ประวัติ ชูเอา เปโดร ดาวยิงสุดอันตรายของสิงห์บลูส์

sittiwut | 20/11/2025 16:05 น. | 49 Views



ชูเอา เปโดร ดาวยิงสุดอันตรายของสิงห์บลูส์

ชื่อเต็ม : ชูเอา เปโดร
วัน/เดือน/ปีเกิด : 26 กันยายน ค.ศ. 2001
ส่วนสูง : 1.82 ซม.
ตำแหน่ง : กองหน้า
สโมสรปัจจุบัน : เชลซี


ชูเอา เปโดร (João Pedro Junqueira de Jesus) หรือเป็นที่รู้จักในชื่ออาชีพว่า “ชูเอา เปโดร” เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล ผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับสโมสรเชลซีในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทีมชาติบราซิล


ชีวิตส่วนตัว : 

          ชูเอา เปโดร เกิดที่เมืองริเบลราโอ เปรโต้ รัฐเซา เปาโล โดยมีพ่อแม่คือ ฟลาเวีย ชุนเกราและ โชเซ่ ชูเอา เด เชซุส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ชิเกา” อดีตนักฟุตบอลอาชีพที่โดดเด่นจากการเล่นให้สโมสรโบตาโฟโก้ อย่างไรก็ตาม ชิเกา ถูกจำคุกเป็นเวลา 16 ปีในปี 2002 โดยรับโทษจริง 8 ปี จากข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฆาตกรรม ในช่วงเวลาที่ชิเกาถูกจำคุก ตัวเขาและฟลาเวีย ชุนเกราได้แยกทางกันแล้ว


เส้นทางอาชีพสโมสร: ฟลูมิเนนเซ่

          ชูเอา เปโดร เข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสรฟลูมิเนนเซ่ และแม่ของเขาย้ายไปอยู่ที่ริโอเดอจาเนโรพร้อมกับเขา เมื่อเขาพัฒนาขึ้นในอคาเดมีของสโมสร เขาเปลี่ยนตำแหน่งจากกองกลางตัวรับ ไปเป็นกองกลางตัวรุก และสุดท้ายกลายเป็นกองหน้า เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2018 เขายังไม่ทันได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใฆย่เลยด้วยซ้ำ สโมสร วัตฟอร์ด ทีมในลีกแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ก็ได้บรรลุข้อตกลงในการเซ็นสัญญากับ ชูเอา เปโดร ในเดือนมกราคม 2020 ด้วยสัญญา 5 ปี

          วันที่ 28 มีนาคม 2019 ชูเอา เปโดร ลงเล่นนัดแรกให้ทีมชุดใหญ่ของฟลูมิเนนเซ่ในฐานะตัวสำรองช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในเกมที่แพ้ฟลาเมงโก้ 1-2 ในการแข่งขันคัมเปโอนาโต การีโอกา หนึ่งเดือนถัดมา วันที่ 29 เมษายน เขาลงเล่นลีกนัดแรกในฐานะตัวสำรองช่วงท้ายเกม ในแมตช์ที่แพ้โกยาส 0-1 หลังจากนั้นเขาทำผลงานสุดโดดเด่น ยิงได้ 7 ประตูใน 4 นัดถัดมาซึ่งรวมถึงการทำแฮตทริกในเกมชนะแอตเลติโก นาซิอองนาล 4-1 ในศึกโคปา ซูดาเมริกานา


วัตฟอร์ด :

          เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2019 มีการประกาศว่าเขาได้รับใบอนุญาตทำงานในสหราชอาณาจักรเรียบร้อยแล้ว และจะเซ็นสัญญากับวัตฟอร์ดในเดือนมกราคม 2020 แม้จะล่าช้าไปเล็กน้อยจากการปิดเมืองทั่วโลกเนื่องจากโควิด-19 แต่เปโดรก็ยิงประตูแรกให้วัตฟอร์ดได้สำเร็จ ในเกมชนะลูตัน ทาวน์ 1-0 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2020 ซึ่งเป็นวันเกิดครบ 19 ปีของเขาพอดี


          ขณะที่ วัตฟอร์ด เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ในลีกสูงสุดของอังกฤษได้สำเร็จ เปโดรก็ทำประตูแรกในเวทีพรีเมียร์ลีกได้ในเกมพบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2021 เขาอุทิศประตูนี้ให้กับคาร์ลอส จูเนียร์ พ่อเลี้ยงที่เพิ่งเสียชีวิตของเขา ในวันที่ 15 มกราคม 2022 เขายิงประตูตีเสมอให้ทีมในนาทีที่ 88 ในเกมพบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด โดยการแข่งขันจบลงด้วยผลเสมอ 1–1


ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน :


          เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2023 สโมสรไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยนจากพรีเมียร์ลีก ยืนยันการคว้าตัวเปโดรมาจากวัตฟอร์ด โดยค่าตัวไม่ได้เปิดเผยเป็นทางการ แต่มีรายงานว่าประมาณ 30 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวสถิติของสโมสร เขาลงประเดิมสนามในเกมเปิดฤดูกาลเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ลงเป็นตัวจริงและยิงจุดโทษช่วยทีมในเกมที่ไบรท์ตันเปิดบ้านชนะน้องใหม่พรีเมียร์ลีก ลูตัน ทาวน์ 4-1 ต่อมาในวันที่ 21 กันยายน เปโดรยิงประตูยุโรปลูกแรกได้ในประวัติศาสตร์ของสโมสรไบรท์ตันฯ โดยทำสองประตูจากจุดโทษ แม้สุดท้ายทีมจะแพ้เออีเค เอเธนส์ แชมป์กรีซ 3-2 ในศึกยูโรป้าลีกก็ตาม

          เปโดรจบรอบแบ่งกลุ่มยูโรปาลีกด้วยผลงานเป็นดาวซัลโวเดี่ยว ยิง 6 ประตูจาก 6 นัด รวมถึงประตูชัยช่วงท้ายเกมในนัดสุดท้าย โดยไบรท์ตันฯ คว้าแชมป์กลุ่มและผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ


          เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2024 เปโดรยิงประตูชัยช่วงทดเวลาให้ไบรท์ตันฯได้อีกครั้งในเกมที่พวกเขาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ต่อมาในวันที่ 19 เมษายน 2025 เขาถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังใช้มือสะบัดโดนหน้าของนาธาน คอลลินส์ กองหลังเบรนท์ฟอร์ด ในเกมที่แพ้ 2-4 และถูกลงโทษแบน 3 นัดจากพฤติกรรมรุนแรง จากนั้นในวันที่ 23 พฤษภาคม 2025 สโมสรประกาศว่าเปโดรถูกถอดออกจากทีมสำหรับเกมนัดต่อไปกับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ และก่อนหน้านั้นเขาก็ไม่ได้มีชื่อในเกมพบวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และลิเวอร์พูล เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการซ้อม

          ตามรายงานของ The Athletic ระบุในภายหลังว่าสาเหตุที่ เปโดร หายไปจากทีมเป็นเพราะมีปัญหากระทบกระทั่งกับเพื่อนร่วมทีมในระหว่างการลงซ้อม

          ฟาเบียน ฮูร์เซเลอร์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า : "กับชูเอา เรามีปัญหาเล็กน้อยระหว่างการซ้อม ซึ่งเป็นประเภทของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นครั้งคราวในทุกสโมสรฟุตบอล เราจัดการมันภายในแล้ว และเรื่องนี้ก็จบลงแล้ว"

          "ชูเอาเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์ เขาคือนักเตะที่สามารถตัดสินเกมให้เราได้ นั่นคือเหตุผลที่เราลงทุนกับเขา แต่ก็มีหลักการ มีคุณค่า... ซึ่งไม่สามารถต่อรองได้ เขาเป็นผู้เล่นอายุน้อย และยังมีศักยภาพอีกมากที่จะเติบโต ผมมั่นใจว่าเขาจะเรียนรู้จากเรื่องนี้และกลับมาแข็งแกร่งขึ้นในฤดูกาลหน้า"

 

เชลซี :

          วันที่ 2 กรกฎาคม 2025 เปโดรย้ายร่วมทีมเชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีก ด้วยสัญญาถึงปี 2033 โดยมีรายงานว่าค่าตัวอยู่ที่ 55 ล้านปอนด์ บวกโบนัสอีก 5 ล้านปอนด์ ในวันเดียวกัน เขาถูกใส่ชื่ออยู่ในทีมเชลซีสำหรับศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ในช่วงหน้าต่างลงทะเบียนรอบที่สองของทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว โดยเขาลงสนามนัดแรกให้เชลซีในรอบก่อนรองชนะเลิศในสองวันต่อมา โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังในเกมที่เชลซีชนะพัลไมรัส 2-1 ต่อมาในวันที่ 8 กรกฎาคม 2025 เขายิงสองประตูในเกมรอบรองชนะเลิศกับทีมฟลูมิเนนเซ่ สโมสรที่เขาเติบโตมา และในรอบชิงชนะเลิศเขายิงประตูปิดท้ายในเกมที่เชลซีชนะปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3–0 และคว้าแชมป์สโมสรโลกมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่


          วันที่ 22 สิงหาคม 2025 เปโดรทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกให้เชลซี จากการโหม่งลูกเตะมุม ในเกมที่เชลซีชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 5–1 ที่ลอนดอน สเตเดี้ยม


ทีมชาติบราซิล :

          เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2023 เปโดรถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลชุดโอลิมปิก เขาลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลเป็นครั้งแรกในฐานะตัวสำรองนาทีที่ 84 ในเกมที่แพ้โมร็อกโก 0-1 ในอีกสามเดือนต่อมา วันที่ 6 พฤศจิกายน 2023 เปโดรถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่เป็นครั้งแรก

          วันที่ 16 พฤศจิกายน เขาลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก โดยถูกส่งลงมาแทนวินิซิอุส จูเนียร์ที่บาดเจ็บ ในนาทีที่ 27 ในเกมที่แพ้โคลอมเบีย 1-2


สไตล์การเล่น :

          ชูเอา เปโดร เป็นกองหน้าที่เล่นได้หลากหลาย โดยสไตล์การเล่นของเขาโดดเด่นที่ความสามารถในการยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า พร้อมกับถอยลงมาต่ำในแดนกลางเพื่อเชื่อมเกม เขาเป็นผู้เล่นเชิงเทคนิคที่สามารถยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า, กองหน้าตัวรอง หรือมิดฟิลด์ตัวรุกได้ และมักจะถ่างออกไปด้านข้างเพื่อรับบอล บทความของ BBC ระบุว่ามีการเปรียบเทียบเขากับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ในด้านความสามารถในการทำประตูและทักษะเชิงเทคนิค แม้ว่าเขาจะชอบเล่นตำแหน่งเบอร์ 9 มากกว่า แต่การวิเคราะห์จากพรีเมียร์ลีกชี้ว่าเขาทำผลงานได้ดีขึ้นเมื่อยืนต่ำลงมา เพื่อช่วยขับเคลื่อนเกมรุก

ADS