ประวัติ มาร์ก กูกูเรญ่า แบ็กซ้ายที่เชลซีขาดไม่ได้

sittiwut | 29/11/2025 14:52 น. | 24 Views

 

ชื่อเต็ม : มาร์ก กูกูเรญ่า ซาเซตา (Marc Cucurella Saseta)

วัน/เดือน/ปีเกิด : 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1998
ส่วนสูง : 1.74 ซม.
ตำแหน่ง : แบ็กซ้าย
สโมสรปัจจุบัน : เชลซี

           มาร์ก กูกูเรญ่า ซาเซตา (Marc Cucurella Saseta) เกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1998 เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายหรือวิงแบ็กซ้ายให้กับเชลซีสโมสรในพรีเมียร์ลีก และทีมชาติสเปน

           กูกูเรญ่าเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับบาร์เซโลน่า แม้จะมีโอกาสลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ แต่ส่วนใหญ่เขาเล่นให้ทีมสำรอง จากนั้นเขาย้ายไปค้าแข้งกับเออิบาร์และเกตาเฟ รวมลงเล่นในลาลีกามากกว่า 100 นัด ก่อนจะย้ายมาไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียนในปี 2021 เขาอยู่กับไบรท์ตันหนึ่งฤดูกาลแล้วจึงย้ายมาเชลซีในปี 2022 พร้อมคว้าแชมป์ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพในอีกสามปีต่อมา

           ในทีมชาติ กูกูเรญ่าติดทัพสเปนตั้งแต่ระดับ ยู-16 จนถึง ยู-23 โดยคว้าเหรียญเงินในโอลิมปิก 2020 เขาลงเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2021 และเป็นหนึ่งในขุนพลทีมชาติสเปนชุดคว้าแชมป์ยูโร 2024 อีกด้วย

 

เส้นทางอาชีพ

บาร์เซโลนา และ เออิบาร์ :

           กูกูเรญ่า เกิดที่เมืองอาเยยา จังหวัดบาร์เซโลน่า แคว้นกาตาลุญญา เขาเริ่มเล่นฟุตซอลกับสโมสร อาเลญ่า ก่อนจะเข้าสู่ทีมเยาวชนของเอสปันญอลในปี 2006 และย้ายไปทีมเยาวชนบาร์เซโลน่าในปี 2012

           ต่อมาในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2016 ขณะยังเป็นผู้เล่นเยาวชน เขาลงเล่นให้ทีมสำรองเป็นครั้งแรก โดยได้ออกสตาร์ตตัวจริงในเกมชนะโลสปิตาเลต 4-0 ในเซกุนด้า เบ โดยในฤดูกาลนั้นเขาลงสนามให้ทีมสำรอง 17 นัด และช่วยให้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่นสองได้สำเร็จด้วยการเพลย์ออฟ จากนั้นในวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 เขาต่อสัญญากับบาร์เซโลน่าจนถึงปี 2021 พร้อมค่าฉีกสัญญา 12 ล้านยูโร


           กูกูเรญ่าลงเล่นเกมอาชีพนัดแรกในวันที่ 1 กันยายน 2017 ในเกมเสมอกรานาด้า 2-2 และลงเล่นทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่าเป็นครั้งแรกในวันที่ 24 ตุลาคมปีเดียวกัน โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองท้ายเกมในศึกโกปา เดล เรย์ นัดที่ชนะเรอัลมูร์เซีย 3-0 เขาทำประตูแรกกับบาร์เซโลน่า เบ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2018 ในเกมบุกเสมอลอร์กา

           หลังจากนั้นในวันที่ 31 สิงหาคม 2018 กูกูเรญ่าถูกปล่อยให้เออิบาร์ยืมตัวไปใช้งานหนึ่งฤดูกาล พร้อมเงื่อนไขซื้อขาด 2 ล้านยูโร เขาลงเล่นในเวทีลา ลีกา นัดแรกเมื่อวันที่ 25 กันยายน ในเกมแพ้เอสปันญอล 0-1 แม้ทีมจะแพ้ แต่เขาได้รับคำชมจากสื่ออย่าง "มาร์ก้า" หลังได้ลงเล่นเป็นหนึ่งในแปดผู้เล่นที่ผู้จัดการทีม โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลีบาร์ ปรับเปลี่ยนจากนัดก่อน จากนั้นเขายิงประตูแรกในลา ลีกาได้สำเร็จในวันสุดท้ายของฤดูกาล 9 พฤษภาคม 2019 เป็นประตูขึ้นนำในเกมเสมอ 2-2 กับบาร์เซโลน่า สโมสรต้นสังกัดที่แท้จริงของเขานั่นเอง


เกตาเฟ :

           หลังหมดสัญญายืมตัว เออิบาร์ได้ใช้เงื่อนไขซื้อขาดกูกูเรญ่า ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นของสโมสรแบบถาวร ขณะเดียวกันบาร์เซโลน่าก็ใส่เงื่อนไขซื้อกลับมูลค่า 4 ล้านยูโรแทรกไว้ในสัญญาอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เพียง 16 วันหลังเป็นนักเตะเออิบาร์แบบเต็มตัว บาร์เซโลน่าก็ได้ใช้เงื่อนไขนั้นดึงเขากลับทันที เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2019 และเพียงสองวันถัดมา เขาก็ถูกปล่อยให้เกตาเฟยืมตัวตลอดฤดูกาล พร้อมออปชั่นซื้อขาด 6 ล้านยูโร โดยบาร์เซโลน่าจะถือสิทธิ์ในตัวนักเตะไว้ที่ 40%

           กูกูเรญ่าลงเล่นในเกมยุโรปเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2019 โดยลงมาแทนเคเนดี้ในเกมยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่มที่เกตาเฟเปิดบ้านชนะแทร็บซอนสปอร์ 1-0 เขาลงเล่นรายการนี้ทั้งหมด 8 นัดในฤดูกาลนั้น ซึ่งยืดเยื้อนานถึง 11 เดือน ก่อนที่เกตาเฟจะตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของอินเตอร์ มิลานทีมยักษ์ใหญ่จากอิตาลี

           ด้วยผลงานที่ดีมากๆทำให้ในวันที่ 3 มีนาคม ปี 2020 เกตาเฟ ยอมใช้ออปชันซื้อขาดเขาด้วยราคา 6 ล้านยูโร ทำให้ความสัมพันธ์กับบาร์เซโลน่าสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ และสโมสรได้ดำเนินการซื้อขาดเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน

 

ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน :

           เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2021 โชคชะตาของ กูกูเรญ่า ก็พาเขาบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมทีมไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียนในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยสัญญา 5 ปี เขาลงเล่นนัดแรกให้ทีมเมื่อวันที่ 11 กันยายน โดยออกสตาร์ตเป็นตัวจริงและเล่น 82 นาทีก่อนถูกเปลี่ยนตัวในเกมบุกชนะเบรนท์ฟอร์ด 1-0

           แปดวันต่อมาเขาได้ประเดิมสนามในบ้านเป็นครั้งแรก และเล่นเต็ม 90 นาทีในเกมชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 จากนั้นในวันที่ 29 ธันวาคม เขาเปิดบอลแบบชิพให้แดนนี่ เวลเบ็กโหม่งตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้ไบรท์ตันบุกเสมอเชลซี 1-1

           กูกูเรญ่า ทำประตูแรกให้ไบรท์ตันฯได้ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2022 โดยยิงประตูที่สองในเกมถล่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 จากจังหวะที่เลอันโดร ทรอสซาร์จ่ายคืนมาให้ เขาคว้ารางวัลผู้เล่นแห่งฤดูกาลของสโมสร รวมถึงรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลที่เพื่อนร่วมทีมโหวตให้อีกด้วย

 

เชลซี :

           ด้วยผลงานที่โดดเด่นกับ ไบรท์ตัน ทำให้ในวันที่ 5 สิงหาคม ปี 2022 กูกูเรญ่า ก็ถูกเชลซียักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกคว้าตัวไปร่วมทีม ด้วยสัญญา 6 ปี ค่าตัวเริ่มต้นรายงานอยู่ที่ 56 ล้านปอนด์ และมีเงื่อนไขเพิ่มเป็น 63 ล้านปอนด์ ซึ่งนับเป็นค่าตัวสถิติสูงสุดที่ไบรท์ตันฯเคยได้รับในตอนนั้นเลยทีเดียว

           เขาประเดิมลงสนามให้เชลซีเป็นครั้งแรกในวันที่ 6 สิงหาคม โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในเกมบุกชนะเอฟเวอร์ตัน 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก ต่อมาในวันที่ 7 มีนาคม 2023 เขาได้รับเลือกเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม นัดที่สอง ที่เชลซีชนะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 และผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ

           ต่อมาในวันที่ 17 มีนาคม 2024 กูกูเรญ่ายิงประตูแรกให้เชลซีได้สำเร็จ โดยเป็นประตูขึ้นนำในเกมเอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ทีมชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 4-2

           จากนั้นในวันที่ 15 ธันวาคม 2024 เขายิงประตูแรกในพรีเมียร์ลีกให้เชลซีได้สำเร็จ โดยโหม่งพาทีมขึ้นนำในเกมเปิดบ้านชนะเบรนท์ฟอร์ด 2-1 แต่ในเกมเดียวกันเขาก็ถูกไล่ออกครั้งแรกในอาชีพอีกด้วย จากการโดนใบเหลืองที่สองจากจังหวะมีปากเสียงกับเควิน ชาเดอ ผู้เล่นของเบรนท์ฟอร์ดหลังเสียงนกหวีดจบเกม (ชาเดอได้รับใบเหลืองจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน)

 

 

เส้นทางทีมชาติ :

           หลังจากลงเล่นให้ทีมชาติสเปนชุดเยาวชนตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 16, 17 และ 19 ปี กูกูเรญ่าถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุด ยู21 ในเดือนกันยายน 2019 เพื่อลงเล่นรอบคัดเลือกยูโร ยู21 ปี 2021 กับทีมชาติคาซัคสถานและทีมชาติมอนเตเนโกร เขายังทำหน้าที่กัปตันทีมพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์นี้ได้อีกด้วย ก่อนจะพ่ายโปรตุเกส

           กูกูเรญ่ามีชื่อในทีมชาติสเปนชุด ยู23 ที่คว้าเหรียญเงินในโอลิมปิก 2020 ซึ่งถูกเลื่อนจัดไปปี 2021 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

           ในเดือนพฤศจิกายน 2020 หลุยส์ เอ็นริเก้ ผู้จัดการทีมชาติสเปนในขณะนั้นได้เรียกเขาติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่พบกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์และทีมชาติเยอรมนี เนื่องจากโฆเซ่ กาย่า บาดเจ็บ แม้เขาจะไม่ได้ลงสนามในสองเกมนั้นก็ตาม

           ต่อมาเมื่อผู้เล่นทีมชาติสเปนชุดใหญ่บางส่วนต้องกักตัวจากผลตรวจโควิด-19 ของเซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ทีมชุด ยู21 จึงถูกเรียกขึ้นมาเล่นเกมกระชับมิตรกับลิธัวเนียในวันที่ 8 มิถุนายน 2021 กูกูเรญ่าลงเล่นนัดแรกให้ทีมชาติชุดใหญ่ในเกมนี้ และยังได้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีมอีกด้วย โดยผลการแข่งขันเป็นสเปนที่เอาชนะไป 4-0

           ในเดือนมิถุนายน 2024 กูกูเรญ่าได้รับเลือกติดทีมสเปนชุดลุยศึกยูโร 2024 ที่เยอรมนี เขาลงเล่นนัดแรกอย่างเป็นทางการในนัดเปิดสนามซึ่งสเปนเอาชนะโครเอเชีย ไปได้ 3-0 ที่โอลิมเปีย สตาดิโอน เบอร์ลิน

           ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่พบกับเยอรมนี เขาตกเป็นประเด็นดราม่าเมื่อบอลไปโดนมือในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นจุดโทษ เนื่องจากมองว่าแขนของเขาไม่ได้ขยายออกอย่างผิดธรรมชาติ ต่อมาในนัดชิงชนะเลิศ เขาจ่ายบอลให้มิเกล โอยาร์ซาบาลยิงประตูชัยในเกมที่สเปนชนะอังกฤษ 2–1 ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และเขายังมีชื่อในทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์อีกด้วย

           วันที่ 4 กันยายน 2025 ในศึกคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 กูกูเรญ่าทำประตูแรกในทีมชาติได้สำเร็จ ในเกมที่สเปนชนะบัลแกเรีย 3-0

 

สไตล์การเล่น :

           มาร์ก กูกูเรญ่า เป็นกองหลังที่เปี่ยมด้วยพลัง ความหลากหลายในการเล่น และความเข้าใจเกมในระดับสูง เขามีจุดเด่นทั้งด้านแท็กติก ความขยันไม่มีหยุด และทักษะกับบอลที่ยอดเยี่ยม ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับหลายบทบาททั้งริมเส้นฝั่งซ้ายและตำแหน่งกองกลางได้อย่างลงตัว

 

จุดเด่นสำคัญในสไตล์การเล่น :

           ความหลากหลายและการปรับตัวสูงจุดแข็งที่สุดของกูกูเรญ่าคือการเล่นได้ในหลายตำแหน่ง เขารับบทบาทแบ็กซ้ายในแผงแบ็กโฟร์ วิงแบ็กซ้าย เซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายในระบบกองหลังสามคน ไปจนถึงฟูลแบ็กแบบเข้ากลาง (inverted full-back) หรือกองกลางตัวในบางสถานการณ์ ความยืดหยุ่นเชิงแท็กติกนี้ทำให้เขาเป็นนักเตะที่โค้ชทุกคนชื่นชอบ เพราะสามารถเติมเต็มตำแหน่งต่างๆ และรักษาสมดุลของทีมได้เสมอ


เกมรับที่ดุดันและเข้มข้น:

           เขาโดดเด่นในเรื่องการไล่บีบที่ดุดัน การเข้าปะทะหนักแน่น และสามารถรับมือสถานการณ์ดวลหนึ่งต่อหนึ่งได้ดี ด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำและการเบรกตัวที่รวดเร็ว ทำให้คู่แข่งผ่านเขาได้ยาก และยังคงความนิ่งในการสกัดบอลในแต่ละครั้งอีกด้วย


การจ่ายบอลและพาบอลขึ้นหน้า:

           ผ่านการฝึกมาจากลา มาเซีย กูกูเรญ่ามีเทคนิคติดตัวยอดเยี่ยม ทั้งการออกบอลและการพาบอลขึ้นหน้า เขาตัดสินใจได้ดีในพื้นที่บีบอัด และสามารถพาบอลพาทีมขึ้นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับทีมที่เน้นการครองบอลและการขึ้นเกมจากแดนหลัง


เกมรุกที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง :

           แม้จะเล่นในตำแหน่งกองหลังเป็นหลัก แต่เกมรุกของเขาเติบโตขึ้นมาก ทั้งการเปิดบอลที่แม่นยำ การเติมเกมที่มีจังหวะ และการวิ่งสอดเข้าเขตโทษ เขาช่วยสร้างความได้เปรียบด้านจำนวนคนในริมเส้น และทำคัตแบ็กหรือเปิดบอลเข้าจุดอันตรายได้ดี


การยืนตำแหน่งและการเคลื่อนที่แบบมีชั้นเชิง :

           กูกูเรญ่า มีวินัยทางแท็กติกสูง รู้ว่าช่วงไหนควรยืนกว้าง ช่วงไหนควรขยับเข้ากลางแบบฟูลแบ็กเข้าด้านใน และเมื่อไรควรเติมเกมเพื่อเปิดพื้นที่หรือสร้างทางเลือกในการจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีม

ADS