ประวัติ โรเจอร์ส ตัวรุกมากพรสวรรค์ของสิงห์ผงาด

sittiwut | 10/12/2025 21:20 น. | 15 Views

 

ชื่อเต็ม : มอร์แกน เอลเลียต โรเจอร์ส (Morgan Elliot Rogers)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 26 กรกฎาคม ค.ศ. 2002
ส่วนสูง : 1.87 ซม.
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก, ปีก
สโมสรปัจจุบัน : แอสตัน วิลล่า

            มอร์แกน โรเจอร์ส เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือปีกซ้ายให้กับสโมสรแอสตัน วิลล่าทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทีมชาติอังกฤษ โรเจอร์สเป็นผู้เล่นแนวรุกที่เล่นได้หลากหลาย จุดเด่นคือความแข็งแกร่งทางร่างกาย และการพาบอลลุยขึ้นไปในแดนหน้า และการคอนโทรลบอลที่ดี

            เขาเกิดที่เมืองเฮลส์โซเวนในเขต ดัดลีย์ และเติบโตมาจากอะคาเดมีของเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในปี 2019 เขาย้ายไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะไม่ได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เลยก็ตาม หลังจากนั้นเขาถูกส่งไปยืมตัวกับลินคอล์น ซิตี้, บอร์นมัธ และแบล็คพูล ก่อนจะย้ายไปมิดเดิลสโบรห์ในปี 2023 เพียงครึ่งฤดูกาลถัดมา เขาก็ย้ายร่วมทัพแอสตัน วิลล่าด้วยค่าตัวราว 8 ล้านปอนด์ในปี 2024

            ฤดูกาลแรกกับวิลล่าเป็นปีที่เขาแจ้งเกิดเต็มตัว จนคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร และตามมาด้วยรางวัล PFA Young Player of the Year 2025

            โรเจอร์สติดทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี จนถึงทีมชุดใหญ่ และประเดิมสนามในทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2024


ช่วงชีวิตวัยเด็ก :

            โรเจอร์สเกิดที่เฮลส์โซเวน เป็นลูกคนกลางในครอบครัวที่มีพี่น้องชายสามคน เขาเรียนที่ Colley Lane Primary และ Sandwell Academy และเป็นสมาชิกทีม Sandwell ที่คว้าแชมป์ National Schools Cup ปี 2017 โดยเขายิงหนึ่งประตูและทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ในรอบชิงชนะเลิศ โดยตั้งแต่เด็กๆเขาเป็นแฟนบอลเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และยังเป็นเพื่อนสมัยเด็กของ จู๊ด เบลลิงแฮม นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษอีกด้วย


เส้นทางอาชีพ

เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน :


            โรเจอร์สเข้าร่วมอะคาเดมีของเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ตั้งแต่อายุเพียง 7 ปี หลังจากถูกแมวมองของสโมสรพบเห็นพรสวรรค์ เขาลงสนามอาชีพครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2019 ในเกมเอฟเอ คัพ ที่พบกับไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 82 แทน เวส ฮูลาฮาน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ :

            วันที่ 1 สิงหาคม 2019 โรเจอร์ส ได้เซ็นสัญญาย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยักษ์ใหญ่จากศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ลินคอล์น ซิตี้ (ยืมตัว) :

            แน่นอนว่าการอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ เขาแทบไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามเลย ทำให้เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2021 โรเจอร์สย้ายไปลินคอล์น ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล เขาประเดิมสนามให้ทีมในเกมพบปีเตอร์โบโรห์ ยูไนเต็ดไม่กี่วันหลังจากย้ายมา โดยลงเล่นเป็นตัวสำรอง

            จากนั้นเขายิงประตูอาชีพลูกแรกในเกมที่ทีมชนะพอร์ทสมัธ 1-0 เมื่อวันที่ 26 มกราคม ต่อมาในเดือนมีนาคม เขายิงได้ 3 ประตูจาก 7 นัด ซึ่งทำให้เขาคว้ารางวัล EFL Young Player of the Month ประจำเดือนนั้นในช่วงยืมตัวกับสโมสร

บอร์นมัธ (ยืมตัว) :

            วันที่ 23 สิงหาคม 2021 โรเจอร์สย้ายไปร่วมทีมบอร์นมัธด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล อย่างไรก็ตามเขามีโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ค่อนข้างจำกัด ส่วนใหญ่ถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรอง เขายิงประตูเดียวของตัวเองกับสโมสรได้ในวันที่ 15 มกราคม 2022 ในเกมเดอะ แชมเปี้ยนชิพที่บอร์นมัธแพ้ลูตัน ทาวน์ 2-3

แบล็คพูล (ยืมตัว) :

            วันที่ 4 มกราคม 2023 โรเจอร์สย้ายไปแบล็คพูลด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล เขายิงประตูแรกและประตูเดียวของเขากับทีมได้ในเกมที่แบล็คพูลชนะนอริช ซิตี้ 1-0 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2023

มิดเดิลสโบรห์ :

            เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2023 โรเจอร์สย้ายไปร่วมทีมมิดเดิลสโบรห์ในศึกแชมเปี้ยนชิพ ด้วยค่าตัวที่ไม่เปิดเผย เขายิงประตูแรกให้สโมสรได้ในวันที่ 29 กรกฎาคม เป็นประตูตีเสมอช่วงท้ายเกม 2-2 ในแมตช์อุ่นเครื่องกับโอแซร์

            ส่วนประตูแรกในเกมทางการของเขามาถึงวันที่ 29 สิงหาคม ในศึกคาราบาว คัพ นัดที่มิดเดิลสโบรห์เอาชนะโบลตัน วันเดอเรอร์ส 3-1 ทั้งนี้โรเจอร์สยิงในรายการคาราบาว คัพได้ทั้งหมด 5 ประตู ทำให้เขากลายเป็น ดาวซัลโวสูงสุดของรายการ ในฤดูกาลนั้นอีกด้วย

 

 

แอสตัน วิลล่า :

            ด้วยฝีเท้าที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆทำให้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024 โรเจอร์ส วัย 21 ปี ได้เซ็นสัญญาย้ายไปร่วมทีมแอสตัน วิลล่าในพรีเมียร์ลีก ด้วยค่าตัวที่ไม่เปิดเผย แต่มีรายงานว่าประมาณ 8 ล้านปอนด์ และอาจเพิ่มเป็น 15 ล้านปอนด์ตามเงื่อนไขผลงาน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ยังได้รับส่วนแบ่ง 25% จากค่าตัวครั้งนี้ตามเงื่อนไขขายต่อที่เคยตกลงไว้ตอนเขาย้ายไปมิดเดิลสโบรห์

            วันที่ 3 กุมภาพันธ์ โรเจอร์สลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกให้วิลล่าในฐานะตัวสำรองช่วงท้ายเกม ในแมตช์ที่ทีมบุกชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 5-0 ต่อมาในวันที่ 6 เมษายน 2024 เขายิงประตูแรกให้กับสโมสรได้ในเกมเสมอเบรนท์ฟอร์ด 3-3

            ต่อมาในวันที่ 29 มกราคม 2025 เขาทำแฮตทริกแรกได้สำเร็จในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ที่วิลล่าชนะเซลติก 4-2 โดยสองประตูเกิดขึ้นตั้งแต่ห้านาทีแรกของเกม พร้อมคว้ารางวัลแมนออฟเดอะแมตช์จากผลงานยอดเยี่ยมครั้งนั้น การทำแฮตทริกดังกล่าวทำให้เขากลายเป็นนักเตะอังกฤษที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับสองที่ยิงแฮตทริกได้ในรายการนี้

            วันที่ 10 เมษายน 2025 เขายิงหนึ่งประตูในเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศนัดแรก ที่วิลล่าแพ้ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-3

            หลังจบฤดูกาล 2024–25 อันโดดเด่น ซึ่งเขาทำไป 14 ประตู และ 15 แอสซิสต์รวมทุกรายการ โรเจอร์สได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของแอสตัน วิลล่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2025 เขาถูกประกาศให้เป็นหนึ่งในหกผู้เข้าชิงรางวัล PFA Young Player of the Year และสุดท้ายก็ได้รับรางวัลนี้ไปครอง กลายเป็นผู้เล่นแอสตัน วิลล่าคนที่ห้าที่ได้รับรางวัลนี้นับตั้งแต่เริ่มมีการมอบรางวัลเป็นต้นมา

            วันที่ 10 พฤศจิกายน 2025 โรเจอร์สตัดสินใจต่อสัญญากับแอสตัน วิลล่าออกไปจนถึงปี 2031


ทีมชาติอังกฤษ :

            โรเจอร์สติดทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่ระดับอายุไม่เกิน 15 ปี จนถึงทีมชุดใหญ่ เขาเป็นตัวแทนทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ในทัวร์นาเมนต์ Montaigu ปี 2018 ต่อมาในเดือนกันยายนปีเดียวกัน เขาทำแฮตทริกให้ทีมชาติอังกฤษรุ่น ยู17 ในเกมพบเบลเยียม เดือนถัดมาเขายิงประตูได้อีกครั้งในเกมพบสหรัฐอเมริกา รวมถึงทำประตูปิดท้ายในเกมที่อังกฤษชนะบราซิล 3-1 อีกด้วย

            เดือนมีนาคม 2019 เขายิงสองประตูในเกมรอบคัดเลือกกับสวิตเซอร์แลนด์ และในเดือนเมษายน เขาถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกชิงแชมป์ยุโรปรุ่น ยู17 ในปี 2019

            โรเจอร์สลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษรุ่น ยู18 ครั้งแรกในฐานะตัวสำรองนาทีที่ 64 ในเกมชนะออสเตรเลีย 3-2 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2019

            ต่อมาในวันที่ 6 กันยายน 2021 เขาประเดิมสนามให้ทีมชาติอังกฤษรุ่น ยู20 ในเกมที่ถล่มโรมาเนีย 6-1 ที่ เซนต์ จอร์จ พาร์ค

            วันที่ 22 มีนาคม 2024 เขาลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษรุ่น ยู21 ครั้งแรก ในเกมชนะอาเซอร์ไบจาน 5-1 ในศึกคัดเลือกชิงแชมป์ยุโรปรุ่น ยู21 ปี 2025

            ด้วยผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆทำให้ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2024 โรเจอร์สถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรก สำหรับลุยในรายการยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก พบกรีซและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เขาลงสนามนัดแรกให้ทีมชุดใหญ่เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ในฐานะตัวสำรองในครึ่งหลัง ในเกมที่อังกฤษบุกชนะกรีซ 3-0

            โรเจอร์สยิงประตูแรกให้ทีมชาติอังกฤษได้ในเกมอุ่นเครื่องที่ชนะเวลส์ 3-0 ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2025


สไตล์การเล่น :

            โรเจอร์สเป็นผู้เล่นที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่ง โดยที่แอสตัน วิลล่าเขามักถูกใช้งานในบทบาทหมายเลข 10 แต่ก็สามารถเล่นเป็นปีก กองหน้า หรือกองกลางตัวรุกได้เช่นกัน

            ในเชิงแท็กติก เขามักยิงไกล และมีสไตล์การเล่นที่ดุดัน ชอบเลี้ยงพาบอลลุยใส่คู่แข่งและทะลุผ่านแนวรับ เขาได้รับคำชมเรื่องความแข็งแกร่งของร่างกาย การวิ่งพุ่งทะลุช่องอย่างทรงพลัง ความฉลาดในการเล่น การเลี้ยงบอล และความทุ่มเทในการทำงานในสนาม

            ด้วยพละกำลังและการพาบอลอันตรายของเขา ทำให้หลายสื่อเปรียบเทียบโรเจอร์สกับ จามาล มูเซียลา, โรนัลโด้ และเวย์น รูนีย์

            ตลอดปี 2025 เขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก ESPN จัดอันดับให้เขาอยู่ที่อันดับ 12 ของกองกลางตัวรุกที่ดีที่สุดในโลก โดยระบุว่าเขา “มีครบทุกอย่าง—ความหนุ่ม พละกำลัง ความดุดัน ทักษะ ความกระหาย พลังงาน และความมั่นใจ” ขณะเดียวกัน Sports Illustrated มองว่าเขาเป็น “ตัวแปลก” ในบรรดากองกลางตัวรุกเพราะมีความแข็งแกร่งทางร่างกายที่เหนือชั้น ส่วน GiveMeSport ระบุว่าการคอนโทรลบอลของเขานั้น “อาจดีที่สุดในลีก”

            หลังยิงประตู โรเจอร์สมักฉลองด้วยท่า “ice cold” โดยกอดอกและลูบไหล่ ซึ่งต่อมาท่าเดียวกันนี้ถูกทำให้โด่งดังยิ่งขึ้นโดยเพื่อนเก่าของเขาที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง โคล พาลเมอร์

ADS