ประวัติ นิโก้ ปาซ จอมทัพสายเลือดใหม่อาร์เจนไตน์
ชื่อเต็ม : นิโกลัส ปาซ มาร์ติเนซ (Nicolás Paz Martínez)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 8 กันยายน ค.ศ. 2004
ส่วนสูง : 1.86 ซม.
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก
สโมสรปัจจุบัน : โคโม
นิโก้ ปาซ เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ของสโมสรโคโม ในศึกเซเรียอา อิตาลี แม้จะเกิดที่สเปน แต่เขาเลือกลงเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนติน่านิโก้ ปาซ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะกองกลางในตำแหน่งหมายเลข 10 สมัยใหม่ที่มีสไตล์สง่างาม และโดดเด่นด้านการเลี้ยงบอล การสร้างสรรค์เกม และการยิงประตู เขาถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลก
ชีวิตในวัยเด็ก :นิโก้ ปาซ เป็นบุตรชายของอดีตนักเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ปาโบล ปาซ โดยเขาเกิดที่ประเทศสเปนจากพ่อชาวอาร์เจนติน่าและแม่ชาวสเปน ทำให้มีสองสัญชาติ แต่เลือกเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าในระดับนานาชาติด้วยแรงบันดาลใจจากเส้นทางการค้าแข้งของคุณพ่อ
เขาเริ่มต้นจากการเล่นในตำแหน่งกองหลัง (เช่นเดียวกับพ่อ) ก่อนจะพัฒนาตัวเองมาเป็นกองกลางตัวรุกผู้สร้างสรรค์เกมในอะคาเดมีของเรอัล มาดริด ก่อนย้ายไปร่วมทีมโคโม่ ในศึกเซเรีย อา อิตาลี เขาเป็นที่รู้จักจากทักษะการเลี้ยงบอลและการทำประตูที่เป็นภัยคุกคามต่อคู่แข่งอย่างมาก
เส้นทางอาชีพกับสโมสรเรอัล มาดริด :
ปาซ เป็นผลผลิตจากทีมเยาวชนของ ซาน ฮวน และเตเนริเฟ่ จากนั้น ปาซได้เข้าร่วมอะคาเดมี “ลา ฟาบริก้า” ของเรอัล มาดริดในปี 2016 โดยเขาเริ่มต้นอาชีพในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ก่อนจะถูกขยับขึ้นไปเล่นในตำแหน่งที่สูงขึ้นเมื่อพัฒนาฝีเท้า หลังจากเคยเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า เขาถูกโยกไปเล่นปีก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาลงสนามให้ทีมรุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี นอกจากนี้เขายังสามารถเล่นเป็นกองกลางตัวกลางหรือมิดฟิลด์ตัวทำเกมได้อย่างคล่องตัว
เขาลงสนามนัดแรกให้กับทีมเรอัล มาดริด กาสตีย่า (ทีมสำรอง) ในเกมชนะอันดอร์รา 3-1 เมื่อเดือนมกราคม 2022 โดยถูกส่งลงเป็นตัวสำรองนาทีที่ 82 แทน อีบัน โมรันเต้
ฤดูกาล 2023–24 :วันที่ 8 พฤศจิกายน 2023 ปาซลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของเรอัล มาดริดเป็นครั้งแรก และเป็นการประเดิมสนามในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบแบ่งกลุ่มกับบราก้า โดยลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 77 แทนที่ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด ที่สนามซานติอาโก เบร์นาเบว
ต่อมาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2023 ปาซลงเล่นลาลีกานัดแรกให้มาดริด ในเกมที่ชนะบาเลนเซีย 5-1 โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 82 แทน ดานี การ์บาฆาล จากนั้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน เขาทำประตูแรกได้ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ช่วยให้ทีมคว้าชัยเหนือ นาโปลี 4-2
โคโม :วันที่ 25 สิงหาคม 2024 ปาซเซ็นสัญญาย้ายมาอยู่กับโคโม่ สโมสรน้องใหม่ในศึกเซเรีย อา ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัวราว 6 ล้านยูโร ในวันถัดมา เขาลงประเดิมสนามให้สโมสร โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในเกมเสมอกับกายารี่ 1-1 ต่อมาในวันที่ 19 ตุลาคม เขาทำประตูแรกให้โคโมได้สำเร็จในเกมเสมอกับปาร์มา 1-1
ก่อนเปิดฤดูกาล 2025–26 ปาซได้รับการมอบเสื้อหมายเลข 10 ของโคโม หลังจากช่วงซัมเมอร์ที่เรอัล มาดริดไม่ใช้เงื่อนไขซื้อกลับครั้งแรก และโคโมปฏิเสธข้อเสนอจากหลายสโมสรที่สนใจในตัวเขา เขาได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมโคปปา อิตาเลีย นัดเปิดฤดูกาลที่พบซุดติโรล ซึ่งโคโมเอาชนะไป 3-1
ต่อมาในวันที่ 24 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบการย้ายมาสู่สโมสร ปาซจ่ายแอสซิสต์และทำประตูจากลูกฟรีคิก ในเกมเปิดฤดูกาลที่โคโมเอาชนะลาซิโอ 2-0
ทีมชาติอาร์เจนติน่า :
ปาซเกิดที่ซานตา ครูซ เด เตเนริเฟ ในหมู่เกาะคานารี ทำให้เขามีสิทธิ์ลงเล่นให้ได้ทั้งทีมชาติสเปนและอาร์เจนติน่าในระดับนานาชาติ เขาได้รับการเรียกติดทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2022
ปาซยังถูกเรียกติดทีมชาติอาร์เจนติน่ารุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี เพื่อลงแข่งขันรายการ Maurice Revello Tournament ปี 2022 ที่ประเทศฝรั่งเศส ต่อมาเขาถูกใส่ชื่ออยู่ในรายชื่อเบื้องต้น 48 คน ของทีมชาติอาร์เจนติน่าสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์อีกด้วย
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2024 ปาซลงสนามให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมที่เอาชนะโบลิเวีย 6-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โดยเขาทำแอสซิสต์ให้ ลิโอเนล เมสซี ได้ในเกมดังกล่าว
สไตล์การเล่น :นิโก้ ปาซ เป็นกองกลางตัวรุกถนัดซ้ายที่โดดเด่นในการสร้างโอกาสจากการเคลื่อนที่หาช่องอย่างเฉียบคมและการจ่ายบอลเร็วแบบจังหวะเดียว แม้ในสถานการณ์เกมที่มีความเร็วสูง เขามักเล่นอยู่ระหว่างไลน์ที่สองและสาม มีส่วนร่วมกับการเซ็ตเกมบิลด์อัป และมักถอยลึกลงมาช่วยพาบอลขึ้นหน้า ด้วยเท้าซ้ายที่ทรงพลัง เขาเชื่อมเกมด้วยการจ่ายบอลที่แม่นยำและสามารถกำหนดจังหวะของทีมได้ดี โดยเฉพาะในเกมเปลี่ยนจากรับเป็นรุกแม้เขาจะสามารถจ่ายบอลระยะสั้นได้ดีทั้งสองเท้า แต่เห็นได้ชัดว่าเขาถนัดเท้าซ้ายในการจ่ายบอลยาวและการยิงประตู
ในจังหวะเกมรุก เขาชอบวิ่งสอดเจาะเข้าไปในช่องฮาล์ฟสเปซเพื่อหามุมจบสกอร์ และไม่ลังเลที่จะยิงไกลด้วยลูกยิงอันทรงพลังทั้งเสาแรกและเสาที่สอง ทำให้เขาเป็นกองกลางที่มีความอันตรายในการทำประตู นอกจากนี้ เขายังมีส่วนช่วยเกมรับด้วยการเพรสซิ่งสูง การดักบอลในจังหวะสำคัญ และการแท็กเกิลที่ไว้ใจได้
เขายังมีความสามารถในการรับมือกับการเพรสซิ่งเร็วของคู่แข่งได้ดีอีกด้วย และอัตราการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งก็ยอดเยี่ยม ช่วยให้เขาสามารถเอาตัวรอดในพื้นที่แคบและครองบอลไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ








