ประวัติ มิเกล เมริโน่ อาวุธลับแดนกลางของทัพปืนใหญ่
ชื่อเต็ม : มิเกล เมริโน่ ซาซอน (Mikel Merino Zazón)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 22 มิถุนายน ค.ศ. 1996
ส่วนสูง : 1.89 ซม.
ตำแหน่ง : กองกลาง, กองหน้า
สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซน่อล
มิเกล เมริโน่ ซาซอน (Mikel Merino Zazon) เกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 1996 เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวสเปน ส่วนใหญ่เขาเล่นในตำแหน่งกองกลาง และบางครั้งก็รับบทกองหน้าบ้าง ปัจจุบันเขาค้าแข้งกับสโมสรอาร์เซน่อลยักษ์ใหญ่ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทีมชาติสเปนเมริโน่ เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับสโมสรโอซาซูน่า ก่อนจะย้ายไปเล่นช่วงสั้นๆ กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด จากนั้นในปี 2018 เมริโน่ย้ายไปยังเรอัล โซเซียดัด ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยคว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ ฤดูกาล 2019–20 และลงสนามรวม 242 นัด ทำได้ 27 ประตู ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2024 เขาได้ย้ายมาร่วมทีมอาร์เซน่อล
ในระดับทีมชาติ เมริโน่ เคยลงเล่นให้สเปนรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีในฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปถึง 2 ครั้ง และพาทีมคว้าแชมป์ในปี 2019 เขาประเดิมสนามกับทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2020 และมีรายชื่อติดทีมลุยยูโร 2024 ซึ่งสเปนคว้าแชมป์ได้สำเร็จอีกด้วย
ชีวิตส่วนตัว :เมริโน่ เป็นลูกชายของ อังเกล เมริโน่ อดีตมิดฟิลด์ซึ่งลงเล่นใน ลา ลีกา กับทั้ง โอซาซูน่า และ เซลต้า เกือบ 300 นัดในยุค 1980-1990 ก่อนสวมบทเป็นกุนซือของลูกชายในทีมอะคาเดมี่ของ โอซาซูน่า อีกด้วย เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2024 เมริโน่เข้าพิธีแต่งงานกับ โลล่า ลิเบราล นางแบบชาวสเปน ที่เมืองปัมโปลนา
เส้นทางอาชีพ
โอซาซูนา :เมริโน่ เกิดที่เมืองปัมโปลนา แคว้นนาวาร์ เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสรท้องถิ่นชื่ออะมิโก ก่อนจะย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนของโอซาซูน่า ซึ่งต่อมาเขาลงเล่นให้ทีมสำรองครั้งแรกในฤดูกาล 2013-14 ในศึกเทร์เซรา ดิวิซิออน
จากนั้นวันที่ 23 สิงหาคม 2014 เขาประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ของโอซาซูน่า ในเกมเซกุนด้า ดิบิซิออน ที่เปิดบ้านชนะบาร์เซโลน่า เบ ไปได้ 2–0 โดยเมริโน่ยิงประตูแรกในอาชีพเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ปีเดียวกัน โดยเป็นประตูชัยให้ทีมบุกชนะลาส พัลมาส 2-1
ด้วฝีเท้าที่เก่งกาจทำให้เขาถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวในวันที่ 31 มกราคม 2015 พร้อมรับเสื้อหมายเลข 8 และกลายเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลแรก ช่วยให้โอซาซูน่ารอดพ้นการตกชั้นแบบเฉียดฉิว จากนั้นในฤดูกาล 2015-16 เมริโน่ยิงได้ 4 ประตูจาก 34 นัด ที่ลงสนาม ก่อนจะพาต้นสังกัดอย่างโอซาซูน่าคว้าอันดับ 6 และผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นได้สำเร็จ โดยในรอบแรกของเพลย์ออฟนั้นเขายิงสองประตูในเกมที่ทีมเปิดบ้านชนะกิโมนาสติก เด ตาร์ราโกนา 3-1 และยิงเพิ่มอีกหนึ่งประตูในเกมเลกสองที่โอซาซูน่าบุกไปชนะ 3-2
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ :
ด้วยฝีเท้าที่พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆทำให้โอกาสใหม่มาถึง เมริโน่ อย่างรวดเร็วในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2016 เขาตกลงเซ็นสัญญา 5 ปีกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยักษ์ใหญ่จากเยอรมัน โดยเขาลงเล่นเกมบุนเดสลีกานัดแรกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ลงสนามครบ 90 นาที ในเกมที่เสมอแฮร์ธา เบอร์ลิน 1–1 ที่บ้านของทัพ "เสือเหลือง"ซึ่งไม่ได้รับโอกาสให้ลงสนามมากนัก
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด :
ก้าวต่อไปของ เมริโน่ เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2017 เขาได้ย้ายไปร่วมทีมนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัวตลอดฤดูกาล โดยมีเงื่อนไขว่าหากลงสนามครบจำนวนที่กำหนด สโมสรจะต้องเซ็นสัญญาถาวรกับเขา และใช้เวลาไม่นานในวันที่ 13 ตุลาคม เงื่อนไขดังกล่าวก็ถูกใช้งาน และเมริโน่ก็ได้เซ็นสัญญาถาวร 5 ปี กับทัพ "สาลิกาดง"
ชีวิตในรั้ว เซนต์ เจมส์ พาร์ก ของ เมริโน่ นั้นเขาลงเล่นให้สโมสรทั้งหมด 25 นัดในทุกรายการ เขาทำประตูเดียวให้ทีมได้จากการโหม่งในช่วงท้ายเกม ช่วยให้ทีมเปิดบ้านชนะคริสตัล พาเลซ 1-0 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2017 นอกจากนี้เขายังทำได้อีกหนึ่งแอสซิสต์ด้วย
เรอัล โซเซียดัด :
เมริโน่ ตัดสินใจย้ายกลับสเปนเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2018 โดยเซ็นสัญญา 5 ปีกับเรอัล โซเซียดัด ค่าตัวไม่ได้เปิดเผย แต่มีรายงานว่าอยู่ที่ราว 12 ล้านยูโร เขาลงเล่นลาลีกานัดแรกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เล่นไป 59 นาที ในเกมที่ทีมบุกชนะบียาร์เรอัล 2-1 และยิงประตูแรกให้ทีมได้ในวันที่ 21 กันยายน ซึ่งเป็นประตูชัยในเกมพบอูเอสกา
แม้ช่วงแรกจะยังปรับตัวกับทีมใหม่ได้ไม่ดีนัก และเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน แต่สุดท้ายเขาก็กลายเป็นตัวจริงของทีม โดยทำได้ 4 ประตูจาก 32 นัดในฤดูกาลแรก
ต่อมาวันที่ 7 มีนาคม 2020 เมริโน่ ได้สวมปลอกแขนกัปตันเป็นครั้งแรก ในเกมลีกที่ทีมบุกไปแพ้บาร์เซโลนา 0-1 ต่อมาในเดือนกรกฎาคม เขาต่อสัญญาใหม่กับสโมสรไปจนถึงปี 2025
วันที่ 3 เมษายน 2021 เมริโน่ คว้าแชมป์แรกในอาชีพได้สำเร็จ หลังลงเล่นเต็ม 90 นาทีในนัดชิงชนะเลิศโกปา เดล เรย์ 2020 (ที่เลื่อนการแข่งขันเพราะโควิด-19) พบแอธเลติก บิลเบา เขาจ่ายบอลให้ปอร์ตู ที่ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนที่มิเกล โอยาร์ซาบาล จะยิงจุดโทษเป็นประตูเดียวของเกมที่สนามเอสตาดิโอ เด ลา การ์ตูฆา เมริโน่ ยังได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย
นอกจากนี้ในฤดูกาล 2023–24 เมริโน่ ยังทำสถิติเข้าปะทะแย่งบอลสำเร็จมากที่สุดในบรรดานักเตะท็อปลีกยุโรปถึง 326 ครั้งอีกด้วย
อาร์เซน่อล :เมริโน่ ย้ายกลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2024 โดยเซ็นสัญญา 4 ปีกับอาร์เซน่อล ค่าตัวรายงานว่าอยู่ที่ 31.6 ล้านปอนด์ ในการฝึกซ้อมครั้งแรก เขาโชคร้ายกระดูกไหล่ร้าวหลังปะทะกับกาเบรียล มากัลเญส ทำให้ต้องพักหลายสัปดาห์ หลังจากนั้นเขาลงสนามให้ทีมเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม โดยลงมาเป็นตัวสำรองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เปิดบ้านชนะปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-0 ต่อมาในวันที่ 26 ตุลาคม เขายิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้จากลูกโหม่งจากฟรีคิก ในเกมที่เสมอลิเวอร์พูล 2-2 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2025 เมริโน่ ถูกส่งลงสนามแทนราฮีม สเตอร์ลิงในนาทีที่ 69 ในเกมพบเลสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจากไค ฮาแวร์ตซ์ กองหน้าตัวหลักบาดเจ็บแฮมสตริง ทีมจึงให้เมริโน่ลงมายืนหน้าเป้าแทน และเขาก็ซัดสองประตูช่วยทีมชนะไปได้ 2-0
จากนั้นวันที่ 8 เมษายน เขาลงเล่นในบทบาทกองหน้าอีกครั้ง และยิงประตูปิดท้ายช่วยให้ทีมเอาชนะเรอัล มาดริด 3-0 ในเลกแรกของรอบก่อนรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก
ในฤดูกาลแรกของเขากับอาร์เซน่อล เมริโน่ถูกใช้งานทั้งตำแหน่งกองกลางและกองหน้าอย่างสม่ำเสมอ
วันที่ 28 กันยายน 2025 เขายิงประตูแรกของฤดูกาลใหม่ ในเกมที่อาร์เซน่อลบุกชนะนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมเก่าของเขา 2-1 โดยลงมาเป็นตัวสำรองและช่วยให้ทีมพลิกสถานการณ์ในช่วงท้ายเกมอีกด้วย
เส้นทางทีมชาติ :
เมริโน่ เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติสเปนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2015 ที่กรีซ เขายิงประตูแรกของทีมในการแข่งขันนั้น ในเกมที่ชนะเยอรมนี แชมป์เก่า 3-0 ที่สนาม AEL FC อารีนา เมืองลาริสซา
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2020 เมริโน่ถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่ครั้งแรก สำหรับศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ที่พบเยอรมนีและยูเครน เขาลงสนามนัดแรกในวันที่ 3 กันยายน ในเกมเสมอเยอรมนี 1-1 โดยลงมาแทนเซร์คิโอ บุสเกตส์ช่วงต้นครึ่งหลัง เขายิงประตูแรกในทีมชาติชุดใหญ่ได้เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2023 เป็นประตูที่สองในเกมถล่มไซปรัส 6-0 ในศึกคัดเลือกยูโร 2024 ที่กรานาดา
เมริโน่ ติดทีมชาติชุดลุยศึกยูโร 2024 และกลายเป็นฮีโร่ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อเขาโหม่งประตูชัยในนาทีที่ 119 จากการเปิดของดานี โอลโม่ ช่วยให้สเปนเฉือนชนะเยอรมนี 2-1 ที่เมืองสตุ๊ทท์การ์ต การฉลองประตูของเขาวิ่งรอบธงมุมสนามเป็นภาพคล้ายกับที่พ่อของเขาเคยทำเช่นกันในเกมยูฟ่า คัพ กับโอซาซูน่าในสนามเดียวกันเมื่อปี 1991
และเขายังลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทีมชาติสเปนเอาชนะอังกฤษ ไป 2-1 คว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่สี่ มากที่สุดในทวีปอีกด้วย และทำให้ เมริโน่ เป็นหนึ่งในนักเตะเพียง 12 คนที่เคยคว้าแชมป์ได้ทั้งในระดับเยาวชนและทีมชุดใหญ่ พร้อมเพื่อนร่วมทีมอย่างนาโช, เฟร์ราน ตอร์เรส, อัลบาโร โมราต้า และโรดรี้
วันที่ 7 กันยายน 2025 เมริโน่ ทำแฮตทริกแรกในทีมชาติ ในเกมบุกถล่มตุรกี 6-0 ในศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 ต่อมาในวันที่ 14 ตุลาคม ในรอบคัดเลือกเช่นกัน เขายิงเพิ่มอีกสองประตูในเกมที่สเปนชนะบัลแกเรีย 4-0 ที่เมืองบาบาโดลิด ทำให้ยอดรวมในทีมชาติของเขาทะลุ 10 ประตูเลยทีเดียว
สไตล์การเล่น :เมริโน่ เป็นกองกลางถนัดซ้าย ที่ส่วนใหญ่เล่นในบทบาทเบอร์ 8 ในระบบกองกลางสามหรือสี่คน นอกจากนี้เขายังมีประสบการณ์ในตำแหน่งกองกลางตัวต่ำ (pivot) โดยเฉพาะเมื่อลงเล่นในระบบดับเบิลพิวอต จุดเด่นที่สุดของเขาคือการจ่ายบอลเจาะแนวรับ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายตัดไลน์ หรือการแทงทะลุช่อง เขามักจะเป็นผู้จ่ายบอลที่สร้างสรรค์ที่สุดในทีม
เมริโน่ ทำเกมบุกจากพื้นที่ด้านในระหว่างกองกลางกับปีกได้ดีมาก เขามักหาตำแหน่งรับบอลในพื้นที่แคบๆ ได้อย่างชาญฉลาด จังหวะการเคลื่อนที่ของเขาโดดเด่นมากๆ เขาแทบไม่เคลื่อนที่เร็วเกินไป ทำให้เขามักสามารถรับบอลในพื้นที่ที่ได้เปรียบ และจากตรงนั้นจึงสามารถโชว์ความสามารถด้านการจ่ายบอลทะลุช่องไปข้างหน้าได้
การแทงทะลุจากตำแหน่งนี้ของ เมริโน่ มักสร้างโอกาสอันตรายได้บ่อยครั้ง เขาจ่ายบอลเจาะพื้นที่ด้วยน้ำหนักพอดี และจ่ายให้สอดคล้องกับจังหวะวิ่งหลายรูปแบบของเพื่อนร่วมทีม โดยส่วนใหญ่ลูกแทงทะลุของเขาจะเข้าทางปีกที่วิ่งตัดหลังแนวรับ แต่เขาก็สามารถปรับจังหวะเพื่อหากองหน้าหรือกองกลางตัวรุกได้เช่นกัน
อีกหนึ่งกุญแจสำคัญของการจ่ายบอลไปข้างหน้าของเขาคือความสามารถในการปกปิดเจตนา ขณะจ่ายบอล เมริโน่สามารถขยับสะโพกได้อย่างรวดเร็วเพื่อจ่ายบอลทะลุช่องใส่ฟูลแบ็กฝ่ายตรงข้าม ทำให้เขาสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมทีมในตำแหน่งกลางสนามได้ เช่นเดียวกับที่ดาบิด ซิลบา อดีตเพื่อนร่วมทีมเรอัล โซเซียดาด เคยทำได้อย่างโดดเด่น
การได้เล่นเคียงข้างซิลบาระหว่างปี 2020 ถึง 2023 จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการจ่ายบอลไปข้างหน้าของเมริโน่ ถึงแม้ว่าเมริโน่จะเด่นที่สุดในการจ่ายบอลจากฝั่งซ้าย แต่เมื่อเขามาทางฝั่งด้านขวา เขาก็ยังสามารถจ่ายบอลคุณภาพสูงได้ไม่ต่างกัน
เขายังสามารถวางบอลได้ดีอีกด้วย ซึ่งทำให้การเล่นของเขาคาดเดายากขึ้น เมริโน่ มักเปลี่ยนแกนบอลออกไปให้ปีกฝั่งไกลอย่างมีเป้าหมาย และยังสามารถหยอดบอลโค้งกลับเข้าหากองหน้าตัวกลางได้ โดยเฉพาะในจังหวะที่เขาถ่างออกไปยืนด้านกว้าง









