ประวัติ ไกเซโด้ บุรุษเหล็กผู้บัญชาเกมแดนกลางสิงห์บลูส์
ชื่อเต็ม : มอยเซส อิซาอัก ไกเซโด้ โคโรโซ่ (Moisés Isaac Caicedo Corozo)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001
ส่วนสูง : 1.78 ซม.
ตำแหน่ง : กองกลาง, แบ็กขวา
สโมสรปัจจุบัน : เชลซี
มอยเซส ไกเซโด้ เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวเอกวาดอร์ ผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับสโมสรเชลซีทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทีมชาติเอกวาดอร์ ไกเซโด้มักถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลก โดยมีจุดเด่นด้านการจ่ายบอลและการตัดบอล
ไกเซโด้เริ่มต้นอาชีพกับอินเดเพนเดียนเต เดล บาเย่ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 เขาย้ายไปร่วมทีมไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ด้วยค่าตัวที่ไม่เปิดเผย และสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่หลังจากถูกปล่อยให้เบียร์ชอต ทีมในโปรลีกเบลเยียม ยืมตัวไปใช้งาน ในเดือนสิงหาคม ปี 2023 เขาย้ายไปเชลซีด้วยค่าตัวประมาณ 100 ล้านปอนด์ และคว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก ฤดูกาล 2024–25
ในระดับทีมชาติ ไกเซโด้ติดทีมชาติเอกวาดอร์ชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2020 และลงเล่นไปแล้วกว่า 50 นัด เขาได้รับเลือกให้ติดทีมสำหรับโคปา อเมริกา 2 ครั้ง และฟุตบอลโลก 2022
ชีวิตในวัยเด็ก :ไกเซโด้เกิดที่เมืองซานโต โดมิงโก้ ประเทศเอกวาดอร์ เป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 10 คน เขาเล่นฟุตบอลบนลานดินในละแวกบ้านของเขา คือย่าน Mujer Trabajadora ซึ่งใช้กองหินวางเรียงไว้แทนเสาประตู ตอนเป็นเด็กเขาได้พบกับอีวาน เกร์รา โค้ชฟุตบอลในท้องถิ่น ผู้ช่วยดูแลเขาและครอบครัว โดยช่วยจ่ายค่า รองเท้าฟุตบอล ค่าเดินทาง และค่าอาหาร ด้วยนิสัยที่อ่อนไหว เพื่อนร่วมทีมจึงตั้งฉายาให้เขาว่า “นีโญ มอย” (Niño Moi)
ช่วงต้นอาชีพ :
ไกเซโด้ ได้รับเชิญให้ไปเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่โรงเรียนฟุตบอล Mujer Trabajadora โดยอีวาน เกร์รา และเขาเล่นที่นั่นระหว่างอายุห้าถึงสิบสองปี ทีมนี้มักจะลงเล่นในเกมต่างๆ ทั่วเขตซานโตโดมิงโกh และไกเซโดhได้รับการเรียกตัวให้เข้าร่วมทีมระดับภูมิภาค โดยในตอนแรกไกเซโด้เล่นเป็นกองหน้า ต่อมาได้พัฒนาเป็นกองกลาง และเมื่ออายุสิบสามปีได้ร่วมทีม Colorados Jaipadida ซึ่งเป็นสโมสรท้องถิ่นในเครือของสโมสรฟุตบอล ESPOLI
อินเดเพนเดียนเต เดล บาเย่ :ในปี 2016 หนึ่งในพี่ชายของเขาพาไกเซโด้ไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรอินเดเพนเดียนเต เดล บาเย ทีมในเอกวาดอร์ เซเรีย อา ซึ่งเขาสามารถผ่านการคัดเลือกได้สำเร็จ ต่อมาในปี 2017 เขาประสบปัญหาบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาด และต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง ทำให้ต้องพักยาวถึงสิบเดือน
หลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ และเมื่อยูริ โซลาโน เข้ามาคุมทีมรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีในปี 2019 เขากล่าวว่า ความสามารถทางร่างกายของไคเซโด "ทำให้เขาโดดเด่นกว่าใครในตอนนั้น"
ต่อมาในปีเดียวกัน ไกเซโด้นำทีมเยาวชนของอินเดเพนเดียนเต เดล บาเย คว้าแชมป์รายการ Copa Mitad del Mundo ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์เยาวชนที่จัดในประเทศสเปน หลังจากประสบการณ์ครั้งนั้น เขาก็ได้ลงเล่นนัดแรกให้ทีมชุดใหญ่ของสโมสร ในเกมเอกวาดอร์ เซเรีย อา ที่ชนะ L.D.U. กีโต 1-0 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปีเดียวกัน มิเกล อังเคล รามิเรซ ผู้จัดการทีมชุดใหญ่ในตอนนั้น กล่าวภายหลังว่า “ตั้งแต่วันแรกที่เขามาซ้อมกับเรา เขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดในทีม”
ด้วยความสำคัญของเขาต่อทีมชุดใหญ่ รามิเรซถึงกับให้ไกเซโด้บินกลับมาจากการเล่นในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีที่ปารากวัย เพื่อมาลงสนามในเกมลีกพบกับคู่ปรับอย่าง L.D.U. กีโต ในปี 2020 ซึ่งอินเดเพนเดียนเต เดล บาเย ชนะ 3-2 ก่อนที่เขาจะบินกลับไปช่วยทีมรุ่นเยาวชนลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศของโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส U-20 ปี 2020 ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้โดดเด่นในชัยชนะเหนือริเวอร์เพลต ทีมดังจากอาร์เจนตินา
ในช่วงเวลาที่อยู่กับอินเดเพนเดียนเต เดล บาเย ไกเซโด้ถูกใช้งานส่วนใหญ่ในตำแหน่ง “หมายเลข 5” หรือกองกลางตัวรับ แต่เขาก็เคยถูกขยับไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กเช่นกัน เนื่องจากฟอร์มที่โดดเด่นของกริสเตียน เปลเลราโน มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนตินาที่เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับเหมือนกัน ไกเซโด้จึงถูกดันขึ้นสูงให้เล่นบทบาทบ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ การเล่นในตำแหน่งนี้ทำให้เขาได้รับคำชมทั่วทั้งทวีป โดยเฉพาะหลังจากยิงได้ในเกมที่ชนะฟลาเมงโก 5-0 ในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส 2020 จากจังหวะที่เขาหลอกปล่อยบอลจากการจ่ายของเบเดอร์ ไกเซโด้ทำให้แนวรับฟลาเมงโกเสียจังหวะ ก่อนรับบอลต่อจากกาเบรียล ตอร์เรส แล้วยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเซซาร์ของฟลาเมงโกเข้าไป
ไบรท์ตัน :ด้วยผลงานที่โดดเด่นทำให้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 ไกเซโด้ ย้ายไปร่วมทีมไบรตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยสัญญา 4 ปีครึ่ง ค่าตัว 4 ล้านปอนด์ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2021 เขามีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ของไบรตันฯเป็นครั้งแรก ในเกมเอฟเอคัพที่แพ้เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 โดยเขาเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ถูกใช้งาน
ไกเซโด้ ลงสนามครั้งแรกให้ไบรตันฯเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม โดยออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมคาราบาว คัพ รอบสองที่พบคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ซึ่งเขาส่งบอลให้แอนดี เซกีรี ยิงประตูแรกของเขาให้กับไบรตันในเกมชนะ 2-0
2021–2022: ยืมตัวไป เบียร์ช็อต
ในวันปิดตลาดซื้อขาย 31 สิงหาคม 2021 ไกเซโด้ถูกปล่อยไปให้สโมสรเบียร์ชอต ทีมในลีกสูงสุดเบลเยียม ยืมตัวใช้งานหนึ่งฤดูกาลเขาทำประตูแรกได้ในการลงเล่นนัดที่เจ็ด เป็นประตูช่วงทดเวลา 90+2 ช่วยให้ทีมเปิดบ้านชนะเกงก์ 2-0 ต่อมาในวันที่ 12 มกราคม 2022 เนื่องจากไบรตันฯขาดแคลนกองกลางทำให้สโมสรตัดสินใจเรียกตัวเขากลับจากการยืมตัว
2022–23: การแจ้งเกิดและก้าวขึ้นเป็นตัวหลัก
ทันทีที่กลับมาเขามีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมเสมอคริสตัล พาเลซ 1-1 เมื่อวันที่ 15 มกราคมเขาลงสนามนัดแรกหลังกลับมาด้วยการเป็นตัวสำรองในเกมแพ้ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 1-3 ในเอฟเอคัพ รอบสี่ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์
ไกเซโด้ได้ลงเล่นพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในวันที่ 9 เมษายน โดยออกสตาร์ตตัวจริงและแอสซิสต์ให้เอน็อค เอ็มเวปู ยิงประตูได้ในเกมชนะอาร์เซน่อล 2-1 เขาทำประตูแรกให้ไบรตันฯได้ในวันที่ 7 พฤษภาคม เป็นประตูขึ้นนำในเกมชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 จากลูกยิงเรียดระยะ 25 หลา ในนาทีที่ 15
ในฤดูกาล 2022–23 เขายิงประตูแรกของซีซั่นได้ในเกมนัดที่หกของทีม เมื่อวันที่ 4 กันยายน ที่เอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 5-2
ช่วงเดือนมกราคม 2023 ไกเซโด้ เซ็นสัญญากับเอเจนซีฟุตบอลแห่งใหม่ และวันที่ 27 มกราคม เมื่ออาร์เซน่อลแสดงความสนใจอย่างหนัก เอเย่นต์ของเขาออกแถลงการณ์ในอินสตาแกรมนักเตะ ระบุว่าเขาต้องการย้ายทีม ในจดหมายเปิดผนึกนั้น เขาเขียนว่า : “ผมเป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้อง 10 คน เติบโตมาจากความยากจนที่ซานโต โดมิงโก้ ในเอกวาดอร์ ความฝันของผมคือการเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์เอกวาดอร์” และเขายังขอบคุณแฟนๆ ไบรท์ตัน โดยบอกว่าพวกเขา “จะอยู่ในใจผมเสมอ”
ไกเซโด้ถูกเชื่อมโยงกับลิเวอร์พูล อาร์เซน่อล และเชลซี :
วันที่ 30 มกราคม 2023 มีรายงานว่าไบรท์ตันปฏิเสธข้อเสนอครั้งที่สองจากอาร์เซน่อล มูลค่าประมาณ 70 ล้านปอนด์ เนื่องจากไบรตันยืนยันจะไม่ขาย และไกเซโด้ยังมีสัญญาถึงปี 2025 สโมสรจึงสั่งให้เขาหยุดพักจนตลาดปิด เขากลับมาซ้อมวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และลงเล่นอีกครั้งในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ โดยลงเป็นตัวสำรองในเกมชนะบอร์นมัธ 1-0 โดยโรแบร์โต้ เด แซร์บี กุนซือในขณะนั้นต้องออกมาขอให้แฟน ๆ อย่าวิจารณ์นักเตะ
จากนั้นวันที่ 3 มีนาคม 2023 ไกเซโด้ ต่อสัญญาระยะยาวกับไบรท์ตันฯ จนถึงปี 2027 พร้อมออปชั่นขยายอีกหนึ่งปี ในการประกาศรางวัลประจำฤดูกาล ไกเซโด้ ได้ทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม และนักเตะยอดเยี่ยมที่เพื่อนร่วมทีมโหวต โดยเขากล่าวว่า : “เมื่อกลับถึงอพาร์ตเมนต์ ผมจะนำรางวัลนี้ไปให้พ่อแม่ พวกเขาคือแรงบันดาลใจของผม”
วันที่ 27 มิถุนายน 2023 มีรายงานว่าไบรตันปฏิเสธข้อเสนอ 80 ล้านปอนด์จากเชลซี
วันที่ 10 สิงหาคม 2023 มีรายงานว่าลิเวอร์พูลตกลงค่าตัว 111 ล้านปอนด์กับไบรท์ตันฯ เพื่อคว้าตัวไกเซโด้ ซึ่งเยอร์เกน คล็อปป์ยืนยันในวันถัดมา อย่างไรก็ตาม วันที่ 12 สิงหาคม 2023 มีรายงานว่าเชลซียื่นข้อเสนอที่สูงกว่า คือ 115 ล้านปอนด์รวมโบนัสให้ไบรท์ตันฯ และเป็นทัพ "สิงห์บลูส์" ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้ในที่สุด
เชลซี :
ฤดูกาล 2023–24
ไกเซโด้ ย้ายไปร่วมทีมเชลซีเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2023 ด้วยสัญญา 8 ปี พร้อมออปชั่นขยายเพิ่มอีก 1 ปี แม้ค่าตัวจะไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานว่าค่าตัวพื้นฐานอยู่ที่ 100 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มเป็นประมาณ 115 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไขผลงาน ซึ่งเป็นสถิติค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์อังกฤษสำหรับนักเตะหนึ่งคน มากกว่าค่าตัว 107 ล้านปอนด์ที่เชลซีจ่ายเพื่อคว้าตัวเอ็นโซ เฟอร์นันเดซ มาร่วมทีมก่อนหน้านี้เสียอีก
เขาได้รับเสื้อหมายเลข 25 ซึ่งแม้จะไม่ถูก “รีไทร์” อย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่มีนักเตะคนใดสวมมาตั้งแต่จานฟรังโก โซลา อำลาสโมสรในปี 2003 โดยโซลาได้ให้การสนับสนุนที่ไกเซโด้จะได้ใช้เบอร์นี้
วันที่ 20 สิงหาคม 2023 เขาลงเล่นนัดแรกให้เชลซีในฐานะตัวสำรองนาทีที่ 61 ในเกมพรีเมียร์ลีกพบเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเขาทำฟาวล์เสียจุดโทษ และถูกยิงเข้าโดยลูคัส ปาเกต้า ส่งผลให้เชลซีแพ้ 1-3
วันที่ 19 พฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนั้น ไกเซโด้ยิงประตูแรกให้เชลซีได้สำเร็จ จากลูกยิงไกล 50 หลา ในชัยชนะเหนือบอร์นมัธ 2-1
ฤดูกาล 2024–25
วันที่ 22 สิงหาคม 2024 ไกเซโด้ ลงสนามในฐานะกัปตันทีมเชลซีเป็นครั้งแรกในเกมพบ เซอร์เว็ตต์ ในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์ออฟ ต่อมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2024 เขายิงประตูแรกของฤดูกาล จากลูกวอลเลย์บริเวณเส้นกรอบเขตโทษ ในเกมเสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
วันที่ 28 พฤษภาคม 2025 เขายิงประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในเกมชนะเรอัล เบติส 4-1 ในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก 2025
หลังจบฤดูกาล 2024–25 เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเชลซี เป็นผลตอบแทนจากผลงานอันยอดเยี่ยมของเขา และยังเป็นนักเตะเชลซีเพียงคนเดียวที่ลงเล่นเป็นตัวจริงครบทั้ง 38 นัดในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนั้นอีกด้วย
ฤดูกาล 2025–26
วันที่ 22 สิงหาคม 2025 ไกเซโด้ ลงเล่นให้เชลซีเป็นนัดที่ 100 พร้อมยิงประตูในชัยชนะเหนือเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5-1
ทีมชาติเอกวาดอร์ :
วันที่ 9 ตุลาคม 2020 ไกเซโด้ ลงเล่นให้ทีมชาติเอกวาดอร์ชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 ที่แพ้อาร์เจนตินา 0-1 ต่อมาในวันที่ 13 ตุลาคมปีเดียวกัน เขายิงประตูแรกในนามทีมชาติ ได้ในเกมที่เอกวาดอร์เปิดบ้านชนะอุรุกวัย 4-2 ที่สนามเอสตาดิโอ โรดรีโก ปาซ เดลกาโดวั นที่ 14 พฤศจิกายน 2022 ไกเซโด้มีชื่อติดทีมชาติเอกวาดอร์ชุด 26 คนในศึกฟุตบอลโลก 2022 พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมไบรท์ตันฯอย่าง เปอร์วีส เอสตูปินยาน และเยเรมี ซาร์เมียนโต้
นอกจากนี้ ไกเซโด้ ยังถูกเรียกติดทีมชาติเอกวาดอร์ชุด 26 คนสุดท้ายสำหรับสู้ศึกโคปา อเมริกา 2024 อีกด้วย
สไตล์การเล่น :ไกเซโด้ มักจะเล่นทางด้านขวาของคู่มิดฟิลด์ในตำแหน่งกองกลางตัวรับ แม้ว่าเขาจะมีคุณสมบัติที่เน้นเกมรับมากกว่า แต่ถึงจะรับบทบาทเกมรับเป็นหลัก เขาก็ยังสามารถเล่นแบบบ็อกซ์ทูบ็อกซ์และมีส่วนช่วยในการสวนกลับของทีมได้ เขายังเป็นผู้เล่นที่จ่ายบอลได้ดี พร้อมกับสามารถตัดเกมคู่แข่งบริเวณกลางสนามได้ตลอดเวลา ในปี 2025 ไกเซโด้ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลกอยู่บ่อยครั้ง










