ประวัติ เคนัน ยิลดิซ อัญมณีล้ำค่าของเบียงโคเนรี่

sittiwut | 19/12/2025 16:39 น. | 7 Views

 

ชื่อเต็ม : เคนัน ยิลดิซ (Kenan Yıldız)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2005
ส่วนสูง : 1.85 ซม.
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก, ปีก
สโมสรปัจจุบัน : ยูเวนตุส


          เคนัน ยิลดิซ คือกองหน้าดาวรุ่งชาวตุรกี ผู้กำลังสร้างชื่อบนเวทียุโรป ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และยังเป็นหนึ่งในขุนพลของทีมชาติตุรกี อีกด้วย

          ยิลดิซ จารึกชื่อในหน้าประวัติศาสตร์ของ “ม้าลาย” ด้วยการเป็น นักเตะอายุน้อยที่สุดของสโมสรที่ยิงประตูในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยวัยเพียง 19 ปี 136 วัน เท่านั้น สถิติที่บ่งบอกถึงพรสวรรค์ระดับพิเศษอย่างแท้จริง


เส้นทางลูกหนัง :


          เคนัน ยิลดิซ เกิดที่เมืองเรเกนส์บวร์ก ประเทศเยอรมนี โดยมีคุณพ่อ เอนกิน ยิลดิซ ชาวตุรกี และคุณแม่ บีอาเทอ ฮัคเคิล ชาวเยอรมัน สายเลือดลูกหนังผสมผสานสองวัฒนธรรมตั้งแต่เกิด เขาเริ่มเตะฟุตบอลในระดับเยาวชนกับอะคาเดมีของ ซัลเลิร์น เรเกนส์บวร์ก และ ยาห์น เรเกนส์บวร์ก ก่อนที่พรสวรรค์จะไปเข้าตาแมวมองของบาเยิร์น มิวนิค

          ในปี 2012 ยิลดิซ ย้ายเข้าสู่ อะคาเดมีบาเยิร์น มิวนิค ด้วยวัยเพียง 7 ขวบ และค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาทุกระดับอย่างมั่นคง เขามักได้รับบทบาทกัปตันทีมในหลายรุ่นอายุ จนกลายเป็นแกนหลักของทีม บาเยิร์น ยู19

          ในฤดูกาลสุดท้ายกับชุด ยู19 (ฤดูกาล 2021–22) ยิลดิซโชว์ฟอร์มเด่น ยิงไป 6 ประตู และทำ 8 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 20 นัด ตัวเลขที่สะท้อนคุณภาพเพลย์เมกเกอร์เกมรุกอย่างชัดเจน

          อย่างไรก็ตาม สัญญาของเขากับบาเยิร์นหมดลงในเดือนกรกฎาคม 2022 และสโมสรยอมรับว่าไม่สามารถรั้งตัวดาวรุ่งรายนี้ไว้ได้ ทำให้ยิลดิซกลายเป็น นักเตะฟรีเอเยนต์เนื้อหอม โดยมีทั้ง บาร์เซโลน่า และ ยูเวนตุส ที่เปิดศึกนอกสนามแย่งลายเซ็นเขา สุดท้ายในวันที่ 12 กรกฎาคม 2022 ก็เป็นยูเวนตุสที่คว้าตัวเขาไปร่วมทัพได้สำเร็จ และในเดือนกันยายนปีเดียวกัน หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษอย่าง The Guardian ก็ยกให้เขาเป็นหนึ่งใน 60 นักเตะที่เก่งที่สุดของโลกที่เกิดในปี 2005

          หลังจากโชว์ฟอร์มกับทีม ยู19 ได้ไม่นาน ในวันที่ 16 ธันวาคม ยิลดิซถูกเรียกตัวขึ้นสู่ ยูเวนตุส เน็กซ์ เจน (ทีมสำรอง) เป็นครั้งแรก ในเกมพบ เวอร์ตุส เวโรนา วันถัดมา เขาถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 61 โดยกุนซือ มัสซิโม บรัมบิลลา นั่นคือการประเดิมสนามในระดับอาชีพ แม้ทีมจะพ่ายไป 0-3 แต่ถือเป็นก้าวแรกบนเวทีลูกหนังอาชีพของเขาจริงๆ

          และในวันที่ 23 กันยายน 2023 ยิลดิซก็ซัดประตูแรกในชีวิตการเล่นอาชีพได้สำเร็จ จากลูกยิงไกลสุดสวยในเกมเยือน อันโคนา ซึ่งยูเวนตุสบุกชนะ 2-1


2023–ปัจจุบัน: แจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่

          ยิลดิซก็ได้ประเดิมสนามในเวที กัลโช่ เซเรีย อา ให้ยูเวนตุสเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2023 ในเกมบุกถล่ม อูดิเนเซ่ 3-0 โดยถูกส่งลงมาในครึ่งหลัง เพียง 10 วันต่อมา เขาได้รับรางวัลตอบแทนผลงานด้วยการต่อสัญญายาวถึงปี 2027

          วันที่ 23 ธันวาคม 2023 เขาได้ออกสตาร์ตตัวจริงให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อยิงประตูขึ้นนำในเกมชนะ โฟรซิโนเน 2-1 ประตูนี้ทำให้เขากลายเป็น นักเตะต่างชาติที่อายุน้อยที่สุดของยูเวนตุสที่ทำประตูในเซเรีย อา ด้วยวัย 18 ปี 233 วัน จากนั้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2024 ยูเวนตุสต่อสัญญาเขาเพิ่มจนถึงปี 2029 พร้อมมอบเสื้อหมายเลขในตำนานอย่าง เบอร์ 10 ให้อีกด้วย


          ค่ำคืนประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 ยิลดิซปั่นโค้งสุดงามเป็นประตูขึ้นนำในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่เปิดบ้านพบ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น

          นอกจากจะเป็น ประตูแรกในระบบลีกเฟสแบบใหม่ของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แล้ว ยังทำให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดของยูเวนตุสในรายการนี้ แซงหน้าตำนานอย่าง อเลสซานโดร เดล ปิเอโร อีกด้วย

          วันที่ 27 ตุลาคม ในศึก ดาร์บี้ ดิ อิตาเลีย พบอินเตอร์ มิลาน ยิลดิซถูกส่งลงมาในนาทีที่ 60 ขณะทีมตามหลัง 2-4 ก่อนจะระเบิดฟอร์มยิง สองประตูพายูเวนตุสไล่ตีเสมอ 4-4 และคว้ารางวัล MVP ของเกมไปครอง


          วันที่ 11 มกราคม 2025 เขาซัดประตูสุดสวยในเกม ดาร์บี้ เดลลา โมเล่ ที่พบอริร่วมเมืองอย่าง โตริโน ด้วยการเลี้ยงฝ่าแนวรับหลายคนก่อนยิงไกลด้วยซ้ายประตูนี้ได้รับการโหวตให้เป็น ประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2024–25 โดยเขาจบซีซั่นนั้นด้วยผลงาน 7 ประตูในลีก

          ยิลดิซ ยังมีส่วนร่วมกับยูเวนตุสในศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 โดยยิงหนึ่งประตูในเกมถล่ม อัล ไอน์ 5-0 และซัดสองประตูในเกมชนะ วีดัด คาซาบลังกา 4-1


          ฤดูกาล 2025–26 เขาออกสตาร์ตอย่างร้อนแรงคว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคมของเซเรีย อา จากนั้นในวันที่ 16 กันยายน 2025 ยิลดิซยิงประตูจากตำแหน่ง “เดล ปิเอโร โซน” ใส่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ลูกยิงนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับประตูในตำนานของเดล ปิเอโร เมื่อปี 1995–96 และทำให้เขาเป็น นักเตะหมายเลข 10 คนที่ 4 ของยูเวนตุส ที่ยิงใส่ดอร์ทมุนด์ในถ้วยยุโรป ต่อจาก โรแบร์โต้ บาจโจ, อเลสซานโดร เดล ปิเอโร และคาร์ลอส เตเบซ

          แม้เจ้าตัวจะยอมรับว่าไม่เคยเห็นประตูของเดล ปิเอโรในปี 1995 มาก่อน แต่บอกกับ Sky Sport Italia ว่า : “มันเป็นการยิงตามสัญชาตญาณล้วน ๆ”

          วันที่ 20 กันยายน หลังจาก มานูเอล โลคาเตลลี ถูกเปลี่ยนตัวออก ยิลดึซได้รับปลอกแขนกัปตันทีมในครึ่งหลังเกมบุกเสมอ เฮลลาส เวโรนา 1-1ทำให้เขากลายเป็น กัปตันทีมยูเวนตุสที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยวัยเพียง 20 ปีอีกด้วย

 

เส้นทางในนามทีมชาติ :

          เคนัน ยิลดิซ ผ่านการรับใช้ทีมชาติตุรกีมาตั้งแต่ระดับเยาวชน โดยเคยสวมเสื้อ ทีมชาติตุรกี ยู17 และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่นตั้งแต่อายุยังน้อย

          ในวันที่ 27 กันยายน 2022 เขาประเดิมสนามให้กับ ทีมชาติตุรกี ยู21 เป็นครั้งแรก ในเกมพบ จอร์เจีย โดยลงเล่นไป 28 นาที ถือเป็นอีกก้าวสำคัญสู่เวทีระดับสูงขึ้น ต่อมาในเดือนตุลาคม 2023 ด้วยผลงานอันร้อนแรงกับยูเวนตุสส่งผลให้ ยิลดิซ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติตุรกีชุดใหญ่เป็นครั้งแรก สำหรับศึกคัดเลือก ยูโร 2024 สองนัดสำคัญที่พบกับ โครเอเชีย และ ลัตเวีย

          วันที่ 12 ตุลาคม 2023 เขาได้สัมผัสเกมระดับทีมชาติชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ เมื่อถูกส่งลงสนามในนาทีที่ 86 ในเกมที่ตุรกีเฉือนชนะ โครเอเชีย 1-0


          ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยอารมณ์พิเศษเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2023 ยิลดิซ ยิงประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้สำเร็จในเกมอุ่นเครื่องที่ตุรกีเอาชนะ เยอรมนี 3-2 ที่กรุงเบอร์ลิน นี่ไม่ใช่แค่ประตูธรรมดา เพราะเยอรมนีคือประเทศบ้านเกิดของเขา และยังเป็นบ้านเกิดของมารดาเขาอีกด้วย ถือเป็นเกมที่ความผูกพันส่วนตัวมาบรรจบกับเส้นทางลูกหนังอย่างสมบูรณ์แบบ

          วันที่ 7 มิถุนายน 2024 ยิลดิซ ได้รับการคัดเลือกติดทีมชาติตุรกี 26 คนสุดท้ายชุดลุยศึกยูฟ่า ยูโร 2024 ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในความหวังใหม่ของ “ทัพพระจันทร์เสี้ยว” บนเวทียุโรป


สไตล์การเล่น :

          เคนัน ยิลดิซ คือมิดฟิลด์ยุคใหม่เต็มตัวแข้งที่ผสมผสานทั้งสมองและพละกำลังไว้ในคนเดียว จุดเด่นของเขาอยู่ที่การจ่ายบอลหนักแน่น แม่นยำ และลูกยิงไกลนอกกรอบที่หวังผลได้ตลอด เป็นประเภทนักเตะที่แนวรับคู่แข่งเผลอเมื่อไร มีสิทธิ์โดนลงโทษทันที

          เขาโดดเด่นเรื่อง เทคนิคส่วนตัวระดับสูง การคุมบอลเนียน การแตะบอลแรกที่ทำให้เกมไหลลื่น และการตัดสินใจในพื้นที่แคบ ๆ ที่เกินวัย


          ตำแหน่งที่ถนัดที่สุดของยิลดิซคือบทบาท เพลย์เมกเกอร์ ผู้คอยเชื่อมเกมและขับเคลื่อนจังหวะรุกให้ทีม แต่ด้วยรูปร่างที่แข็งแกร่ง และการยืนตำแหน่งที่ฉลาด เขายังสามารถปะทะและเอาตัวรอดในเกมหนักๆ ได้ดีอีกด้วย

          นอกจากการยืนในแดนกลางแล้ว ยิลดิซยังสามารถขยับออกไปเล่นเป็นตัวรุกริมเส้นได้เช่นกัน ทำให้เขาเป็นนักเตะอเนกประสงค์ที่โค้ชสามารถปรับใช้ได้หลากหลายระบบไม่ว่าจะใช้ปั้นเกม, เจาะแนวรับ หรือสอดมายิงเอง

ADS