ประวัติ แอนนิก้า โซเรนสตัม

| 01/01/1970 07:00 น. | 691 Views

แอนนิก้า โซเรนสตัม

"แอนนิก้า โซเรนสตัม" ได้รับพรสวรรค์ทางด้านกีฬามาตั้งแต่ตอนที่เธอลืมตาขึ้นมาดูโลก เมื่อวันที่ 9 เดือนตุลาคม ปี 1970 พ่อ แม่ของเธอ เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์อย่างมากทางด้านกีฬา ไม่ว่าจะเป็นกีฬาเทนนิส วอลเลย์บอล และกอล์ฟ เธอเกิด และเติบโตขึ้นในสต๊อกโฮม ประเทศสวีเดน

การสร้างชื่อเสียงครั้งแรกของ แอนนิก้า ไม่ได้มาจากการเล่นกอล์ฟ แต่มาจากกีฬาเทนนิส แม้แต่ตอนที่ครอบครัวของเธอได้ย้ายไปลอนดอนตอนเธออายุ 10 ขวบ แอนนิก้า ก็ยังคงเล่นเทนนิสอย่างจริงจัง และเธอก็ได้ครองอันดับที่ 12 ในการแข่งขันระดับนักเรียน ช่วงที่เธอกลับไปยังบ้านเกิดของเธอ ไม่มีใจให้กับเทนนิสอีกต่อไป
 
ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น แอนนิก้า เริ่มต้นเรียนรู้อย่างช้าๆ ว่าพรสวรรค์ที่แท้จริงของเธอคือ กีฬากอล์ฟ ไม่ใช่เทนนิส คู่ต่อสู้ในกีฬาเทนนิสของ แอนนิก้า มักจะโจมตีจุดอ่อนในการเล่นช็อทแบคแฮนด์ของเธอ และพ่อแม่ของเธอ พยายามสนับสนุนให้เธอค้นหา ในสิ่งที่เธอรู้สึกกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ด้วยความช่วยเหลือ ของสนาม 18 หลุม ใกล้บ้านจนแอนนิก้า เริ่มที่จะรักในกีฬากอล์ฟมากขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้า Pia Nilsson ฑูตสมาพันธ์กอล์ฟหญิงแห่งประเทศสวีเดน ได้เล็งเห็นถึงพรสวรรค์ของ แอนนิก้า และช่วยเธอพัฒนาขบวนการในการเล่นช็อทที่ยาก
 
การพัฒนาเกมส์การเล่นของ แอนนิก้า เติบโตขึ้นหลังจากการดู Liselotte Neumann เพื่อนนักกอล์ฟชาวสวีเดน ชนะรายการ ยู.เอส.โอเพ่น ในปี 1988 การเริ่มต้นก้าวย่างในวงการกอล์ฟ ตอนที่เธออายุ 19 แอนนิก้า ได้รับการเปิดไฟเขียวให้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยของอริโซน่า ที่นั่น เธอได้เข้าร่วมสมาคมกอล์ฟอย่างรวดเร็ว ได้เข้าร่วมแข่งขันหลายรายการ และรอบชิงชนะเลิศตลอดทั้งปี ก่อนสำเร็จการศึกษาได้ลงแข่งขันรายการ ซึ่งมีนักกอล์ฟชาวอเมริกับ เข้าร่วมการแข่งขันรายการ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ในปี 1993 จบเป็นอันดับที่ 2 รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง และได้รับตำแหน่งเกียรติยศ "รุ๊คกี้ ออฟ เดอะ เยียร์" มาครอง สายตาของ แอนนิก้า ยังคงจับจ้องอยู่ที่รางวัล
 
อย่างไรก็ตามรายการ แอลพีจีเอ ทัวร์ ก็ยังคงเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สำหรับแอนนิก้า และเธอตั้งใจที่จะลงเล่นกับนักกอล์ฟชั้นนำ ความใฝ่ฝันของเธอกลายเป็นจริงในเดือนกุมภาพันธ์ 1994 เมื่อเธอได้รับอนุญาตให้เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ แม้ว่า จะเป็นการเริ่มต้นอย่างช้าๆบนรายการทัวร์ (ชัยชนะครั้งแรกของเธออันที่จริงมาจากการแข่งขันที่ไม่ใช่รายการ แอลพีจีเอ แอนนิก้า ได้แสดงการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เธอจบเป็นอันดับที่ 2 ที่รายการ Weetabix Women's British Open และ รายการอื่นๆ ซึ่งเธอมีฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจ เพียงพอที่จะเชิญชวนให้ทางรายการ แอลพีจีเอ มอบรางวัล Rolex Rookie of the Year ให้กับเธอ

รางวัลที่เธอได้รับเป็นรางวัลที่สมควรกับเธออย่างยิ่ง เพราะจากนั้น แอนนิก้า ได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการ ทัวร์ ปีต่อมาอย่างรวดเร็ว และนำชัยชนะอย่างเป็นทางการ บนรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งแรกกลับบ้าน รายการ ยู.เอส.โอเพ่น ชัยชนะในครั้งนี้คงจะเป็นจุดเริ่มต้นในการแสดงพรสวรรค์อันน่าเหลือเชื่อ ที่ยังคงพัฒนาขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แอนนิก้า คือนักกอล์ฟระดับแนวหน้า กับการเป็นผู้นำบนบัญชีเงินรางวัล
 
ในปี 1995 แอนนิก้า นำรางวัล "เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์" 2 รางวัลกลับบ้าน และได้รับเกียรติให้มีชื่อใน Sweden's Athlete of the Year ในปี 1996 เธอกลับมาเข้าร่วมการแข่งขันรายการ ยู.เอส.โอเพ่น ในฐานะแชมป์ และนำชัยชนะรายการอีก 2 รายการกลับบ้านอีกด้วย วงการกอล์ฟหญิงมีการตื่นตัวมากขึ้น พร้อมกับการพัฒนาของ แอนนิก้า และคู่แข่งคนใหม่ "แครี่ เวบบ์" นักกอล์ฟหญิงทั้งสองคน ช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น วงการกอล์ฟหญิงในทางที่ดีขึ้น

ชัยชนะยังคงมีมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปลายทศวรรษที่ 90 สำหรับ แอนนิก้า เธอชนะการแข่งขัน12 รายการ จากปี 1997 จนถึง 1999 และกลายเป็นผู้เล่น แอลพีจีเอ ที่ได้รับชัยชนะมากที่สุดของทศวรรษ แม้ว่าจะมีความยากลำบากอยู่บ้าง ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศรายการเมเจอร์ แต่ แอนนิก้า ก็มั่นใจว่าจะนำชัยชนะกลับบ้านได้ เธอทำลายสถิติพร้อมกับสะสมเงินรายได้จากการแข่งขันอาชีพจาก $5, $6, $7, และ.ในตอนนี้มีมูลยอดรวมเท่ากับ $11 ล้าน การร่วมทีมกับ ไทเกอร์ วู๊ดส์ เพื่อลงแข่งกับ แครี่ เวบบ์ และ เดวิด ดูวัล ที่ Bighorn ในปี 2001 เป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของรายการ แอลพีจีเอ และแสดงให้โลกรับรู้ว่า ผู้หญิงก็มีเกมส์การเล่นที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน
 
ในฤดูกาลปี 2002 เป็นปีที่โลกต้องตกตะลึง เมื่อ แอนนิก้า เข้าร่วมการแข่งขันตลอดช่วงปีที่ยาวนาน คว้าชัยชนะมาทั้ง และหมด 11 รายการ การแข่งขันที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุด เป็นการป้องกันตำแหน่งในรายการ Kraft Nabisco Championship (การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศรายการเมเจอร์รายการที่ 4 ของเธอ) เธอนำรางวัล Rolex Player of the Year ครั้งที่ 5 และถ้วยรางวัล Vare Trophy ใบที่ 5 กลับบ้านได้อีกครั้ง ทั้งยังทำลาย และสร้างสถิติขึ้นใหม่ในรายการ แอลพีจีเอ 20 ครั้ง รวมไปถึงการทำค่าเฉลี่ยคะแนนต่ำสุดเท่าที่เคยมีมา จึงไม่มีข้อสงสัยเหลืออยู่ ในการที่เธอเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อวงการกอล์ฟหญิง โดยมีผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังอย่างเช่น บริษัท Callaway Golf Mercedes และ Oakley ทั้งในอดีตและปัจจุบัน คงจะไม่มีอะไรหยุดเธอได้ การประลองฝีมือกับนักกอล์ฟชาย เป็นที่น่าประหลาดใจ

ในความสำเร็จเหล่านั้นที่มีอย่างมากมายกลับไม่ได้ทำให้ แอนนิก้า ลดความแรงของเธอลง เธอได้ผ่านการคัดเลือกให้ลงเล่นใน โคโลเนี่ยล ทัวร์นาเม้นท์ ของนักกอล์ฟชาย เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2003 และได้รับการพาดหัวข่าวมากกว่าเดิม ในฐานะนักกอล์ฟหญิงคนที่ 2 ที่พยายามลงแข่งขันในเกมส์ของผู้ชาย ( และคนแรกลงเล่น เมื่อเกือบ 60 ปีมาแล้ว) ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร ที่จะสามารถหยุดนักกอล์ฟชาวสวีเดนสาวสวยผู้นี้ได้ และพร้อมกันนั้นเธอยังมี David Esch สามีซึ่งยืนอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
 
ถึงแม้ว่า แอนนิก้า เคยถูกเรียกว่า "น่าเบื่อ"โดยใครบางคน เพราะภาวะที่ครอบงำและการไม่เปลี่ยนแปลงความปรารถนาอันแรงกล้าในการเอาชนะ เธอได้แสดงให้เห็นว่ามีสิ่งอื่นนอกเหนือจากกอล์ฟในชีวิตของเธอ เมื่อมีการชักชวน ให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนอกวงการกอล์ฟ เธอแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย ประกอบกับมีอารมณ์ขันที่ทุกคนไม่เคยเห็น เธอสวมบทบาทนักกีฬาอยู่ตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ไม่กลัวที่จะแสดงความคิดเห็นของเธอ
 

ADS