ประวัติ มิเกล อาร์เตต้า ผู้ฟิ้นชีพปืนใหญ่กลับเข้าเส้นทาง

kaofang | 22/10/2020 22:00 น. | 2175 Views

          มิเกล อาร์เตต้า เชื่อว่าเขาล้มเหลวในการงัดฟอร์มที่ดีที่สุดจาก เมซุต โอซิล ออกมา ดังนั้นจึงยินดีที่จะแบกรับคำตำหนิจากการที่หั่นชื่อเพลย์เมกเกอร์รายนี้ออกจากทีมชุดลุยศึกพรีเมียร์ ลีก 

     ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธที่ 21 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาโอซิล ได้ออกแถลงการณ์ด้วยความโกรธหลังรู้ว่าเส้นทางค้าแข้งของเขากับทีมใกล้จะจบลงเต็มทีแล้ว โดยเดอะ กันเนอร์ส ไม่ใส่ชื่อดาวเตะชาวเยอรมันไว้ในชุด 25 ขุนพลทั้งในการแข่งขันยูโรป้า ลีก และ พรีเมียร์ ลีก หมายความว่า โอซิลจะไม่ได้ลงเล่นให้อาร์เซนอลเลยอย่างน้อยจนกว่าจะถึงเดือนกุมภาพันธ์

ประวัติ มิเกล อาร์เตต้า

ชื่อเต็ม : มิเกล อามาเตรียอิน อาร์เตต้า (Mikel Amatriain Arteta)
วันเดือนปีเกิด : 26 มีนาคม ค.ศ. 1982 (38 ปี)
สถานที่เกิด : ซานเซบัสเตียน ประเทศสเปน
ส่วนสูง : 175 ซม.
ตำแหน่ง : (กองกลาง)

          มิเกล อาร์เตต้า (Mikel Arteta) เกิดวันที่ 26 มีนาคม 1982 ในเมืองซาน เซบัสเตียน ประเทศสเปน โดยเขาเริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งจากการเป็นนักเตะฝึกหัดของสโมสร อันติกูโอโก โดยในตอนนั้นเขาถือได้ว่าเป็นเพื่อนซี้กับ ชาบี อาลอนโซ ต่อมา อาร์เตต้า จะได้ย้ายเข้ามาเป็นนักเตะในอคาเดมี่ของสโมสร บาร์เซโลน่า แต่ก็ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นกำลังของสโมสรได้ และถูกส่งตัวให้กับทางสโมสร เปแอสเช ยืมตัวไปใช้งานถึง 1 ฤดูกาล ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาจึงทำให้ทีมยักษ์ใหญ่ในลีกชื่อดังทั้งหลายไม่ค่อยให้ความสนใจในตัวเขาสักเท่าไหร่แต่กลับเป็นทีมอย่าง กลาสโกว์ เรนเจอร์ส สโมสรชื่อดังใน สกอตติช พรีเมียร์ลีก ที่ได้ มิเกล อาร์เตต้า ไปร่วมทีม

     เขามีโชว์ฟอร์มการเล่นออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ 2 ของตัวเองกับสโมสร กลาสโกว์ เรนเจอร์ส และยังสามารถพาทีมเข้าไปเล่นในศึกการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึงแม้ว่าฟอร์มการเล่นของทีมจะออกมาน่าผิดหวัง แต่ในทางกลับกัน มิเกล อาร์เตต้า กลายเป็นนักเตะในแดนกลางที่มีความโดดเด่นและน่าจับตามองที่สุดในเวลานั้น จนทำให้ชื่อเสียงและความร้อนแรงของเขาจะโด่งดังไปถึง ลา ลีก้า ประเทศสเปน และกลายเป็น เรอัล โซเซียดาด ที่ได้ทำการยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวเขาไปเสริมทัพในฤดูกาลถัดมา

     หลังจากนั้น มิเกล อาร์เตต้า ก็เริ่มมีสไตล์การเล่นหลุดออกไปจากฟอร์มเดิมเป็นอย่างมาก จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามหรือในบางครั้งก็ถูกจับนั่งอยู่ในม้านั่งสำรองหลายเกมติดต่อกัน ทำให้เขาเริ่มที่จะไม่มีความสุขกับทาง เรอัล โซเซียดาด จนขอขึ้นบัญชีขายกับทางสโมสรทันที ก่อนที่ เดวิด มอยส์ นายใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน จะรีบยื่นข้อเสนอเพื่อขอซื้อตัว อาร์เตต้า ทันที

     ถึงแม้ว่า อาร์เตต้า จะไม่เคยคว้าแชมป์ร่วมกับทางสโมสรเอฟเวอร์ตัน แต่เขาก็สามารถพาทีมขึ้นไปจบอยู่ในอันดับที่ 5 ของตารางการแข่งขันได้ถึง 3 ปี ติดต่อกัน และยังคว้ารางวัลผู้เล่นแห่งปีของสโมสรได้ถึง 2 ครั้ง จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ประสบความสำเร็จในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค ทำให้เขาตัดสินใจที่จะย้ายออกจากสโมสรเพื่อมองหาความท้าทางใหม่ๆ อีกครั้ง

     อาร์เตต้า ตัดสินย้ายสโมสรมาอยู่กับ อาร์เซน่อล เพื่อหาความท้าทายใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ กับสัญญาอีก 4 ปี ประสบการณ์ของเขาเป็นอะไรที่ลงตัวกับสโมสรแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี และด้วยระยะเวลาในการค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก กับสโมสร เอฟเวอร์ตัน มายาวนานถึง 8 ปีเต็ม ทำให้การย้ายมาร่วมทัพปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ในครั้งนี้เขาจึงใช้เวลาปรับตัวกับสไตล์การเล่นเพียงไม่นาน ก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดียม ได้สำเร็จ

     เขามีผลงานที่ดีและยังเป็นที่รักของแฟนบอลอย่างมากมาย และได้รับการไว้วางใจจากผู้จัดการทีมและเพื่อนร่วมทีมอย่างมากมายให้รับบทบาทในการสวมปลอกแขนกัปตันทีม แถมยังได้รับการโหวตจากแฟนบอลให้เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมในปี 2011-2012 อีกด้วย มิเกล อาร์เตต้า ค้าแข้งอยู่กับสโมสร อาร์เซน่อล 5 ปี และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ถึง 2 สมัย ก่อนที่จะยุติบทบาทการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในปี 2016

     ถึงแม้ว่า มิเกล อาร์เตต้า จะไม่เคยลงเล่นให้กับทีมชาติสเปนชุดใหญ่มาก่อน แต่ด้วยความสำเร็จและประสบการณ์ที่มีอย่างมากมายในนามสโมสรของเขา ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจของทีมยักษ์ใหญ่มากมาย ซึ่งหลังจากที่แขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวได้ตัดสินใจเข้ารับงาน ผู้ช่วยผู้จัดการทีมของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทันที จากการชักชวนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ทันทีหลังจากที่เลิกเล่นในปี 2016

     เขาทั้ง 2 คนทำงานเข้าขากันได้เป็นอย่างดี จนสามารถปลุกปั้นสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก้าวขึ้นมาเป็นยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษได้สำเร็จ โดยสามารถพาทัพ เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ติดต่อกันถึง 2 สมัยติด ทั้งในปี 2017-2018 และ 2018-2019 อาร์เตต้า ร่วมทำทีมคู่กับ กวาร์ดิโอล่า มาได้ 3 ปีกว่าๆ ก็ได้เวลาที่เขาจะออกมารับงานกุนซือแบบต็มรูปแบบสักที ซึ่งสโมสรที่เขาได้เข้าไปนั่งเก้าอี้นายใหญ่ของทีมนั่นก็คือ อาร์เซน่อล นั่นเอง

     หลังจากที่ อูไน เอเมรี่ ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล ทำให้ทางบอร์ดบริหารของ ทัพปืนใหญ่ ไม่รอช้ารีบแต่งตั้ง มิเกล อาร์เตต้า เข้ารับงานเป็นกุนซือคนใหม่ทันที ซึ่งแน่นอนว่า จากผลงานในสนามและประสบการณ์ในการรับบทบาทเป็นผู้ช่วยกุนซือของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็สามารถที่จะสร้างทีม อาร์เซน่อลให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้

ADS