ประวัติ กูแลร์ เด็กมหัศจรรย์ของตุรกี

sittiwut | 18/12/2025 13:10 น. | 12 Views

 

ชื่อเต็ม : อาร์ด้า กูแลร์ (Arda Guler)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005
ส่วนสูง : 1.75 ซม.
ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรุก, ปีก
สโมสรปัจจุบัน : เรอัล มาดริด


              อาร์ด้า กูแลร์ เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวตุรกี เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกหรือปีกให้กับสโมสรเรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลา ลีกา สเปน และทีมชาติตุรกี โดยเขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งที่ดีที่สุดของโลกในยุคปัจจุบัน

              กูแลร์ เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลอาชีพระดับชุดใหญ่กับ เฟเนร์บาห์เช่ ในปี 2021 และมีส่วนช่วยพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยตุรกีในปี 2023 ก่อนจะก้าวสู่เวทีลูกหนังระดับโลกด้วยการย้ายมาร่วมทัพ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในปีเดียวกัน โดยในฤดูกาลแรกกับยักษ์ใหญ่แห่งสเปน เขาประสบความสำเร็จทันทีด้วยการคว้าแชมป์ลาลีกา และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครอง

              ส่วนในระดับทีมชาติ กูแลร์ประเดิมสนามให้ทีมชาติตุรกีชุดใหญ่ในปี 2022 และเป็นหนึ่งในขุนพลชุดลุยศึกยูฟ่า ยูโร 2024 ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการพาทีมทะลุถึงรอบก่อนรองชนะเลิศอีกด้วย


เส้นทางลูกหนังช่วงแรก :

              กูแลร์ เริ่มต้นอาชีพเยาวชนกับสโมสรเกนเคลอร์บิลิจี้ ในกรุงอังการา เมื่อปี 2014 ก่อนจะถูกเฟเนร์บาห์เช่ สโมสรยักษ์ใหญ่ของตุรกีค้นพบพรสวรรค์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2019 ขณะมีอายุเพียง 13 ปี และดึงตัวเข้าสู่ระบบอะคาเดมีของสโมสร

              เจ้าตัวไต่เต้าผ่านทีมเยาวชนของเฟเนร์บาห์เช่มาครบทุกชุด ไล่ตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี, 16 ปี จนถึง 19 ปี โดยเริ่มเล่นให้ทีม ยู-15 ในฤดูกาล 2018–19 ก่อนขยับขึ้นสู่ทีม ยู-16 ในปี 2020 และทีม ยู-19 ในปี 2021 ผลงานกับทีม ยู-19 โดดเด่นอย่างยิ่ง จากการทำ 7 ประตู กับ 4 แอสซิสต์ จาก 18 นัด และยังซัดเพิ่มอีก 3 ประตู พร้อม 1 แอสซิสต์ ในเกมเพลย์ออฟรอบก่อนรองชนะเลิศ จนกลายเป็นดาวซัลโวของรอบเพลย์ออฟฤดูกาลนั้น และได้รับความสนใจอย่างมากจากวงการลูกหนัง

              จากนั้นในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 อาร์ดา กูแลร์ เริ่มก้าวสู่เส้นทางใหม่ ด้วยการรอคอยโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่ของเฟเนร์บาห์เช่ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแจ้งเกิดในระดับอาชีพอย่างแท้จริง


เฟเนร์บาห์เช่ :

              อาร์ดา กูแลร์ เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับเฟเนร์บาห์เช่ เป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่ง เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2021 และถูกจับตามองทันทีในฐานะ “วันเดอร์คิด” ของวงการฟุตบอลตุรกี รวมถึงเป็นเพชรเม็ดงามที่ถูกคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคตอันใกล้

ฤดูกาล 2021–22

              กูแลร์ประเดิมสนามชุดใหญ่ให้เฟเนร์บาห์เช่ในฐานะตัวสำรอง เกมเพลย์ออฟยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2021–22 พบกับ เอชเจเค เฮลซิงกิ จากฟินแลนด์ ที่สนามชูกรู ซาราโคกลู เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2021 ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะ 1-0 ของทีมเจ้าบ้าน


              สามวันถัดมา เขาลงเล่นเกมซูเปอร์ลีก ตุรกี นัดแรกในชีวิต และทำแอสซิสต์ให้ มิฮา ซายช์ ยิงประตูปิดกล่องในช่วงนาทีที่ 89 ช่วยให้เฟเนร์บาห์เช่เอาชนะ อันตัลยาสปอร์ 2-0 ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องมากขึ้นตลอดฤดูกาล

              เดือนมีนาคม 2022 กูแลร์สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของเฟเนร์บาห์เช่ที่ทำประตูในศึกซูเปอร์ลีก หลังเพิ่งอายุครบ 17 ปีได้เพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น และเมื่อถึงเดือนพฤษภาคม เขาทำผลงานรวม 3 ประตู กับ 3 แอสซิสต์ จากเวลาในสนามเพียง 255 นาที ฟอร์มอันโดดเด่นนี้ทำให้หลายสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรป อาทิ อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล, บาเยิร์น มิวนิค, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, บาร์เซโลน่า และปารีส แซงต์-แชร์กแมง แสดงความสนใจอยากดึงตัวไปร่วมทีม

              จากผลงานที่เข้าตา วันที่ 17 มีนาคม 2022 เฟเนร์บาห์เช่ประกาศต่อสัญญาฉบับใหม่กับกูแลร์ออกไปอีก 3 ปี


ฤดูกาล 2022–23

              ช่วงต้นฤดูกาล 2022–23 หลังการอำลาทีมของ เมซุต โอซิล กูแลร์ได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อหมายเลข 10 หมายเลขในตำนานที่มีความหมายอย่างยิ่งต่อแฟนบอลเฟเนร์บาห์เช่ ซึ่งเคยเป็นของแข้งระดับตำนานอย่าง อเล็กซ์ เดอ ซูซา และ เจย์-เจย์ โอโคชา

              เขาลงสนามนัดแรกของฤดูกาลพบกับ คาซิมปาซา และโชว์ฟอร์มร้อนแรงยิงคนเดียว 2 ประตู ภายในเวลาเพียง 21 นาที สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอลทันที

              จากนั้นวันที่ 3 พฤศจิกายน 2022 กูแลร์ทำประตูแรกในเวทียุโรป พร้อมทำอีก 1 แอสซิสต์ ในเกมยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่เฟเนร์บาห์เช่บุกเอาชนะ ดินาโม เคียฟ 2-0 ก่อนจะปิดฉากช่วงเวลาที่น่าจดจำกับสโมสรด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลถ้วยตุรกี วันที่ 11 มิถุนายน 2023 ซึ่งเขาคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากเกมที่เฟเนร์บาห์เช่เอาชนะ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ 2-0

              กระทั่งวันที่ 6 กรกฎาคม 2023 อาร์ดา กูแลร์ ประกาศอำลาถิ่นชูกรู ซาราโคกลู ผ่านอินสตาแกรม ปิดฉากเส้นทางกับเฟเนร์บาห์เช่อย่างเป็นทางการ เพื่อก้าวสู่บทใหม่ในอาชีพค้าแข้งบนเวทีลูกหนังระดับโลก


เรอัล มาดริด :


              เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2023 เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ประกาศคว้าตัว อาร์ดา กูแลร์ มาร่วมทีมด้วยสัญญาระยะยาว 6 ปี ไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2029 โดยดีลนี้เกิดขึ้นจากการจ่ายค่าฉีกสัญญาเป็นเงินก้อนแรกจำนวน 20 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าค่าฉีกสัญญาเดิมในสัญญากับเฟเนร์บาห์เช่ที่ระบุไว้ 17.5 ล้านยูโร

              นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า กูแลร์ เป็นฝ่ายร้องขอให้เรอัล มาดริด จ่ายเงินมากกว่าค่าฉีกสัญญาที่กำหนดไว้ เพื่อช่วยเพิ่มรายได้และสนับสนุนสโมสรเก่าของเขาอย่างเฟเนร์บาห์เช่ ถือเป็นการแสดงความขอบคุณต่อทีมที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่เยาวชน


ฤดูกาล 2023–24

              หลังต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บหลายครั้งในช่วงปลายปี 2023 กูแลร์ได้ลงประเดิมสนามให้ “ราชันชุดขาว” อย่างเป็นทางการในศึกโกปา เดล เรย์ รอบพบกับ อารันดินา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2024 และมีส่วนช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 3-1

              วันที่ 14 มกราคม เขาคว้าแชมป์แรกในสีเสื้อเรอัล มาดริด จากการคว้าแชมป์ซูเปอร์โกปา เด เอสปันญา นัดชิงชนะเลิศ ที่เรอัล มาดริด ไล่ถล่ม บาร์เซโลน่า 4-1 แม้จะไม่ได้มีบทบาทโดดเด่นในสนาม แต่ก็ถือเป็นถ้วยรางวัลแรกในเส้นทางค้าแข้งของเขากับยอดทีมดังแห่งสเปน


              กูแลร์ ลงสนามในศึก ลา ลีกา นัดแรกเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2024 ในเกมพบกับ ลาส พัลมาส โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 81 แทน โรดรีโก ก่อนจะเริ่มสร้างอิมแพ็กต์อย่างต่อเนื่องในช่วงท้ายฤดูกาล

              วันที่ 10 มีนาคม เขายิงประตูแรกในลา ลีกา ให้กับเรอัล มาดริด ได้อย่างน่าประทับใจ หลังเลี้ยงบอลหลบ บิเซนเต้ กวยตา ผู้รักษาประตูเซลตา บีโก้ ในนาทีที่ 4 ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 5 นาทีหลังจากถูกส่งลงสนามเท่านั้น ช่วยให้ทีมเปิดบ้านถล่ม เซลตา บีโก้ 4-0

              ต่อมาในวันที่ 26 เมษายน กูแลร์ลงเล่นเป็นตัวจริงในลา ลีกา เป็นครั้งแรก และไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการซัดประตูชัย พาเรอัล มาดริด บุกเฉือน เรอัล โซเซียดัด 1-0 ถึงสนามเรอาเล อารีนา

              วันที่ 19 พฤษภาคม ดาวรุ่งทีมชาติตุรกีโชว์ฟอร์มร้อนแรงอีกครั้ง ด้วยการเหมาคนเดียว 2 ประตู ในเกมที่เรอัล มาดริด เสมอกับ บียาร์เรอัล แบบสุดมัน 4-4 พร้อมสร้างสถิติเป็นนักเตะที่ใช้เวลาลงสนามน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรในการยิงครบ 6 ประตูในลาลีกา ด้วยเวลาเพียง 330 นาที

              แม้จะไม่ได้ลงสนามในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลดังกล่าว แต่กูแลร์ก็จารึกประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะชาวตุรกีคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ หลังเรอัล มาดริด ผงาดคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 15 จากชัยชนะเหนือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ


ฤดูกาล 2024–25

              อาร์ดา กูแลร์ ลงประเดิมสนามในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในนามเรอัล มาดริด เป็นครั้งแรก ในฐานะตัวสำรอง เกมเปิดรอบลีกเฟส ซึ่ง “ราชันชุดขาว” เปิดบ้านเอาชนะ สตุตการ์ต 3-1 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2024 ต่อมาในวันที่ 7 ธันวาคม ปีเดียวกัน ดาวรุ่งทีมชาติตุรกียิงประตูแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ ในเกมลา ลีกาที่เรอัล มาดริด บุกชนะ กิโรนา 3-0 โดยตลอดช่วงเวลาส่วนใหญ่ของซีซัน กูแลร์ถูกใช้งานเป็นหลักในศึกโกปา เดล เรย์ และมีโอกาสลงสนามในลีกอย่างจำกัด

              อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายฤดูกาลเขาได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงในลา ลีกา สองนัดติดต่อกัน เริ่มจากวันที่ 23 เมษายน 2025 เมื่อเขาซัดประตูชัยพาเรอัล มาดริด เฉือนชนะ เกตาเฟ 1-0 พร้อมคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกม ก่อนจะสานต่อฟอร์มร้อนแรงในวันที่ 4 พฤษภาคม ด้วยผลงาน 1 ประตู 1 แอสซิสต์ ในเกมสุดมันที่ “ราชันชุดขาว” เอาชนะ เซลตา บีโก้ 3-2


ฤดูกาล 2025–26

              ภายหลังการเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนของ ชาบี อลอนโซ่ กูแลร์ ก็เริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้น และถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ โดยขยับมาเล่นในบทบาทกองกลางเป็นหลัก

              วันที่ 30 สิงหาคม 2025 เขายิงประตูแรกของฤดูกาลได้ ในเกมลา ลีกา ที่เรอัล มาดริด เปิดบ้านเอาชนะ มายอร์กา 2-1 พร้อมโชว์ฟอร์มโดดเด่นจนคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์


              ตลอดช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน กูแลร์ ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมอย่างชัดเจน ได้รับโอกาสออกสตาร์ตอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ผลงานอันยอดเยี่ยมจะส่งให้เขาคว้ารางวัล นักเตะอายุต่ำกว่า 23 ปียอดเยี่ยมแห่งลา ลีกา ประจำเดือนกันยายน หลังทำไป 2 ประตู และ 2 แอสซิสต์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ตอกย้ำสถานะดาวรุ่งอนาคตไกลของถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว อย่างแท้จริง

 

 

ทีมชาติตุรกี :

              อาร์ดา กูแลร์ เป็นอดีตนักเตะทีมชาติตุรกีในระดับเยาวชน ไล่ตั้งแต่รุ่นเล็กจนถึงทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ก่อนจะก้าวขึ้นสู่เวทีทีมชาติชุดใหญ่อย่างเต็มตัว โดยเขาลงประเดิมสนามนัดแรกให้ทีมชาติตุรกีชุดใหญ่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2022 ในเกมอุ่นเครื่องที่เอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก 2-1

              ดาวรุ่งจากเรอัล มาดริดรายนี้ ยิงประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้สำเร็จ ในเกมยูโร 2024 รอบคัดเลือก นัดพบกับ เวลส์ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2023 เริ่มต้นเส้นทางในทีมชาติชุดใหญ่ได้อย่างสวยงาม

ยูฟ่า ยูโร 2024 :

              กูแลร์ มีชื่อติดโผ 26 นักเตะทีมชาติตุรกี ชุดลุยศึกยูฟ่า ยูโร 2024 และแจ้งเกิดบนเวทีระดับทวีปได้อย่างยิ่งใหญ่ ตั้งแต่นัดเปิดสนามของทัวร์นาเมนต์

              เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2024 เขาคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังทำประตูช่วยให้ตุรกีเอาชนะ จอร์เจีย 3-1 ในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่ม พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะดาวรุ่งคนแรกที่ยิงประตูได้ตั้งแต่นัดประเดิมศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป นับตั้งแต่ คริสเตียโน โรนัลโด ทำได้เมื่อปี 2004

              จากประตูดังกล่าว ยังส่งให้ กูแลร์ กลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ศึกยูโรอีกด้วย และเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถทำประตูได้ ด้วยวัย 19 ปี 114 วัน ทำลายสถิติเดิมของคริสเตียโน โรนัลโด ลงอย่างเป็นทางการ


              ต่อมาในวันที่ 3 กรกฎาคม กูแลร์ ทำอีก 1 แอสซิสต์ ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ตุรกีเฉือนเอาชนะ ออสเตรีย 2-1 พร้อมพาทีมผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ และจากผลงานดังกล่าว เขากลายเป็นนักเตะวัยรุ่นเพียงรายที่สามในประวัติศาสตร์เท่านั้น ที่สามารถทั้งยิงประตูและทำแอสซิสต์ได้ในศึกยูโรครั้งเดียว ต่อจาก คริสเตียโน โรนัลโด และ เวย์น รูนีย์ ยิ่งตอกย้ำสถานะดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง


สไตล์การเล่น :

              อาร์ดา กูแลร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่ดีที่สุดของโลก ด้วยคุณสมบัติครบเครื่องในเกมรุก โดยเขาเป็นกองกลางตัวรุกถนัดเท้าซ้าย ที่สามารถขยับไปเล่นในตำแหน่งปีกได้เช่นกัน โดยเฉพาะฝั่งขวา ซึ่งเปิดโอกาสให้เจ้าตัวตัดเข้าในเพื่อสร้างอันตรายต่อแนวรับคู่แข่ง

              จุดเด่นของกูแลร์คือความเกินวัย ทั้งในด้านความนิ่งและการตัดสินใจในพื้นที่แคบ เขามีความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ซับซ้อนได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นเพลย์เมกเกอร์โดยธรรมชาติ ที่โดดเด่นทั้งการเลี้ยงบอล การมองเกม และความคิดสร้างสรรค์

              นอกจากนี้ เขายังมีคุณภาพในการจ่ายบอลที่แม่นยำกว่ามาตรฐานของนักเตะในวัยเดียวกัน รวมถึงทักษะทางเทคนิคที่โดดเด่นจากลูกตั้งเตะ ไม่ว่าจะเป็นฟรีคิกหรือการเปิดบอลจากลูกนิ่ง ทำให้ กูแลร์ ถูกมองว่าเป็นจอมทัพอนาคตไกล ที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับเกมได้ในทุกจังหวะสำคัญ

ADS