ประวัติ ซาฟี ซิม่อนส์ เด็กลา มาเซีย เพชรประกายแสงของไก่เดือยทอง
ชื่อเต็ม : ซาฟี เกว็นติน เชย์ ซิม่อนส์ (Xavi Quentin Shay Simons)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 21 เมษายน ค.ศ. 2003
ส่วนสูง : 1.79 ซม.
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก, ปีก
สโมสรปัจจุบัน : สเปอร์ส
ซาฟี ซิม่อนส์ เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวดัตช์ เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือปีก ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเป็นหนึ่งในขุนพลของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ซิม่อนส์เป็นผลผลิตจาก ลา มาเซีย อคาเดมีชื่อก้องโลกของบาร์เซโลนา ก่อนตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (เปแอสเช) ในเดือนกรกฎาคม ปี 2019 โดยเริ่มต้นจากทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เปิดตัวในระดับอาชีพได้สำเร็จในปี 2021 ช่วงเวลาที่ปารีส เขามีส่วนร่วมคว้าแชมป์ ลีกเอิง และ เฟรนช์ คัพ มาครองได้อีกด้วย
ปี 2022 ซิม่อนส์เลือกกลับไปแจ้งเกิดในบ้านเกิดกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน และกลายเป็นฤดูกาลทองของเขาอย่างแท้จริง เมื่อพาทีมคว้าแชมป์ เคเอ็นวีบี คัพ, โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์ พร้อมกับคว้ารางวัล ดาวซัลโวเอเรดิวิซี่ ลีก ในฤดูกาลเดียวที่ลงเล่นให้สโมสรอีกด้วย
ชีวิตวัยเด็ก :
ซาฟี ซิม่อนส์ เกิดที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นลูกชายของ เพ็กกี้ ซิม่อนส์ และ เรจิลลิโอ้ ซิม่อนส์ อดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวดัตช์ ซึ่งมีเชื้อสายซูรินาเม ซาฟี มีพี่ชายหนึ่งคนคือ เฟาสติโน ซิม่อนส์ (เกิดปี 1996) ที่เคยเล่นฟุตบอลเช่นกัน และที่น่าสนใจคือทั้งสองคน เกิดวันเดียวกันเมื่ออายุเพียง 3 ขวบ ซาฟีย้ายไปอยู่กับครอบครัวในหมู่บ้านใกล้เมืองอาลิกันเต้ ประเทศสเปน และที่นั่นเองเขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังอย่างจริงจังกับสโมสรท้องถิ่น คลับ เดปอร์ติโบ ทาเดร์ ซึ่งเป็นก้าวแรกก่อนจะพัฒนาฝีเท้าไปสู่ระดับโลกในเวลาต่อมา
เขาฉายแววไม่ธรรมดาตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุเพียง 13 ปี เขาได้เซ็นสัญญาสปอนเซอร์ครั้งแรกกับ ไนกี้ ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ อาดิดาส ในปี 2021 และย้ายไปอยู่กับ พูม่า ในปี 2023
ในเดือนสิงหาคม 2018 เขาปรากฏตัวในโฆษณาไนกี้ชื่อดัง “Awaken the Phantom” ร่วมกับซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, เควิน เดอ บรอยน์, เนย์มาร์, โรนัลดินโญ, ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง และอันเดรีย ปีร์โล
ในช่วงค้าแข้งระดับเยาวชน ซิมอนส์กลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่โด่งดังบนโลกโซเชียล โดยในปี 2019 ตอนอายุเพียง 16 ปี เขามีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมมากกว่า 2 ล้านคน แล้ว
ในปี 2020 ชื่อของเขาถูกจับตามองในระดับโลก เมื่อได้รับการจัดอันดับติดลิสต์ NxGn 2020 ของ Goal ในฐานะหนึ่งใน 50 วันเดอร์คิดที่น่าจับตาที่สุดของโลก และยังถูก The Guardian เลือกติด Next Generation 2020 อีกด้วย
ด้านการดูแลอาชีพ หลังการเสียชีวิตของซูเปอร์เอเยนต์ชื่อดัง มีโน่ ไรโอล่า ในเดือนเมษายน 2022 ราฟาเอลา พิเมนต้า เข้ามารับหน้าที่เป็นเอเยนต์ของซิมอนส์ ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนมาใช้บริการ ดาร์เรน ดีน ในเดือนพฤษภาคม 2023
เส้นทางอาชีพสโมสรช่วงเริ่มต้น :
ซาฟี ซิม่อนส์ เข้าสู่ระบบเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ตั้งแต่ปี 2010 หลังย้ายมาจาก คลับ เดปอร์ติโบ ทาเดร์ สโมสรท้องถิ่นแถบอาลิกันเต้ และพัฒนาอย่างรวดเร็วจนถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแข้งเยาวชนที่มีอนาคตไกลที่สุดของสโมสรแห่งแคว้นคาตาลัน ถึงขั้นมีรายงานว่า เชลซี จากอังกฤษพยายามดึงตัวไปร่วมทีมตั้งแต่อายุยังน้อย
ด้วยพรสวรรค์ที่โดดเด่น ซิม่อนส์ถูกขนานนามว่าเป็น “วันเดอร์คิด” และในปี 2017 เขาได้เข้าไปอยู่ภายใต้การดูแลของซูเปอร์เอเยนต์ชื่อดัง มีโน่ ไรโอล่า ซึ่งยิ่งตอกย้ำสถานะดาวรุ่งระดับท็อปของยุโรปในเวลานั้น
ปารีส แซงต์ แชร์กแมง :เดือนกรกฎาคม ปี 2019 ซิม่อนส์ตัดสินใจย้ายสู่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หลังไม่สามารถตกลงสัญญาฉบับใหม่กับบาร์เซโลน่าได้ โดยเขาเซ็นสัญญา 3 ปี ซึ่งมีมูลค่าสูงสุดราว 1 ล้านยูโรต่อปี จากนั้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2021 ซิมอนส์ประเดิมสนามในระดับอาชีพให้กับ เปแอสเช อย่างเป็นทางการ ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรองแทน ยูเลียน แดร็กซ์เลอร์ ในเกมเฟรนช์ คัพ ที่เอาชนะ ก็อง 1-0 ก่อนจะได้สัมผัสเวที ลีกเอิง ครั้งแรกในอีกสองเดือนถัดมา จากการลงเป็นตัวสำรองในเกมถล่ม สตราสบูร์ก 4-1
วันที่ 19 พฤษภาคม 2021 เขาคว้าแชมป์อาชีพรายการแรกในชีวิต หลัง เปแอสเช ผงาดคว้าแชมป์รายการ เฟร้นช์ คัพ มาครอง
ในฤดูกาล 2021/22 ซิม่อนส์ถูก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือในขณะนั้นใส่ชื่อร่วมเก็บตัวปรีซีซั่นกับทีมชุดใหญ่ อย่างไรก็ตามในช่วงต้นฤดูกาลเขาถูกส่งกลับไปฝึกซ้อมกับทีมเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ภายใต้การคุมทีมของ ซูมานา กามารา
กระทั่งวันที่ 19 ธันวาคม 2021 เขาได้ลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลนั้นเป็นครั้งแรก และเป็นการออกสตาร์ตตัวจริงครั้งแรกในอาชีพ ในเกมเฟร้นช์ คัพ ที่ทีมเอาชนะ เฟญีส์ โอลนัว 3-0 จากนั้นในวันที่ 3 มกราคม 2022 ซิม่อนส์ทำแอสซิสต์แรกในระดับทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ จากการจ่ายบอลให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป ยิงประตู ในเกมถล่ม วานส์ 4-0
เขาลงเล่นในลีกเอิงฤดูกาลนั้นเป็นครั้งแรก เมื่อถูกส่งลงมาในนาทีที่ 69 ของเกมเสมอ ลียง 1-1 วันที่ 9 มกราคม และแม้จะพลาดยิงจุดโทษคนสุดท้ายในเกมเฟร้นช์ คัพ รอบ 16 ทีม ที่แพ้ นีซ ในการดวลจุดโทษ 5-6 แต่ต่อมา ซิม่อนส์ก็ได้รับโอกาสออกสตาร์ตตัวจริงในลีกเอิงเป็นครั้งแรก และมีส่วนช่วยให้ เปแอสเช เปิดบ้านเฉือน แรนส์ 1-0 ที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ อีกด้วย เมื่อจบฤดูกาล 2021/22 เขาคว้าแชมป์ ลีกเอิง กับเปแอสเช ซึ่งนับเป็นแชมป์ลีกอาชีพรายการแรกในชีวิตของเขา
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน :วันที่ 28 มิถุนายน 2022 ซาฟี ซิม่อนส์ ได้เซ็นสัญญาย้ายร่วมทัพ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเอเรดิวิซี่ ด้วยสัญญาระยะยาว 5 ปี แม้เดิมทีคาดกันว่าเขาจะต่อสัญญากับ เปแอสเช แล้วย้ายมาเล่นให้ พีเอสวี ในรูปแบบยืมตัว แต่สถานการณ์พลิกเมื่อ พีเอสวี ไม่ต้องการดีลยืมตัวอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เปแอสเช ก็ได้ใส่เงื่อนไขซื้อกลับ (buy-back clause) มูลค่าราว 6 ล้านยูโร ไว้ในสัญญาโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2023 อีกด้วย
ซิม่อนส์เปิดตัวกับ พีเอสวี ได้อย่างเร้าใจ เมื่อยิงประตูแรกในอาชีพได้ตั้งแต่นัดประเดิมสนาม ช่วยทีมเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่าง อาแจ็กซ์ 5-3 ในศึก โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2022 ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม เขาลงเล่นเกมเอเรดิวิซีนัดแรก และแอสซิสต์ให้ โยฮัน บากาโยโก ยิงประตูขึ้นนำ ในเกมถล่ม เอ็มเมน 4-1
ซิม่อนส์ได้ประเดิมเวทียุโรปกับ พีเอสวี ในรอบคัดเลือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนจะยิงประตูแรกในถ้วยยุโรปได้สำเร็จ จากเกมยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่บุกถล่ม ซูริค 5-1 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม
ในศึกนัดชิงชนะเลิศ เคเอ็นวีบี คัพ 2023 เขาทำแอสซิสต์ให้ ธอร์กาน อาซาร์ ยิงประตูสำคัญ ก่อนที่ พีเอสวี จะดวลจุดโทษเอาชนะ อาแจ็กซ์ และคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่
เกมสุดท้ายของฤดูกาลเอเรดิวิซี 2022/23 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2023 ซิม่อนส์โชว์ฟอร์มเดือด ยิงคนเดียวสองประตู รวมถึงประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยทีมเฉือน อาแซด อัลค์มาร์ 2-1 การันตีรองแชมป์ลีก และคว้าตั๋วไปเล่นรอบคัดเลือกแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลถัดไปอีกด้วย
ฤดูกาลนั้นเขาซัดไป 19 ประตู คว้ารางวัลดาวซัลโวเอเรดิวิซี ร่วมกับ อนาสตาซิออส ดูวิคาส ของอูเทร็คท์ และจบฤดูกาลกับผลงานรวมสุดโหด 22 ประตู 12 แอสซิสต์ จาก 48 นัดรวมทุกรายการ พร้อมรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของสโมสรถึงสองครั้ง (สิงหาคม 2022 และมีนาคม 2023)
วันที่ 16 กรกฎาคม 2023 พีเอสวี ประกาศว่า ซิม่อนส์เดินทางออกจากแคมป์เก็บตัวของทีม เพื่อไปจัดการขั้นตอนการย้ายกลับสู่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อีกครั้ง
กลับสู่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง :วันที่ 19 กรกฎาคม 2023 ซาฟี ซิม่อนส์ กลับมาสวมเสื้อ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อีกครั้ง หลังสโมสรใช้เงื่อนไขซื้อกลับมูลค่าราว 6 ล้านยูโร ตามที่ระบุไว้ในสัญญากับ พีเอสวี พร้อมเซ็นสัญญาระยะยาว 4 ปี ซึ่งการกลับมาครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้ข้อตกลงที่ซิม่อนส์ จะมีสิทธิ์ตัดสินใจขั้นสุดท้ายด้วยตัวเอง นับเป็นอีกก้าวสำคัญในเส้นทางอาชีพของดาวรุ่งชาวดัตช์รายนี้
แอร์เบ ไลป์ซิก (ยืมตัว) :ทันทีที่ถูก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ดึงตัวกลับมา ซาฟี ซิม่อนส์ ก็ถูกปล่อยยืมไปให้ แอร์เบ ไลป์ซิก สโมสรดังแห่งบุนเดสลีกา ในฤดูกาล 2023/24 โดยเขาได้รับเสื้อหมายเลข 20 จากนั้นวันที่ 12 สิงหาคม 2023 ซิม่อนส์ประเดิมสนามให้ไลป์ซิกได้อย่างสวยหรู ด้วยการมีส่วนช่วยพาทีมเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค 3-0 คว้าแชมป์ เดเอฟแอล ซูเปอร์คัพ 2023 ไปครอง
จากนั้นเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เขายิงประตูแรกในบุนเดสลีกาได้สำเร็จในเกมที่ทีมถล่ม สตุ๊ตการ์ต 5-1 พร้อมทำอีก 2 แอสซิสต์ กลายเป็นเกมแจ้งเกิดอย่างแท้จริงของเขา
วันที่ 25 ตุลาคม ซิม่อนส์ซัดประตูแรกในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้จากเกมชนะ เร้ด สตาร์ เบลเกรด 3-1 แถมยังคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังทำได้ทั้งยิงและจ่าย ด้วยในวัย 20 ปี 187 วัน ทำให้เขากลายเป็นนักเตะดัตช์ที่อายุน้อยที่สุดนับตั้งแต่ อาร์เยน ร็อบเบน เมื่อปี 2003 ที่สามารถยิงประตูและแอสซิสต์ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดเดียวกันได้
ในเกมรีแมตช์กับ เร้ด สตาร์ เบลเกรด วันที่ 7 พฤศจิกายน ซิม่อนส์ยิงประตูขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม พาไลป์ซิกชนะ 2-1 และการันตีการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อจบฤดูกาล 2023/24 เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ยิงไป 8 ประตู กับ 11 แอสซิสต์ จาก 32 นัดในบุนเดสลีกา รั้งอันดับสองร่วมในด้านการแอสซิสต์และมีส่วนสำคัญช่วยไลป์ซิกจบอันดับ 4 คว้าตั๋วฟุตบอลยุโรปอีกด้วย
ยืมตัวรอบสอง :
วันที่ 5 สิงหาคม 2024 ซิม่อนส์ถูกปล่อยยืมตัวให้ แอร์เบ ไลป์ซิก อีกครั้งจนจบฤดูกาล และในวันที่ 12 มกราคม 2025 หลังหายจากอาการบาดเจ็บและได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 เขาระเบิดฟอร์มยิงสองประตูพาทีมชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน 4-2 ซึ่งถือเป็นการทำสองประตูในเกมเดียว เป็นครั้งแรกของเขาในบุนเดสลีกา จากการลงเล่นนัดที่ 40 ในลีกสูงสุดของเยอรมนี
แอร์เบ ไลป์ซิก ให้สัญญาถาวร :
วันที่ 30 มกราคม 2025 ไลป์ซิกตัดสินใจทุ่มเงิน 50 ล้านยูโร พร้อมโบนัสตามผลงานอีกสูงสุด 31 ล้านยูโร คว้าตัวซาฟี ซิม่อนส์ มาจากเปแอสเช แบบถาวร ทำลายสถิติค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเซ็นสัญญายาวจนถึงปี 2027 อย่างไรก็ตาม วันที่ 14 พฤษภาคม 2025 ซิม่อนส์ได้แจ้งกับต้นสังกัดว่าเขาตัดสินใจ ขอย้ายทีมหลังจบฤดูกาล 2024/25 โดยให้เหตุผลหลักคือ ไลป์ซิกไม่สามารถคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลถัดไปได้
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ :
วันที่ 29 สิงหาคม 2025 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีก ประกาศคว้าตัว ซาฟี ซิม่อนส์ มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการ ด้วยสัญญาระยะยาว อย่างน้อย 5 ปี ค่าตัวคาดการณ์ราว 51.8 ล้านปอนด์ โดยดีลนี้กลายเป็นที่จับตามองอย่างมาก เนื่องจากซิม่อนส์เลือกย้ายมาสวมเสื้อ “ไก่เดือยทอง” ทั้งที่ได้รับความสนใจอย่างจริงจังจาก เชลซี คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน ซึ่งพยายามเดินหน้าทาบทามเขามาตลอดช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ปี 2025
ซิม่อนส์ประเดิมสนามให้สเปอร์สเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2025 ด้วยการออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทันที และทำแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงประตูแรกในเกมบุกถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-0 แสดงให้เห็นถึงคุณภาพตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม ต่อมาในวันที่ 6 ธันวาคม เขาปลดล็อกประตูแรกกับสโมสรได้สำเร็จ พร้อมทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ ในเกมเปิดบ้านเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0
ก่อนที่วันที่ 9 ธันวาคม ซิม่อนส์จะจารึกชื่อบนเวทียุโรปอีกครั้ง ด้วยการยิงประตูแรกในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกับสเปอร์สช่วยทีมเอาชนะ สลาเวีย ปราก 3-0 ตอกย้ำบทบาทแข้งตัวรุกคนสำคัญของทีมในฤดูกาลแรกบนแผ่นดินอังกฤษ
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ :ซาฟี ซิม่อนส์ รับใช้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์มาแล้วแทบทุกระดับ ตั้งแต่ รุ่นอายุไม่เกิน 15, 16, 17, 19 ไปจนถึง 21 ปี ก่อนจะก้าวขึ้นสู่เวทีทีมชาติชุดใหญ่ในเวลาต่อมา
วันที่ 21 ตุลาคม 2022 ซิม่อนส์มีชื่อติดโผ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในรอบคัดเลือกเบื้องต้น และในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือในขณะนั้นได้ประกาศเรียกเขาติดทีมชุดลุยศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ อย่างเป็นทางการ
ในฐานะนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในทัพ “อัศวินสีส้ม” การติดทีมของซิม่อนส์ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเซอร์ไพรส์ของทัวร์นาเมนต์ และวันที่ 3 ธันวาคม 2022 เขาได้ประเดิมสนามทั้งในนามทีมชาติชุดใหญ่และฟุตบอลโลกทันทีในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เนเธอร์แลนด์เอาชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1 พร้อมสร้างสถิติเป็น นักเตะดัตช์อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในรอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซิม่อนส์ไม่มีโอกาสลงสนาม และเนเธอร์แลนด์ก็ต้องยุติเส้นทางไว้เพียงเท่านี้ หลังพ่าย อาร์เจนตินา ในการดวลจุดโทษ
วันที่ 24 มีนาคม 2023 ซิม่อนส์ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์เป็นครั้งแรก ในเกมเปิดหัวรอบคัดเลือก ยูโร 2024 ที่พบกับ ฝรั่งเศส และหลังจากนั้นเขาก็มีส่วนร่วมครบทุกนัดในรอบคัดเลือก โดยได้ลงเป็นตัวจริงถึง 7 จาก 8 เกม ในกลุ่ม B
เดือนมิถุนายน 2023 ซิม่อนส์ติดทีมชาติชุดสู้ศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบไฟนอลส์ โดยได้ออกสตาร์ตตัวจริงทั้งในรอบรองชนะเลิศพบ โครเอเชีย และเกมชิงอันดับสามกับ อิตาลี จากนั้นในวันที่ 29 พฤษภาคม 2024 เขามีชื่อติดทัพเนเธอร์แลนด์ลุยศึก ยูโร 2024 และก่อนเปิดทัวร์นาเมนต์ ซิม่อนส์ก็ปลดล็อกประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้สำเร็จ จากเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายที่ถล่ม ไอซ์แลนด์ 4-0 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน
ในรอบรองชนะเลิศของยูโร 2024 ซิม่อนส์ยิงประตูขึ้นนำได้ตั้งแต่นาทีที่ 7 ในเกมพบ อังกฤษ แม้สุดท้าย “อัศวินสีส้ม” จะพ่ายไป 1-2 และต้องยุติเส้นทางไว้เพียงรอบตัดเชือกก็ตาม
สไตล์การเล่น :ซาฟี ซิม่อนส์ เป็นผู้เล่นแนวรุกที่มีความคล่องตัวสูง เล่นได้ทั้งตำแหน่ง กองกลางตัวรุก และ ปีก จุดเด่นอยู่ที่ความเร็วในการออกตัว การควบคุมบอลในพื้นที่แคบ และไหวพริบในการตัดสินใจที่เฉียบคม
ในฐานะผลผลิตจาก ลา มาเซีย เขาโดดเด่นเรื่องเทคนิคขั้นพื้นฐาน การเลี้ยงบอลติดเท้า และการเล่นบอลกับพื้นได้อย่างลื่นไหล ซิมอนส์มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้เปลี่ยนทิศทางได้รวดเร็ว สามารถพลิกหลบคู่แข่งในจังหวะสั้นๆ และเอาตัวรอดจากการถูกบีบพื้นที่ได้ดี นอกจากความสามารถเฉพาะตัวที่สูงแล้ว เขายังเป็นนักเตะที่อ่านเกมขาด กล้ารับบอลในพื้นที่อันตราย และตัดสินใจได้เร็ว ไม่ว่าจะเป็นการแทงทะลุช่อง การพาบอลพุ่งเข้าหากรอบเขตโทษ หรือการยิงจากแถวสอง จึงเหมาะกับระบบเกมรุกที่ต้องการความเร็วและการเคลื่อนที่ตลอดเวลา
โดยภาพรวม ซิม่อนส์คือแข้งแนวรุกสมัยใหม่ที่ผสมผสานเทคนิคแบบสเปน กับ พลังและไดนามิกของฟุตบอลยุโรปยุคใหม่ เป็นตัวปั้นเกมที่สามารถเปลี่ยนจังหวะและสร้างความแตกต่างให้ทีมได้ทุกเมื่อ












