ประวัติ เอ็มเบอโม่ ปีกหมอผีผู้มายกระดับเกมริมเส้นปีศาจแดง

 

ชื่อเต็ม : ไบรอัน เท็ตซาดง มาร์โซ เอ็มเบอโม่ (Bryan Tetsadong Marceau Mbeumo)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 7 สิงหาคม ค.ศ. 1999
ส่วนสูง : 1.71 ซม.
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก, กองหน้า
สโมสรปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

             ไบรอัน เอ็มเบอโม่ เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือกองหน้าให้กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเขาเกิดที่ประเทศฝรั่งเศส แต่เล่นให้กับทีมชาติ แคเมอรูน

             เอ็มเบอโม่ เป็นนักเตะที่เติบโตมาจาก อะคาเดมี่ของทรัวส์ สโมสรในลีกฝรั่งเศส และเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับทีมสำรองของสโมสรในปี 2016 เขาย้ายไปอยู่กับ เบรนท์ฟอร์ด ในปี 2019 และเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมที่ได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2021 หลังจากลงเล่นให้เบรนท์ฟอร์ดไปทั้งหมด 242 นัดในช่วงหกฤดูกาล เอ็มเบอูโมได้ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนกรกฎาคม 2025

             แม้ว่าเขาจะเคยติดทีมชาติฝรั่งเศสในระดับเยาวชน แต่ เอ็มเบอโม่ ก็ได้ตัดสินใจเล่นให้ทีมชาติ แคเมอรูน และลงเล่นนัดแรกให้ทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2022 สิ้นปีนั้น เขาได้รับการเลือกให้เป็นหนึ่งในนักเตะทีมชาติแคเมอรูนสำหรับ ฟุตบอลโลก FIFA World Cup และลงสนามไปทั้งหมด 3 นัด

เส้นทางอาชีพ

ทรัวส์ :

             เอ็มเบอโม่ เป็นปีกเท้าซ้ายที่มักชอบเล่นทางฝั่งขวา เขาเข้าร่วมอะคาเดมี่ของทรัวส์ตั้งแต่อายุ 14 ปี และก้าวขึ้นสู่ทีมสำรองของสโมสรในฤดูกาล 2016–17

             เขาเป็นสมาชิกของทีม ทรัวส์ ชุดยู-19 ที่คว้าแชมป์ Coupe Gambardella 2018 โดยเขายิงได้สองประตูในรอบชิงชนะเลิศที่ สต๊าด เดอ ฟร็องส์

             เอ็มเบอโม่ ลงเล่นนัดแรกให้ทีมชุดใหญ่ของทรัวส์ในชัยชนะ 1-0 เหนือ เม็ตซ์ ในศึกลีกเอิง วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2018 และลงเล่นเพิ่มอีก 3 นัดในฤดูกาล 2017–18 ซึ่งฤดูกาลนั้นทรัวส์ตกชั้นไปยัง ลีก 2

             ในฤดูกาล 2018–19 เขากลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมชุดใหญ่ ลงเล่นทั้งหมด 40 นัด ทำได้ 11 ประตู และช่วยให้ทรัวส์ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟเลื่อนชั้นลีก 2 , เอ็มเบอโม่ อำลาสนาม สต๊าด เดอ โลบ์ ในเดือนสิงหาคม 2019 หลังลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ทั้งหมด 46 นัด ยิงได้ 12 ประตู

เบรนท์ฟอร์ด (2019–2021) :

             วันที่ 5 สิงหาคม 2019 เอ็มเบอโม่ ย้ายไปอังกฤษเพื่อร่วมทีม เบรนท์ฟอร์ด สโมสรในแชมเปี้ยนชิพ ขณะนั้น ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัวสถิติของสโมสรอยู่ที่ 5.8 ล้านปอนด์ โดยในฤดูกาล 2019–20 เขาลงเล่นไปทั้งหมด 47 นัด ทำได้ 16 ประตู ช่วยให้เบรนท์ฟอร์ดผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟแชมเปี้ยนชิพ 2020 แต่แพ้ให้กับ ฟูแล่ม 1-2 ผลงานของ เอ็มเบอโม่ ได้รับการยอมรับจนถูกเสนอชื่อเข้าชิง ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ EFL และ ผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ในงาน London Football Awards 2020 อีกด้วย

             ต่อมาในฤดูกาล 2020–21 ซึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 การทำประตูของ เอ็มเบอโม่ ลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ภายในเดือนมีนาคม 2021 เขายังทำ แอสซิสต์ 10 ครั้ง และยิง 4 ประตู จนได้รับการเสนอชื่ออีกครั้งสำหรับรางวัล EFL Player of the Year ที่งาน London Football Awards 2021

             เอ็มเบอโม่ จบฤดูกาลด้วยการทำ 8 ประตูจาก 49 นัด และช่วยให้เบรนท์ฟอร์ดเลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก หลังชนะ สวอนซี ซิตี้ 2-0 ในรอบชิงชนะเลิศเพลย์ออฟแชมเปี้ยนชิพ ปี 2021

ฤดูกาล 2021–22 :

             เอ็มเบอโม่ ถูกใช้งานในตำแหน่งกองหน้าคู่กับ อีวาน โทนี ช่วงต้นฤดูกาล 2021–22 และในการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 11 นัดแรก เขาทำได้ 2 ประตู และยิงชนเสา-คาน ไปถึง 7 ครั้ง

             จากนั้นเขาทำแฮตทริกแรกในอาชีพได้สำเร็จในเกมชนะ พอร์ต เวล 4-1 ศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันที่ 8 มกราคม 2022 ซึ่งเป็นแฮตทริกแรกของเบรนท์ฟอร์ดที่ยิงโดยตัวสำรอง ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ทำให้เขาได้เซ็นสัญญาใหม่กับ เบรนท์ฟอร์ดออกไปอีก 4 ปี พร้อมอ็อปชันเพิ่ม 1 ปี ซึ่ง เอ็มเบอโม่ จบฤดูกาล 2021–22 ด้วยการยิงไป 8 ประตูจาก 38 นัดที่ลงแข่งขัน นอกจากนี้ เขายังทำสถิติยิงชนเสา-คานมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนั้นอีกด้วย (7 ครั้ง) ร่วมกับ ราฟินญา

ฤดูกาล 2022–23 :

             ในช่วงอุ่นเครื่องก่อนฤดูกาล 2022–23 เอ็มเบอโม่ ได้แสดงความสามารถหลากหลาย โดยบางครั้งถูกใช้เป็น วิงแบ็กในระบบ 3–4–3 เขาลงเล่นทั้งหมด 39 นัดในทุกรายการ ทำได้ 9 ประตู ทั้ง 9 ประตูมาจากการแข่งขันในลีกเท่านั้น ซึ่งมากกว่าฤดูกาลก่อนเกือบสองเท่า โค้ช โธมัส แฟรงค์ ในขณะนั้นกล่าวชมว่า “เอ็มเบอโม่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นผู้เล่นสำคัญสำหรับเรา และเขาทำงานหนักมากกับการจบสกอร์”

ฤดูกาล 2023–24 :

             เริ่มต้นฤดูกาล 2023–24 เอ็มเบอโม่ ถูกวางทางฝั่งขวาของสามประสานกองหน้า ร่วมกับ โยอาน วิสซา และ เควิน เชด เขาทำได้ 5 ประตูจาก 7 นัดในช่วงเดือนสิงหาคมและตุลาคม ปี 2023 จนถูกเสนอชื่อ ผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน ทั้งสองเดือน ในช่วงที่ อีวาน โทนี ถูกแบน เอ็มเบอโม่ กลายเป็นมือสังหารจุดโทษเบอร์หนึ่งของทีม ต่อมาเขาทำได้อีก 2 ประตู ก่อนจะพัก 3 เดือนหลังผ่าตัด ข้อเท้าได้รับบาดเจ็บรุนแรง ในเกมแพ้ ไบรท์ตัน 1-2 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งเขาจบฤดูกาล 2023–24 ด้วยการลงเล่น 27 นัด ทำได้ 9 ประตู

ฤดูกาล 2024–25 :

             หลังจากที่ อีวาน โทนี ย้ายออกจากทีมไป และการบาดเจ็บระยะยาวของกองหน้าคนใหม่ อิกอร์ ติอาโก้ ทำให้ เอ็มเบอโม่ และโยอาน วิสซา ต้องเป็นแกนหลักในแนวรุกของเบรนท์ฟอร์ดในช่วงต้นฤดูกาล ด้วยผลงานการทำประตูที่ยอดเยี่ยมทำให้เอ็มเบอโม่ถูกเสนอชื่อ ผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน ในเดือนสิงหาคม, ตุลาคม 2024 และมกราคม 2025

             ผลงานในเดือนตุลาคมยังทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อ PFA Premier League Fans' Player of the Month อีกด้วย โดยเขาจบฤดูกาลด้วย 20 ประตูในพรีเมียร์ลีก

 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :

             ด้วยผลงานที่โดดเด่นแบบสุดๆทำให้ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2025 เอ็มเบอโม่ ได้ย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัวที่รายงานว่า 71 ล้านปอนด์ แบ่งเป็น 65 ล้านปอนด์ และอีก 6 ล้านปอนด์เป็นโบนัสตามเงื่อนไขต่างๆ เขาเซ็นสัญญา 5 ปี พร้อมอ็อปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี

             ต่อมาวันที่ 17 สิงหาคม เขาลงสนามนัดแรกให้แมนยูในเกมลีกที่แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยเขาทำประตูแรกให้สโมสร ได้ในเกมเอฟเอฟอคัพอรอบ 3 ที่เสมอกับ กริมสบี้ ทาวน์ 2-2 ก่อนพลาดจุดโทษตัดสินจนทีมแพ้ในการดวลจุดโทษ 11–12 ต่อมาเขาทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกให้แมนยู ได้ในเกมถัดมาที่ทีมเอาชนะ เบิร์นลีย์ 3-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด

             วันที่ 20 ตุลาคม 2025 เอ็มเบอโม่ ยิงประตูแรกในเกม "แดงเดือด" หลังเริ่มเกมเพียง 1 นาที ช่วยให้แมนยูบุกไปเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ 2-1 ซึ่งเป็นชัยชนะที่แอนฟิลด์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016ของพลพรรค "ปีศาจแดง" อีกด้วย

             สัปดาห์ถัดมา เขายิง สองประตูในเกมชนะไบรท์ตันฯ 4-2 ผลงานของเขาในเดือนตุลาคม รวมถึงแอสซิสต์ให้ เมสัน เม้าท์ ในเกมชนะ ซันเดอร์แลนด์ ทำให้ เอ็มเบอโม่ ได้รับรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน เป็นครั้งแรกอีกด้วย

ทีมชาติแคเมอรูน :

             เอ็มเบอโม่ เคยติดทีมชาติฝรั่งเศสในระดับเยาวชนชุด ยู17, ยู20 และ ยู21 รวม 10 นัด ทำได้ 1 ประตู

 

             อย่างไรก็ตามในเดือนสิงหาคม 2022 หลังจากที่ได้พบกับ ซามูเอล เอโต้ ที่ลอนดอน เขาประกาศเลือกเล่นให้ทีมชาติ แคเมอรูน โดยเขาลงเล่นให้แคเมอรูนทั้งหมด 9 นัด ทำได้ 1 ประตู โดย 3 นัดมาจากการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 ก่อนที่ทีมจะตกรอบแบ่งกลุ่ม และต่อมาในรอบคัดเลือก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2023 เขาลงเล่นไป 3 นัด จาก 4 เกม และทำได้ 1 ประตู แต่บาดเจ็บทำให้เขาพลาดการลงสนามในรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์

สไตล์การเล่น :

             เอ็มเบอโม่ เป็นกองหน้าที่มีความหลากหลาย โดยปกติจะเล่นในตำแหน่ง ปีกขวาในสามประสานกองหน้า และมักจะเลี้ยงบอลตัดเข้าด้านในเพื่อใช้เท้าซ้ายข้างที่ถนัดจบสกอร์

             ในระบบ 3-4-2-1 เขามักจะถูกใช้เป็น อินไซด์ฟอร์เวิร์ด ในพื้นที่ด้านขวาครึ่งช่องว่าง ซึ่งช่วยให้เขาสามารถเจาะช่องว่างแนวรับ เชื่อมเกมกับเพื่อนร่วมทีม และสร้างอันตรายต่อประตูคู่แข่งได้

             เอ็มเบอโม่ ขึ้นชื่อเรื่อง ความเร็ว, การเลี้ยงบอลที่รวดเร็ว, และการเคลื่อนที่ตอนที่ตอนที่ไม่มีบอล ทำให้เขาโดดเด่นในการเล่นโต้กลับอย่างรวดเร็ว เขามีความชำนาญในการพาบอลเข้าสู่พื้นที่อันตรายและสร้างโอกาสคุณภาพสูง แม้จะไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าแบบดั้งเดิม แต่เขาก็ทำสถิติจำนวนประตูที่ดีเกินคาด แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมในการจบสกอร์