ประวัติ อังเดร ชูร์เล่

| 01/01/1970 07:00 น. | 416 Views

"มู" ชี้ ต้องให้เวลาชูร์เล่ปรับตัว

     โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของทีมเชลซี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า อังเดร ชูร์เล่ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน เป็นนักเตะที่มีทัศนคติที่ดี และจะประสบความสำเร็จในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้แน่ แต่ต้องให้เวลากับเขาในการปรับตัวเข้ากับทีมก่อน

     ชูร์เล่ ย้ายมาจาก เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทัพ "สิงห์บลู" เมื่อช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ (ราว 900 ล้านบาท) หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งกับสโมสรและทีมชาติ

     "อังเดร ต้องการเวลาเพื่อปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เพราะที่นี่ สไตล์การเล่นและรายละเอียดของฟุตบอลแตกต่างกับที่เขาคุ้นเคย" มูรินโญ่ กล่าว

     "เขาเป็นนักเตะที่ดี เป็นเด็กที่กระตือรือร้นในการซ้อม และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เขาเป็นความหวังของพวกเรา เราแฮปปี้มากในการลงทุนกับนักเตะดาวรุ่งแบบนี้" มูรินโญ่ ปิดท้าย

     นักเตะวัย 22 ปี รายนี้ พลาดการลงสนามในนัดที่ เชลซี ถล่มเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ไปได้ 4-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน เพราะอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อขา แต่สามารถลงสนามช่วยทีมบุกไปชนะ ชาลเก้ 3-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนนี้

2013-10-23

ชื่อ : อังเดร ชูร์เล่
 
เชื้อชาติ : เยอรมัน
 
วันเกิด : 6 พฤศจิกายน 1990
 
อายุ : 22 ปี
 
สถานที่เกิด : เมืองลุดวิกชาเฟ่น ประเทศเยอรมัน
 
ส่วนสูง : 184 ซม.
 
ต้นสังกัด : เชลซี

ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก, กองหน้า

 


 

     อังเดร ชูร์เล่ เกิดที่ เมืองลุดวิกชาเฟ่น ประเทศเยอรมัน เขาอาศัยและเติบโตที่เมืองนี้ โดย ชูร์เล่ เข้าสู่วงการฟุตบอลด้วยการเล่นให้กับสโมสรท้องถิ่น อย่าง ลุดวิกชาเฟเนอร์ เอสซี ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และที่นี่แหละเป็นที่ที่เขาเริ่มฉายแววยอดนักเตะออกมา

     หลังจากนั้น ชูร์เล่ ก็ย้ายไปอยู่กับ ไมนซ์ ในปี 2006 เขาลงเล่นในทีมเยาวชนของสโมสรเป็นเวลา 3 ปี ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า รุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี มาครองได้ในปี 2009

     ในเดือนสิงหาคม 2009 ชูร์เล่ ได้รับโอกาสลงสนามในเวทีบุนเดสลีก้าเป็นครั้งแรก ในนัดที่ เสมอกับ เลเวอร์คูเซ่น 2-2 ซึ่งเป็นนัดเปิดฤดูกาล 2009-10 และในเดือนต่อมา เขาก็ยิงสองประตูแรกในลีกของตัวเองได้ ในนัดที่ ไมนซ์ บุกไปชนะ โบคุ่ม 3-2 ก่อนที่จะได้เซ็นสัญญาอาชีพกับทางสโมสร ในสัปดาห์ต่อมา

     ฤดูกาลแรกของเขาในศึกบุนเดสลีก้า ชูร์เล่ ทำสถิติลงสนาม 33 นัด ยิงไป 5 ประตู พลาดการลงสนามเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น และพา ไมนซ์ จบที่อันดับ 9 ของตาราง

     ในเดือนกันยายน 2010 สโมสรไมนซ์ ได้ออกมาประกาศว่า ชูร์เล่ จะย้ายตัวไปอยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร (ราว 320 ล้านบาท) ในตอนจบฤดูกาล 2010-11 สำหรับฤดูกาลที่ 2 ของเขากับ ไมนซ์ ในเวทีบุนเดสลีก้านั้น ชูร์เล่ ลงเล่นไป 34 นัด ซัดไป 15 ประตู ทำลายสถิติยิงประตูสูงสุดใน 1 ฤดูกาลของสโมสร ที่ โมฮัมเหม็ด ซีดาน เคยทำไว้ 14 ประตู ในฤดูกาล 2006-07 และยังช่วยให้ ไมนซ์ จบในอันดับที่ 5 ได้สิทธิ์ไปลุยในศึกยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

     ในฤดูกาล 2011-12 ชูร์เล่ ลงเล่นให้กับทีม "ห้างขายยา" ครั้งแรก ในศึกเยอรมัน คัพ ที่พบกับ ไดนาโม เดรสเดน แต่สำหรับในศึกบุนเดสลีก้า เขาต้องรอจนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2011 ถึงจะมีโอกาสได้ลงสนาม และสามารถยิงประตูแรกในสีเสื้อเลเวอร์คูเซ่นได้ทันที ในนัดที่ เสมอกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 2-2 โดยตอนจบฤดูกาล ชูร์เล่ ลงสนามไปทั้งหมด 40 นัด ยิงได้ 9 ประตู รวมในทุกรายการ

     ในเดือนพฤษภาคม 2012 มีข่าวลือว่า เชลซี ต้องการจะซื้อตัว ชูร์เล่ ไปร่วมทีม แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ยังอยู่กับเลเวอร์คูเซ่น ต่อไป ซึ่งในฤดูกาล 2012-13 นี้ ชูร์เล่ ลงสนามให้กับทีม "ห้างขายยา" ไปทั้งสิ้น 43 นัด รวมทุกรายการ ยิงประตูได้ 14 ประตู

     เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2013 ชูร์เล่ ก็ได้ย้ายมาอยู่กับ เชลซี ในที่สุด ด้วยค่าตัว 21 ล้านยูโร หรือ 18 ล้านปอนด์ (ราว 900 ล้านบาท) เขาได้รับเสื้อหมายเลข 14 จากสโมสร และลงสนามในสีเสื้อเชลซีเป็นครั้งแรก ในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะ ฮัลล์ ไป 2-0 เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ที่ผ่านมา ล่าสุด ชูร์เล่ ลงสนามให้กับ "สิงห์บลู" ไปแล้ว 9 นัด รวมทุกรายการ แต่ยังยิงประตูไม่ได้เลย

     สำหรับในนามทีมชาติเยอรมัน ชูร์เล่ ติดทีม "อินทรีเหล็ก" ครั้งแรกในทีมเยาวชน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ต่อมา เขาก็เลื่อนขึ้นไปติดทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ได้ในที่สุด ชูร์เล่ ลงสนามรับใช้ทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในนัดอุ่นเครื่องที่พบกับ สวีเดน โดยลงสนามไปเป็นตัวสำรอง

     ชูร์เล่ มายิงประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้ ในนัดอุ่นเครื่องที่เอาชนะ อุรุกวัย ได้ 2-1 เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2011 ปัจจุบัน ชูร์เล่ ลงสนามในนามทีมชาติเยอรมันไปแล้วทั้งสิ้้น 28 นัด ยิงได้ 11 ประตู

     ชูร์เล่ กำลังเจอบททดสอบครั้งใหม่ในชีวิตในการลงเล่นในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แต่ด้วยความสามารถที่เขาแสดงออกมาให้เห็นตอนที่เล่นอยู่ในเวทีบุนเดสลีก้าและทีมชาติเยอรมัน คงไม่ยากเกินไปที่จะประสบความสำเร็จกับ เชลซี เป็นแน่ แต่คงต้องให้เวลาเขาปรับตัวเข้ากับทีมอีกสักพัก

Updated by [G]
 

ADS