ประวัติ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

| 01/01/1970 07:00 น. | 693 Views

เดอะ ค็อป มีหวั่น! เรือใบ หวังฉก คูตี้ จากอก หงส์

     มีรายงานออกมาว่า สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมมหาเศรษฐีแห่งเกาะอังกฤษ หวังใช้อำนาจเงินดูด ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จากสโมสร ลิเวอร์พูล ให้ได้หลังจบซีซั่น

     จากผลงานสุดย่ำแย่ในพรีเมียร์ลีกของ "เรือใบสีฟ้า" ทำให้มีการคาดเดากันว่า มานูเอล เปเยกรินี่ อาจถูกสโมสรไล่ออก พร้อมกับสร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยใช้ผู้เล่นฟอร์มฮอตในลีกเป็นตัวขับเคลื่อน

     ก่อนหน้านี้ทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ราฮีม สเตอร์ลิง ต่างเคยมีข่าวเชื่อมโยงกับทีมดังจาก เอติฮัด สเตเดี้ยม มาแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนจะเป็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่มีข่าวเป็นรายล่าสุด

     คาดกันว่าทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวังยื่นข้อเสนอเกทับต้นสังกัดด้วยมูลค่าเกินกว่าที่ ลิเวอร์พูล จะปฎิเสธได้ และใช้โอกาสที่พวกเขาจะได้เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นการล่อตาล่อใจดาวรุ่งพรสวรรค์รายนี้

 
ชื่อ : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
 
เชื้อชาติ : บราซิล
 
วันเกิด : 12 มิถุนายน 2535
 
อายุ : 21 ปี
 
สถานที่เกิด : ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศ บราซิล
 
ส่วนสูง : 171 ซม.
 
ต้นสังกัด : ลิเวอร์พูล
 
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก
 
          ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ คือผลผลิตชิ้นโบแดงจากศูนย์ อคาเดมี่ ของ วาสโก ดา กาม่า ที่ให้การดูแลมิดฟิลด์ร่างเล็กรายนี้ตั้งแต่ 6 ขวบ โดย คูตินโญ่ ใช้เวลาในการพัฒนาฝีเท้าเกือบ 10 ปี ก่อนจะฉายแววความเป็นอัจฉริยะลูกหนัง ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักให้กับ วาสโก ดา กาม่า และ ทีมชาติ บราซิล รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ซึ่งในบทบาทหลังดูเหมือนจะเป็นการประกาศศักดาให้โลกรู้ถึงความฉกาจฉกรรจ์ของฝีเท้า หลังจากตะบันแฮตทริคใส่ อิหร่าน ในเกมอุ่นเครื่อง และด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงหาตัวจับยากสำหรับเยาวชนที่มีอายุแค่ 16-17 ปี จึงเข้าตา อินเตอร์ มิลาน มหาอำนาจลูกหนังของอิตาลีเข้าอย่างจัง 
 

 
          ปี 2008 อินเตอร์ มิลาน พยายามดึงตัวสตาร์ บราซิล เข้าถิ่น ซาน ชิโร่ ด้วยค่าหัวแบบจิ๊บๆที่ 4 ล้านยูโร ทว่าล้มเหลวเนื่องจาก วาสโก ดา กาม่า ต้องการเก็บ คูตินโญ่ ไว้ใช้งานและค่าตัวที่ได้รับสำหรับดีลครั้งนี้ก็ไม่สมน้ำสมเนื้อแต่ประการใด อย่างไรก็ตามความพยายามของ "เนรัซซูร์รี่" กลับมาสัมฤทธิ์ผลในปี 2010 ยุค "เอล ราฟา" ราฟาเอล เบนิเตซ ที่แท็คทีมกับ มัสซิโม โมรัตติ ประธานสโมสร เดินเกมทาบทามอย่างจริงจัง พร้อมการันตีกับ คูตินโญ่ ว่าจะมีอนาคตภายใต้สโมสรแห่งนี้อย่างแน่นอน ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจย้ายสำมะโนครัวจากแดนกาแฟมาอยู่ อิตาลี ในที่สุด
 
          เกมประเดิมสีเสื้อใหม่ อินเตอร์ มิลาน คือแมตช์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ช่วงปลายเดือน สิงหาคม 2010 ด้วยการออกสตาร์ทเป็นตัวสำรองในการเจอกับ "ทีมตราหมี" แอตเลติโก มาดริด และมีส่วนร่วมกับศึกแชมป์ชนแชมป์นี้ใน 10 นาทีสุดท้าย ต่อมาเส้นทางในถิ่น ซาน ชิโร่ ดูเหมือนจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เนื่องจากตำแหน่งหรือวิธีการเล่นไปทับกับนักเตะระดับบิ๊กเนมอย่าง เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ จอมทัพชาวฮอลแลนด์ ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังปี 2012 จึงต้องย้ายมาอยู่ สเปน กับ เอสปันญ่อล ด้วยสัญญายืมตัว 
 

 
          ช่วงเวลาหกเดือนที่อยู่กับ เอสปันญ่อล ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้แข้งบราซิเลี่ยนรายนี้กลับมามีชื่อติดตลาดอีกครั้ง หลังจากทำผลงานได้อย่างโดดเด่นให้กับทีมจากแคว้นคาตาลัน โดยเฉพาะลูกฟรีคิกและจังหวะสอดขึ้นไปทำประตูที่ทำได้อย่างเด็ดขาด จนสามารถซื้อใจแฟนบอลชาวคาตาโลเนี่ยนได้ด้วยระยะเวลาเพียงสั้นๆ อย่างไรก็ตาม คูตินโญ่ เหมือนกลับไปอยู่ในขุมนรกอีกครั้ง เมื่อหมดสัญญายืมตัวต้องกลับไปใส่สนับก้นในถิ่น ซาน ซิโร่ ด้วยความเบื่อหน่ายและเริ่มหมดคุณค่าในตัวเอง อินเตอร์ จึงสนนราคา 10 ล้านยูโร สำหรับการปล่อยตัว คูตินโญ่ ให้กับที่สนใจ
 
          เมื่อข่าวนี้สะพัดไปที่ตลาดซื้อขายนักเตะ ลิเวอร์พูล และ เซาท์แฮมป์ตัน จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่างให้ความสนใจที่จะดึงสตาร์บราซิลไปร่วมแก๊งค์ โดย "หงส์แดง" ต้องการเสริมทัพในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกอยู่พอดี และ ทีมนักบุญ ก็พึ่งได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่เป็นนายเก่า เอสปันญ่อล ข้ามแดนมาคุมทีม เซาธ์แฮมป์ตัน จึงจัดการเดินเกมเร่งปิดดีลเป็นการด่วน ทว่า คูตินโญ่ เลือก ลิเวอร์พูล เพราะมี ลูคัส เลว่า คนบ้านเกิดเดียวกันน่าจะช่วยในเรื่องการปรับตัวในอังกฤษได้ดีกว่า จึงตัดสินใจย้ายมา ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร ในที่สุด
 

 
         ชีวิตในรั้ว แอนฟิลด์ ทาง คูตินโญ่ ถือว่ามีความมั่นคงในอาชีพค้าแข้งมากที่สุดนับจากสี่สโมสรที่เคยเล่น เพราะนอกจากจะตีตราจองตำแหน่งตัวจริงบนแผงมิดฟิลด์ เร้ดแมชชีน (ถ้าไม่เจ็บไม่แบน) คูตินโญ่ จะได้ยืนอยู่หลังกองหน้าในฐานะ เบอร์ 10 ของสโมสร ซึ่งนักเตะวัย 21 ปี รายนี้ถือว่าปรับตัวกับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เซ้นส์และสปีดบอลที่สามารถพลิกแพลงในพื้นที่แคบๆ ตอบโจทย์ความต้องการของสาวก เดอะ ค็อป ได้อย่างตรงประเด็น หลังจาก ลิเวอร์พูล ร้างนักเตะสไตล์นี้มานาน ตั้งแต่หมดยุครุ่งเรืองในช่วงปี 80" 
 
          แมตช์เปิดตัวของ คูตินโญ่ ในถิ่น แอนฟิลด์ คือเกมกับ เวสต์บรอมวิช ที่ลงมาสัมผัสเกมในช่วง 10 นาทีสุดท้าย แทน สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ก่อนที่ต้นสังกัดจะแพ้ เวสต์บรอมฯ ไปด้วยสกอร์ 0-2 ถึงกระนั้น ลิเวอร์พูล มาแก้ตัวได้ในสัปดาห์ถัดมาที่เปิดรังถล่ม สวอนซี ไปถึง 5-0 ซึ่งเปรียบเสมือนแมตช์เปิดตัวอย่างเป็นทางการของ คูตินโญ่ ที่สามารถทำประตูได้ 1 ลูก หลังจาก "หม่อมเหยิน" หลุยส์ ซัวเรซ จ่ายบอลถวายพานทองมาให้ดาวยิงเชื้อชาติ บราซิล ซัดเข้าไปไม่เหลือซากในนาทีที่ 46 ซึ่งเป็นช็อตที่สร้างความประทับใจให้กับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ เร้ดแมชชีน เข้าอย่างจัง
 
         สถานะในทีมของ คูตินโญ่ ดีขึ้นทันตาเห็นเพราะหลังจากนั้นเจ้าตัวได้ออกจากสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริง ในเกมกับ วีแกน ซึ่งแข้งวัย 21 ปี ไม่ทำให้ความไว้ใจของ ร็อดเจอร์ส ต้องเสียเปล่า เมื่อสร้างจังหวะเกมรุกได้อย่างวูบวาบ และเป็นแอสซิสต์ให้กับ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง และ หลุยส์ ซัวเรซ ยิงประตู ส่ง ลิเวอร์พูล นำ 2-0 ตั้งแต่ยังไม่ครบ 20 นาทีแรก ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกถอดไปพักในนาทีที่ 71 หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ยังคงรักษาความคงเส้นคงวาในระดับฝีเท้าที่น่าพอใจจนได้รับการโหวตจากสาวก เดอะ ค็อป ให้ คูตินโญ่ เป็น ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือน มีนาคม, เมษายน 2013 พร้อมกับคั่วดาวรุ่งฟอร์มแรงที่สุดในสโมสรไปครองอีกด้วย 
 
เกียรติประวัติส่วนตัว
 
เยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปีของ ลิเวอร์พูล : ฤดูกาล 2012-13
 
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของ ลิเวอร์พูล : มีนาคม 2013, เมษายน 2013 
 

ADS