"สเลนเดอร์แมน" เรื่องเล่าในอินเทอร์เน็ตที่นำไปสู่เหตุสยองขวัญจริง

sittiwut | 23/11/2025 16:30 น. | 38 Views
-สเลนเดอร์แมน--เรื่องเล่าในอินเทอร์เน็ตที่นำไปสู่เหตุสยองขวัญจริง

 

          "สเลนเดอร์แมน" Slender Man
(หรือที่เรียกว่า Slenderman, Slender, Slendy) เป็นตัวละครเหนือธรรมชาติซึ่งถูกสร้างขึ้นแบบแต่งขึ้นมาในอินเทอร์เน็ต โดยเริ่มจากมีม “creepypasta” ที่ผู้ใช้งานฟอรั่ม Something Awful ชื่อ Eric Knudsen (หรือ “Victor Surge”) สร้างขึ้นในปี 2009 เขามักถูกบรรยายว่าเป็นร่างมนุษย์ผอมสูงผิดธรรมชาติ ศีรษะและใบหน้าเรียบไร้ลักษณะ สวมสูทสีดำ

            เรื่องราวเกี่ยวกับ Slender Man มักพูดถึงการที่เขา มักจะตามสะกดรอย, ลักพาตัว หรือทำให้เหยื่อหวาดผวา โดยเฉพาะเด็กๆ เขากลายเป็นไอคอนของวัฒนธรรมป๊อป แม้จะไม่มีโครงเรื่องหลักตายตัว แต่ไปปรากฏในงานต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก ทั้งนิยาย งานศิลปะ และซีรีส์วิดีโอ เช่น Marble Hornets (2009–2014) ที่เรียกเขาว่า “The Operator”

            ตัวละครนี้ยังปรากฏในวิดีโอเกม Slender: The Eight Pages (2012) และภาคต่อ Slender: The Arrival (2013) รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้ตัว Enderman ใน Minecraft อีกด้วย นอกจากนี้เขายังมีบทในภาพยนตร์เรื่อง Marble Hornets เวอร์ชั่นปี 2015 (แสดงโดย ดัก โจนส์) และภาพยนตร์ Slender Man ปี 2018 (แสดงโดย ฮาเวียร์ โบเทต)

            เริ่มตั้งแต่ปี 2014 เกิดกระแสความตื่นตระหนกเกี่ยวกับ Slender Man หลังจากมีข่าวว่าเด็กบางคนที่อ่านเรื่องราวของเขาไปก่อเหตุรุนแรง โดยเฉพาะเหตุแทงเด็กหญิงอายุ 12 ปีในเมืองวอคีชา รัฐวิสคอนซินที่เกือบถึงแก่ชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้สารคดี Beware the Slenderman ในปี2016

คำอธิบาย :

            เพราะตำนานของ Slender Man เป็นสิ่งที่แฟนๆ แต่งต่อกันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเนื้อเรื่องหลักหรือฉบับทางการใดๆ รูปลักษณ์ แรงจูงใจ พฤติกรรม และความสามารถของเขาจึงเปลี่ยนไปตามแต่ผู้เล่าเรื่องนั้นๆ

            โดยทั่วไป Slender Man มักถูกอธิบายว่า สูง ผอม แขนยาวเหมือนหนวดหรือมีแขนเสริมคล้ายหนวดปลาหมึก ที่ยื่นออกมาจากหลัง เขาสามารถยืดแขนเหล่านี้เพื่อข่มขู่หรือจับเหยื่อ ใบหน้าเป็นสีขาวเรียบ ไม่มีดวงตาหรืออวัยวะใดๆ บางเรื่องบอกว่าหน้าของเขาเปลี่ยนรูปร่างได้ตามผู้ที่มองเห็น เขามักสวมสูทสีดำเนคไท และมักปรากฏตัวในป่า หรือสถานที่ร้าง รวมถึงมีความสามารถในการหายตัวหรือเคลื่อนที่แบบวาร์ป

            การเข้าใกล้ Slender Man บางครั้งถูกเล่าว่าอาจทำให้เกิด “โรค Slender” ซึ่งทำให้เกิดอาการหวาดระแวงฝันร้าย ภาพหลอน และเลือดกำเดาไหล

            เรื่องราวในยุคแรกๆ มักเล่าว่าเขาจะไล่ล่าเด็กหรือวัยรุ่น บางเรื่องบอกว่าวัยรุ่นบางคนถูกทำให้เสียสติหรือถูกโน้มน้าวให้ทำงานแทนเขา มีแนวคิดที่ว่าแค่พยายามสืบหาหรือสนใจในเรื่องของ Slender Man ก็มากพอที่จะดึงดูดความสนใจของเขาแล้ว

            ซีรีส์ Marble Hornets ยังเป็นที่มาของแนวคิด “พร็อกซี (proxy)” ซึ่งหมายถึงมนุษย์ที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ Slender Man เดิมทีพวกเขาถูกเล่าว่าเป็นเพียงคนคลั่งรุนแรง แต่ภายหลังก็ถูกมองว่าเป็นเหมือนหุ่นเชิดของเขา ซีรีส์นี้ยังเสนอไอเดียว่า Slender Man สามารถรบกวนสัญญาณภาพและเสียง และทำให้สัญลักษณ์ “⦻” กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำของตำนานนี้

            โดยทั่วไป เรื่องราวเกี่ยวกับ Slender Man มักจะไม่เน้นฉากโหดหรือเลือดสาดมากนัก หลายเรื่องเลือกที่จะไม่บอกชะตากรรมของเหยื่ออย่างชัดเจน ทำให้ตัวละครยิ่งดูลึกลับ น่ากลัว และตีความได้หลากหลาย ดังที่นักวิจัย Shira Chess กล่าวไว้ว่า “เรื่องเล่าต่างๆ แทบไม่เคยบอกแน่ชัดว่า Slender Man เป็นปีศาจแบบไหน หรือมีเจตนาอะไรทุกอย่างตั้งใจให้คลุมเครือเพื่อเพิ่มความหลอน”

 

 

จุดกำเนิดของ Slender Man (ปี 2009) : 

 

            Slender Man ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2009 ในกระทู้หนึ่งของฟอรั่ม Something Awful ซึ่งตอนนั้นกำลังจัดประกวด Photoshop ให้ผู้ใช้สร้าง “ภาพสิ่งเหนือธรรมชาติ” ขึ้นมา

 

            ผู้ใช้ชื่อ Eric Knudsen (ใช้นามแฝงว่า “Victor Surge”) ส่งผลงานเป็นภาพขาวดำของกลุ่มเด็กสองภาพ โดยเขาเพิ่มร่างสูงผอม ใส่สูทสีดำ ดูเหมือนเงาผีเข้าไปในภาพนั้น นอกจากรูป Surge ยังใส่ข้อความที่ทำเหมือนเป็นคำบอกเล่าจากพยาน เหมือนเป็นเรื่องลักพาตัวเด็ก ๆ และตั้งชื่อให้ตัวละครว่า “The Slender Man”

 

 

ใต้รูปแรกมีข้อความว่า: “พวกเราไม่อยากไป พวกเราไม่อยากฆ่าใคร แต่ความเงียบและแขนที่กางออกของมัน ทั้งทำให้เราหวาดกลัวและรู้สึกเหมือนถูกปลอบในเวลาเดียวกัน…”
—1983, ช่างภาพไม่ทราบชื่อ เชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว

 

ใต้รูปที่สองระบุว่า:

“หนึ่งในสองรูปที่รอดจากเหตุไฟไหม้ห้องสมุดเมืองสเตอร์ลิง ถ่ายในวันที่เด็ก 14 คนหายตัวไป และมีสิ่งที่เรียกว่า ‘The Slender Man’ ปรากฏอยู่ ความผิดรูปของภาพถูกระบุว่าเป็นข้อผิดพลาดของฟิล์ม เหตุไฟไหม้เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ตัวภาพต้นฉบับถูกยึดเป็นหลักฐาน”
—1986, ช่างภาพ Mary Thomas ผู้หายตัวไปตั้งแต่ 13 มิถุนายน 1986

การใส่คำบรรยายเหล่านี้ทำให้ภาพดูเหมือนเป็นเหตุการณ์จริง และกลายเป็นงานแฟนฟิกชั่นในทันที ผู้ใช้คนอื่นๆ ในฟอรั่มก็นำไอเดียนี้ไปขยายต่อ เติมภาพและเรื่องราวใหม่ๆ เข้าไปเรื่อยๆ

 

แรงบันดาลใจของผู้สร้าง

Knudsen ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องเหนือธรรมชาติและสยองขวัญหลายอย่าง เช่น

  • เรื่อง “That Insidious Beast” ของ Zack Parsons

  • นิยาย The Mist ของ Stephen King

  • รายงานเรื่อง “shadow people”

  • ตำนาน Mothman

  • ตัวประหลาดในเมือง Mattoon

  • ตัวละคร Tall Man จากภาพยนตร์ Phantasm (1979)

  • งานเขียนของ H. P. Lovecraft

  • งานแนวเหนือจริงของ William S. Burroughs

  • รวมถึงวิดีโอเกมสยองขวัญอย่าง Silent Hill และ Resident Evil


Knudsen บอกว่าต้องการสร้างสิ่งที่ “มีแรงจูงใจที่มนุษย์เข้าใจแทบไม่ได้ และทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจและหวาดผวาได้ทั่วไป”

ยังมีตัวละครก่อนหน้านั้นที่คล้ายกับ Slender Man เช่น : 

  • The Gentlemen จากเรื่อง Buffy the Vampire Slayer (ปีศาจหน้าเรียบ ใส่สูท)

  • พวก “men in black” ที่ถูกเล่าว่ามีพฤติกรรมประหลาด เดินผิดธรรมชาติ

  • ตัวละคร The Question ของ DC ที่ไม่มีใบหน้า และชื่อจริงว่า “Victor Sage” คล้ายกับนามแฝงของ Knudsen


เชื่อมโยงกับตำนานพื้นบ้านโบราณ

            ศาสตราจารย์ Shira Chess จากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย เขียนในหนังสือเกี่ยวกับตำนานอินเทอร์เน็ตว่า Slender Man มีความคล้ายคลึงกับ “เทพนิยายภูตพราย” ของยุคโบราณหลายอย่าง เช่น

  • เป็นสิ่งมีชีวิตจากอีกโลกหนึ่ง

  • มีรูปลักษณ์และแรงจูงใจที่เข้าใจยาก

  • รูปร่างเปลี่ยนไปตามสิ่งที่ผู้พบเห็นคาดหวังหรือกลัว

  • และเหมือนภูติพรายในตำนาน เขามักอาศัยในป่าหรือที่รกร้าง และลักพาตัวเด็ก

 

เหตุแทงในเมืองวอคีชา (2014)

            เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2014 เด็กหญิงอายุ 12 ปีสองคนในเมืองวอคีชา รัฐวิสคอนซิน ได้ร่วมกันกดเพื่อนร่วมชั้นวัยเดียวกันลงกับพื้นและแทงเธอ 19 ครั้ง เมื่อถูกตำรวจสอบปากคำ พวกเขาอ้างว่าต้องการก่อเหตุฆาตกรรมเพื่อเป็นก้าวแรกในการเป็นตัวแทนของสเลนเดอร์แมน หลังจากที่ได้อ่านเรื่องนี้ทางออนไลน์ พวกเขายังระบุด้วยว่ากลัวว่าสเลนเดอร์แมนจะฆ่าครอบครัวของพวกเขาหากพวกเขาไม่ก่อเหตุฆาตกรรมนี้

            หลังเหตุการณ์ เด็กหญิงผู้บาดเจ็บพยายามคลานออกจากป่าไปยังถนน จนมีนักปั่นจักรยานผ่านมาเห็นและช่วยแจ้งตำรวจ ทำให้เธอรอดชีวิต

            ผู้ก่อเหตุทั้งสองถูกวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติทางจิต แต่ก็ยังถูกตั้งข้อหาในฐานะผู้ใหญ่ และอาจต้องโทษสูงสุดถึง 65 ปี หนึ่งในเด็กผู้ก่อเหตุอ้างว่า Slender Man เฝ้าดูเธออยู่ สามารถอ่านความคิด และวาร์ปได้

            ผู้เชี่ยวชาญที่ให้การในศาลบอกว่า เด็กคนนี้ยังบอกว่าเธอเคยพูดคุยกับลอร์ดโวลเดอมอร์ และหนึ่งในเต่านินจา (Teenage Mutant Ninja Turtles) อีกด้วย

            วันที่ 1 สิงหาคม 2014 ศาลตัดสินว่าเธอ “ไม่มีความสามารถพอจะต่อสู้คดี” ทำให้การดำเนินคดีถูกระงับ แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2014 ผู้พิพากษาตัดสินว่าทั้งสองมีความสามารถเพียงพอที่จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีได้

            เดือนสิงหาคม 2015 ผู้พิพากษามีคำสั่งว่าเด็กทั้งสองจะถูกพิจารณาคดีในฐานะผู้ใหญ่ และทั้งคู่ถูกแยกพิจารณาคดีออกจากกัน

 

การตัดสินโทษ:

            วันที่ 21 สิงหาคม 2017 หนึ่งในเด็กหญิงซึ่งขณะนั้นอายุ 15 ปี ยอมรับผิดในข้อหามีส่วนร่วมในการพยายามฆ่าระดับที่สอง แต่เธออ้างว่าไม่สามารถรับผิดชอบการกระทำของตนได้เพราะอยู่ในสภาวะป่วยทางจิต คณะลูกขุนเห็นว่าเธอมีความผิดปกติทางจิตในช่วงเกิดเหตุ

            วันที่ 21 ธันวาคม ผู้พิพากษาไมเคิล โบห์เรน แห่งศาลมณฑลวอคีชา ตัดสินให้ Anissa Weier ซึ่งตอนนั้นอายุ 16 ปี ถูกส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลจิตเวชเป็นเวลา 25 ปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องอยู่ในสถานพยาบาลจนถึงอายุประมาณ 37 ปี 

ปฏิกิริยาของผู้สร้าง Slender Man :

            วันที่ 4 มิถุนายน 2014 Eric Knudsen ผู้สร้างตัวละคร Slender Man แถลงว่า เขา “เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในวิสคอนซิน และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของทุกคนที่ได้รับผลกระทบ” พร้อมระบุว่าเขาจะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

พัฒนาการต่อเนื่องของคดี: 

            วันที่ 25 กันยายน 2017 มีรายงานว่า Morgan Geyser ผู้ก่อเหตุอีกคน (ตอนนั้นอายุ 15 ปี) ยอมรับผิดในข้อหาพยายามฆ่าระดับที่หนึ่ง เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกจำคุก

            ต่อมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 สื่อ AP รายงานว่า Geyser ถูกตัดสินให้เข้ารักษาในโรงพยาบาลจิตเวชของรัฐวิสคอนซินเป็นเวลา 40 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุดตามกฎหมาย

ความตื่นตระหนกทางสังคมและเหตุการณ์อื่นๆ :

            เหตุแทงในเมืองวอคีชาได้จุดให้เกิดกระแสความ ตื่นตระหนกทั่วสหรัฐฯ เกี่ยวกับ Slender Man ผู้ปกครองทั่วประเทศเริ่มกังวลว่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Slender Man อาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของเด็ก ๆ

            รัสเซล แจ็ก (Russell Jack) หัวหน้าตำรวจวอคีชาเตือนว่า เหตุการณ์นี้ “ควรเป็นสัญญาณเตือนสำหรับผู้ปกครองทุกคน” ว่า “อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยสิ่งมืดดำอันตราย” คำเตือนนี้ถูกสื่อหลายแห่งนำไปเผยแพร่จนเป็นข่าวใหญ่

 

เหตุการณ์คล้ายกันในที่อื่น :

            หลังเหตุวอคีชาไม่นาน หญิงคนหนึ่งในเมืองซินซินนาติ รัฐโอไฮโอ บอกผู้สื่อข่าว WLWT ในเดือนมิถุนายน 2014 ว่า ลูกสาววัย 13 ปีของเธอพยายามใช้มีดทำร้ายเธอ และเด็กคนนี้เคยเขียนเรื่องสยองขวัญหลายเรื่องซึ่งมี Slender Man เกี่ยวข้อง แม่รายนี้เชื่อว่าตัวละครดังกล่าวเป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุ

            เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2014 เด็กหญิงวัย 14 ปีในเมืองพอร์ตริชี รัฐฟลอริดา ถูกกล่าวหาว่าจุดไฟเผาบ้านทั้งที่แม่และน้องชายวัย 9 ขวบยังอยู่ในบ้าน ตำรวจพบว่าเธออ่านเรื่องของ Slender Man บนอินเทอร์เน็ต รวมถึงมังงะเรื่อง Soul Eater ของอัตสึชิ โอคุโบะ เจ้าหน้าที่ Eddie Daniels จากสำนักงานนายอำเภอของ Pasco County ระบุว่า เด็กหญิง “เข้าเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ Slender Man จำนวนมาก... บอกได้ว่ามีความเชื่อมโยงกัน”

Slender Man และกระแสพยายามฆ่าตัวตายใน Pine Ridge :

            ในช่วงต้นปี 2015 เกิดเหตุพยายามฆ่าตัวตายจำนวนมากในกลุ่มเยาวชนอายุ 12–24 ปีในเขตสงวนอินเดียนแดง Pine Ridge ซึ่งมีการระบุว่า Slender Man อาจมีอิทธิพลต่อเหตุการณ์นี้ ประธานเผ่า Oglala Sioux กล่าวว่าชนพื้นเมืองหลายกลุ่มมีความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับ “วิญญาณแห่งการฆ่าตัวตาย” ที่มีลักษณะคล้าย Slender Man อยู่ก่อนแล้ว

            ชาวซู (Sioux) บางกลุ่มยังบรรยายถึง “Big Man” ว่าเป็นเสมือนผู้ส่งสารหรือสัญญาณเตือนว่า สังคมกำลังมุ่งไปในทิศทางที่อันตราย

สารคดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ : 

            มีการสร้างสารคดีเกี่ยวกับเหตุวอคีชาชื่อ Beware the Slenderman โดยผู้กำกับไอรีน เทย์เลอร์ โบรดสกี้ (Irene Taylor Brodsky) เผยแพร่โดย HBO Films ในเดือนมีนาคม 2016 และออกอากาศทาง HBO ในวันที่ 23 มกราคม 2017


หลังเหตุการณ์แทงที่ Waukesha (2015-2018) 

            เหตุการณ์แทงที่ วอคีชา และความสนใจเชิงลบของสื่อได้เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของตำนาน Slender Man และชุมชนออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเวลาเดียวกัน ตัวละคร Slender Man ก็สูญเสียความนิยมดั้งเดิมไปมาก บล็อกส่วนใหญ่ที่เคยอุทิศให้กับ Slender Man ต่างก็ปิดตัวลงโดยสิ้นเชิงหรือได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ การปรากฏตัวของ Slender Man ในวัฒนธรรมสมัยนิยมกระแสหลักยังส่งผลให้ความน่ากลัวของเขาลดลงในสายตาของผู้คนจำนวนมากอีกด้วย

การเปลี่ยนภาพลักษณ์ของ Slender Man ในช่วงปลายทศวรรษ 2010

            ในช่วงปลายทศวรรษ 2010 มีการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของการนำเสนอ Slender Man ในเชิงบวก มากขึ้น หลายผลงานในยุคนั้นมักวาดภาพเขาเป็น แอนตี้ฮีโร่ ที่คอยปกป้องเด็กที่ถูกกลั่นแกล้ง แม้ว่าบางครั้งเขาจะใช้วิธีรุนแรงก็ตาม

            ในเรื่องเล่าบางเวอร์ชั่นจากช่วงเดียวกันนี้ Slender Man ถูกทำให้มี ลูกสาวชื่อ Skinny Sally ซึ่งมักถูกบรรยายว่าเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยฟกช้ำ หลายภาพยังแสดงให้เห็นว่า Slender Man อุ้มเธอไว้บนบ่าด้วยท่าทางปกป้อง

            ลินน์ แมคนีล (Lynn McNeill) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านคติชนวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยรัฐยูทาห์ ชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของภาพลักษณ์เชิงบวกของ Slender Man ดูเหมือนจะเริ่มต้นขึ้น ไม่นานหลังเหตุแทงในวอคีชา และแนวโน้มนี้อาจเป็น ปฏิกิริยาของแฟนๆ ต่อตัวละคร เพื่อเบี่ยงออกจากภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นั้น

 

Slender Man ในวัฒนธรรมร่วมสมัย : 

 

            ในปี 2011 มาร์คุส “น็อตช์” เพอร์สสัน (Markus "Notch" Persson) ผู้สร้างเกมอินดี้ Minecraft ได้เพิ่มมอนสเตอร์ศัตรูตัวใหม่ลงในเกม และตั้งชื่อว่า “Enderman” หลังจากที่ผู้ใช้หลายคนบน Reddit และ Google+ แสดงความคิดเห็นถึงความคล้ายคลึงกับ Slender Man

            ในปี 2013 Slender Man ปรากฏตัวในฐานะตัวร้ายของตอน SubterrFaenean ในซีซั่น 3 ของซีรีส์ Lost Girl ซึ่งในตอนนั้นได้กล่าวว่า Slender Man เป็นต้นแบบของตำนาน “Pied Piper”

            ในปี 2014 ซีรีส์ Supernatural ได้นำ Slender Man มาล้อเลียนด้วยตัวละครชื่อ “Thinman” ในตอนที่มีชื่อเดียวกันในซีซั่นที่ 9
            ในปีเดียวกัน ซีซั่นที่ 16 ของซีรีส์สืบสวนคดีอาชญากรรม Law & Order: Special Victims Unit ก็มีตอนชื่อ “Glasgowman's Wrath” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์แทงในวอคีชา

            ในปี 2018 Slender Man ปรากฏตัวในตอน “The Planned Parenthood Show” ของซีรี่ส์แอนิเมชั่น Big Mouth ส่วนในเกม Phasmophobia ปี 2020 Slender Man จะโผล่อยู่ในหนึ่งในแผนที่ของเกมในลักษณะ อีสเตอร์เอ้ก ให้ผู้เล่นค้นหา

 

ADS