ประวัติ เกล็น จอห์นสัน

| 01/01/1970 07:00 น. | 344 Views

 

เกล็น จอห์นสัน แบ็คขวาชาวอังกฤษของ ลิเวอร์พูล ถึงคราวเนื้อหอม หลังโหม่งเผาขนทำประตูชัยให้ทีม เชือดหวิว สโต๊ค ซิตี้ 1-0 ที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่าน จนแฟนบอลพากันโพสทวิตเตอร์ด้วยความทึ่ง ทั้งข้อความและภาพแซวล้อเลียน ด้านเจ้าตัวเผยถ้าโหม่งช้ากว่านั้น น่าจะชนคานมากกว่าที่จะเป็นประตู

     จากจังหวะที่ ริคกี้ แลมเบิร์ต โหม่งลูกเตะมุมไปชนคานก่อน แล้วเป็นจอห์นสัน วิ่งมาโขกซ้ำเข้าไป กลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับสาวกเดอะค็อป ทันที อาทิ เช่น

     "เกล็น จอห์นสัน ยิงประตูได้มากเท่ากับ ฟัลเกา แล้วในซีซั่นนี้" เจมส์

     "เฮ้ย วันนี้เชื่อไหมว่าทั้ง เกล็น จอห์นสัน และ คริส สมอลลิ่ง ทำประตูได้ทั้งคู่เลยว่ะ" แพดดี้ พาวเวอร์

     ส่วน จอห์นสัน หลังประตูชัยนาที 85 ก็ให้สัมภาษณ์ว่า "เราต่อสู้อย่างหนักมาเสมอ เพื่อให้ได้สิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นเราหวังว่าจะสร้างจุดเปลี่ยนไปในทางที่ดี มันยาดเสมอเมื่อระยะหลังผลการแข่งขันไม่ค่อยดี พวกเราต่างต้องการชนะ และชนะมันสัปดาห์เลยด้วย"

     "เกมนี้ยากทั้งสองฝั่งตั้งแต่ต้นเกม แต่ผมคิดว่าเราสมควรชนะ ผมคิดว่าเราคงจะผิดหวังอย่างแน่นอนถ้าไม่ชนะนัดนี้"

     "มันคือลูกโหม่งที่ยอดเยี่ยมของ ริคกี้ การต้องเทกตัวกระโดดสูงขนาดนั้น คุณต้องใช้พลังอย่างมาก และเขาก็ได้แสดงพลังออกมา ผมอ่านทางบอลไว้แล้วว่าชนคานแน่ๆ และมันก็เป็นจริงๆ ผมกะไว้แล้วว่า เบโกวิช ต้องเซฟไม่ได้ในจังหวะแรก และบอลก็เป็นใจมาหาผม"

     "มันสุดยอดจริงๆ เราไม่เสียประตูด้วยในเกมนี้ มันคือวันที่เพอร์เฟกต์อย่างแท้จริง ด้วยฟอร์มที่ดีในสัปดาห์นี้ เราหวังว่าจะผลักดันให้ดีกว่าเดิม"

ชื่อ : เกล็น จอห์นสัน
 
เชื้อชาติ : อังกฤษ
 
วันเกิด : 23 สิงหาคม 1984
 
อายุ : 29 ปี
 
สถานที่เกิด : กรีนวิช ลอนดอน,อังกฤษ
 
ส่วนสูง : 182 ซม.
 
ต้นสังกัด : ลิเวอร์พูล
 
ตำแหน่ง : ฟูลแบ็ค
 
       เกล็น แม็กเลียด คูเปอร์ จอห์นสัน ลืมตาดูโลกขึ้นเมื่อ 23 สิงหาคม ค.ศ. 1984 ที่เมืองกรีนวิช กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันสวมเสื้อหมายเลข 2 ให้กับ ลิเวอร์พูล ตำแหน่งถนัดคือแบ็คขวา หรือบางครั้งอาจจะขยับมาเล่นแบ็คซ้ายก็ได้
 
ประวัติการค้าแข้ง
 
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
 
 
       จอห์นสัน เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดในทีมชุดเยาวชนของ เวสต์แฮม ด้วยวัย 15 กะรัต(ในช่วงปี 2000) ก่อนจะได้ลงน้ำหมึกเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพของทัพ "ขุนค้อน" เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2001 ซึ่งนั่นคือของขวัญชิ้นโบว์แดงสำหรับเด็กดาวรุ่งวัยเพียงแค่ 15 ปี และในตอนนั้นเจ้าตัวกำลังจะฉลองวันเกิดครบรอบ 16 ปีในอีกไม่กี่วันอีกด้วย
 
       หมายเลข 23 คือเบอร์เสื้อของ จอห์นสัน ที่เล่นให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และเป็นซีซั่น 2001-02 เจ้าตัวถูกเรียกตัวติดทัพชุดใหญ่ของ "ขุนค้อน" แต่ต้องเริ่มจากการนั่งเป็นตัวสำรองที่ซุ้มม้านั่งไปก่อน
 
       สุดท้าย จอห์นสัน ได้ย้ายไปเล่นให้กับ มิลล์วอลล์ ทีมจากเวที เดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ ด้วยสัญญายืมตัวเป็นเวลา 1 เดือน เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ปี 2002 ทว่าแมตช์เปิดตัวไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ เพราะดันบุกไปพ่าย นอริช นัดเยือนเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ส่วนนัดสุดท้ายในสีเสื้อ มิลล์วอลล์ คือวันที่ 7 พฤศจิกายน ก็จบไม่สวยเช่นกัน เพราะบุกไปเสียท่าให้กับ คริสตัล พาเลซ และนัดนี้คือเกมสุดท้ายของเขาที่ได้เล่นให้กับ "สิงห์ลอนดอน" 
 
       หลังจากหมดสัญญากับ มิลล์วอลล์ จอห์นสัน ก็กลับมารับใช้ เวสต์แฮม เหมือนเช่นเคย และแมตช์เปิดตัวอย่างเป็นทางการของเขาก็มาถึงในวันที่ 22 มกราคม ปี 2003 เป็นเกมที่พบกับ ชาร์ลตัน คู่แข่งร่วมกรุงลอนดอน ก่อนทัพ "ขุนค้อน" จะยกพลบุกไปพ่ายในเกมนั้น และเป็นอีกครั้งที่ จอห์นสัน เปิดตัวด้วยความพ่ายแพ้
 
เชลซี
 

 
       เวลาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้นหลังจาก เวสต์แฮม ทำผลงานไม่ดีถึงขั้นร่วงตกชั้น และเป็นสโมสรร่วมกรุงลอนดอนอย่าง เชลซี ที่สบโอกาสคว้าตัวแบ็คขวารายนี้ไปร่วมทัพด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 323 ล้านบาท) เมื่อวันที่  15 กรกฎาคม ปี 2003 และนี่คือการซื้อขายนักเตะเป็นรายแรกหลังจากการเข้ามาเทคโอเวอร์ของ "เสี่่ยหมี" โรมัน อับราโมวิช อีกด้วย
 
       แมตช์เปิดตัวอย่างเป็นทางการของ จอห์นสัน เป็นเกมกับ ซิลินา ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2003-04 ซึ่งครั้งนั้น "สิงห์บลู" เอาชนะไปได้ และเป็นชัยชนะเกมแรกสำหรับแมตช์เปิดตัวของ จอห์นสัน อีกด้วย แต่สำหรับศึก พรีเมียร์ลีก คือเกมที่ต้องออกไปยืนถิ่น แอนฟิลด์ รังเหย้าของ ลิเวอร์พูล ในวันที่ 17 สิงหาคม
 
       สำหรับสองฤดูกาลแรกของ จอห์นสัน ที่เล่นให้กับ เชลซี (2003-04 และ2004-05) เขาได้ลงสนามไปทั้งหมด 63 นัด
 
       จนกระทั่งปี 2005-06 คือจุดเปลี่ยนของ เกล็น จอห์นสัน เมื่อการมาของ เปาโล เฟอร์ไรร่า ดูจะถูกอกถูกใจผู้จัดการทีมอย่าง โฆเซ่ มูรินโญ่ ที่รับหน้าที่คุมทัพในช่วงนั้นมากกว่า เพราะ จอห์นสัน ได้ลงสนามในซีซั่นดังกล่าวไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นเอง ทำให้ในปี 2006-07 เจ้าตัวต้องย้ายทีมออกไปในสัญญายืมตัวอีกครั้ง ซึ่งสโมสรที่ได้ตัวแบ็คจอมบุกไปก็คือ ปอร์ทมัธ ซึ่งการย้ายทัพแบบสัญญาเช่าในครั้งนี้ของ จอห์นสัน เล่นได้เทพถึงขั้น "ปอมปีย์" ต้องเซ็นสัญญากระชากตัวไปจากอ้อมกอดของทัพ "สิงห์บลู" เมื่อปี 2007 ในที่สุด
 
ปอร์ทมัธ
 

 
       เกล็น จอห์นสัน ย้ายไปร่วมทัพ "ปอมปีย์" ในวันสุดท้ายของการซื้อขายนักเตะ 31 สิงหาคม 2007 ด้วยสัญญา 4 ปี ซึ่งดีลนี้คาดว่ามูลค่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านปอนด์ (ราว 215 ล้านบาท) 
 
       หลังจากเซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย "จีเจ" ถูกส่งลงสนามในฐานะแบ็คขวาตัวหลักเป็นแมตช์แรกเลยทันที ซึ่งนั่นคือเกมที่พบกับ อาร์เซน่อล ก่อนจะพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-3 หลังจากนั้นถัดมาอีก 2 เดือน(20 ตุลาคม) จอห์นสัน เบิกสกอร์แรกในรอบ 3 ปีให้กับตัวเองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเกมที่ ปอร์ทมัธ ไล่ต้อน วีแกน ไปได้ 2-0 
 
       และแล้วถ้วยแรกสำหรับ เกล็น จอห์นสัน ก็มาถึงสำหรับถ้วย เอฟเอ คัพ ฟุตบอลรายการเก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่ง ปอร์ทมัธ คว้าโทรฟี่นี้ไปครองได้สำเร็จเมื่อปี 2008
 
       จนกระทั่งปี 2008-09 เกล็น จอห์นสัน เล่นได้อย่างโดดเด่นเป็นสง่าถึงขึ้นมีชื่อติด "ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี" ของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ ทำให้ช่วงนั้นหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปตามติดหวังพิชิตรายเซ็น จอห์นสัน ไปร่วมทัพหลายสโมสรทีเดียว
 
ลิเวอร์พูล
 

 
       มาถึงปี 2009 ปอร์ทธมัธ ไม่อาจปฎิเสธเม็ดเงินก้อนโตจาก ลิเวอร์พูล ในการซื้อตัว จอห์นสัน ได้ลงคอ ทำให้วันที่ 16 มิถุนายน "หงส์แดง" จัดการซิวแบ็คขวารายใหม่เข้ามาเสริมทัพได้สำเร็จ ด้วยค่าตัว 17.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 952 ล้านบาท) ทั้ง ๆ ที่มีกระดูกชิ้นโตอย่าง เชลซี อดีตต้นสังกัดเก่าร่วมวงล่ารายเซ็นด้วยเช่นกัน แต่เจ้าตัวกลับเลือกที่จะมาอยู่กับ ยอดทีมแห่งลุมแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ แทน
 
       แมตช์แรกที่ "จีเจ" ลงสนามในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล คือเกมช่วง ปรี-ซีซั่น นัดที่พบกับ เซนต์ กัลเลน ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอแบบ "โนสกอร์" 0-0 แต่สำหรับเกมแรกที่เจ้าตัวได้ลงเล่นในรัง แอนฟิลด์ ต่อหน้าสาวก "เดอะ ค็อป" ก็คือคิวเตะนัดกระชับมิตรกับทีม "ตราหมี" แอต.มาดริด ทีมดังแห่งแดนกระทิงดุ
 
       ทั้งนี้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน (23 มกราคม 2557) เกล็น จอห์นสัน ลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล รวมทุกรายการไปแล้วทั้งหมด 160 นัด ซัดได้ 8 ประตู ถึงตอนนี้เจ้าตัวก็ยังคงเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำหรับแผงหลังแบ็คโฟร์ของ "หงส์แดง" อยู่ในปัจจุบัน
 
ความสำเร็จ
 
ระดับสโมสร
 
เชลซี
- แชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2004-05
- แชมป์ ลีก คัพ ฤดูกาล 2004-05
 
ปอร์ทมัธ
- แชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2007-08
 
ลิเวอร์พูล
- แชมป์ ลีก คัพ ฤดูกาล 2011-12
- รองแชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2011-12
 
ส่วนตัว
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี จากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ 2009
- ลูกยิงสุดสวยประจำฤดูกาลของ ปอร์ทมัธ ซีซั่น 2008-09
- สุดสวยประจำฤดูกาล "แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์" ซีซั่น 2008-09
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำซีซั้นของ ปอร์ทมัธ ซีซั้น 2008-09
 
[BM]

ADS