินใจหันหลังให้กับทีมชาติ เนื่องจากเหตุผลเกี่ยวกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อต่างๆ ได้ส่งผลกระทบต่อ สุขภาพของมารดาของเขา จนถึงขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้วถึง 2 ครั้ง หลังจบฟุตบอลโลก 2006 ส่งผลให้ ริเกลเม่ มีสถิติลงสนามให้ อาร์เจนติน่า ไปทั้งสิ้น 37 นัด ยิงได้ 8 ประตู

2007 : รองแชมป์โคปา อเมริกา

ในวันที่ 26 มิถุนายน 2007 ริเกลเม่ ถูกเรียกกลับมาติดโผ 1 ใน 23 คน ของทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดลุยศึกโคปา อเมริกา 2007 ที่ประเทศ เวเนซุเอล่า ซึ่ง ริเกลเม่ ก็ยังเผยให้เห็นฝีเท้าอันยอดเยี่ยมเช่นเดิม โดยจัดการทำ 2 ประตู จากลูกโหม่งและ ฟรีคิก ในเกมที่พบกับ โคลัมเบีย ในนัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากนั้น ริเกลเม่ ก็ทำได้อีก 2 ประตู ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ชนะ เปรู 4-0 รวมถึงยังเป็นบอลให้ ลีโอเนล เมสซี่ พังสกอร์อีกด้วย และริเกลเม่ ก็มาทำประตูที่ 5 ของตัวเอง ในเกมรองรอบชนะเลิศ ที่เอาชนะเม็กซิโก 3-0 จากจุดโทษ แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ไม่อาจช่วยให้ อาร์เจนติน่า รอดพ้นจากความปราชัยไปได้ หลังจากทีมของเขาเป็นฝ่ายแพ้เละให้กับ บราซิล 3-0 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 15 กรกฎาคม 2007

2010 : ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้

ในวันที่ 14 ตุลาคม 2007 ริเกลเม่ ซึ่งไม่ได้ลงสนามให้ บียาร์เรอัล เลย ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ก็แผลงฤทธิ์ จัดการเหมา 2 ประตู ช่วยให้อาร์เจนติน่า เอาชนะ ชิลี 2-0 ในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ โดยทั้งสองประตูมาจากลูกฟรีคิก หลังจาก ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2007 ริเกลเม่ ก็ซัด 2 ประตู ช่วยให้ อาร์เจนติน่า ชนะ โบลิเวีย ไปอย่างเด็ดขาด 3-0 ซึ่งทำให้ตอนนี้ เขารั้งตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของทัวร์นาเม้นต์

ชีวิตส่วนตัว

ริเกลเม่ แต่งงานกับ แอนนาเบลล่า และมีลูกด้วยกัน 3 คน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ครอบครัวของ ริเกลเม่ ดูจะคลุมเครือไม่น้อย เมื่อสื่อในอาร์เจนติน่า ออกมาเผยว่า ริเกลิม่กำลังแอบคบหาดูใจกับ เยซิน่า โตสกานินี่ นางแบบสาวเพื่อนร่วมชาติอยู่ และยังเคยมีคนเห็นทั้งคู่แอบเดทกันในระหว่างการเตรียมทีมอาร์เจนติน่า ไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน อีกด้วย

เกียรติประวัติ

2007 ผู้เล่นทรงคุณค่าแห่งจำปี โคปปา ไลเบอร์ต้าโดราส 
2007 โคปปา ไลเบอร์ต้าโดราส (กับทีม โบคา จูเนียร์ส)
2004 ยูฟ่า อินเตอร์ โตโต้คัพ (กับทีม บียาเรอัล)
2001 โคปปา ไลเบอร์ต้าโดราส (กับทีม โบคา จูเนียร์ส)
2001 ผู้เล่นเชื้อชาติอเมริกาใต้ยอดเยี่ยมแห่งปี
2000 อาร์เจนไตน์ อาเปอร์ตูร่า แชมเปี้ยนชิพ (กับทีม โบคา จูเนียร์ส)
2000 อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ(กับทีม โบคา จูเนียร์ส)
2000 โคปปา ไลเบอร์ต้าโดราส (กับทีม โบคา จูเนียร์ส)
1999 อาร์เจนไตน์ คลาซูร่า แชมเปี้ยนชิพ (กับทีม โบคา จูเนียร์ส)
1998 อาร์เจนไตน์ อาเปอร์ตูร่า แชมเปี้ยนชิพ (กับทีม โบคา จูเนียร์ส) 
1997 แชมป์ฟุตบอลโลก เยาวชนอายุไม่เกิน 20 (under-20)

ADS