ประวัติ เมซุต โอซิล

| 01/01/1970 07:00 น. | 1982 Views

     อาร์แซน เวงเกอร์ ผู้จัดการทีมมาดละเมียดของอาร์เซนอล หนุน เมซุส โอซิล คว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปีหน้า แม้เขารู้สึกแอนตี้ต่อรางวัลนี้ก็ตาม

     ลิโอเนล เมสซี หอกอัจริยะของบาร์เซโลนาผงาดคว้ารางวัลบัลลงดอร์ประจำปีนี้ หลังได้รับคะแนนโหวตท่วมท้นเหนือ คริสเตียโน โรนัลโด้ และ เนย์มาร์ พร้อมทำสถิติซิวรางวัลไปครองเป็นสมัยที่ 5

     "ผมหวังอย่างนั้นนะ แต่อย่างที่ผมเคยบอกพวกคุณ ผมไม่ใช่แฟนของรางวัลนี้" เฮ้ดโค้ชชาวฝรั่งเศสตอบ หลังถูกสื่อถามว่าอยากเห็นโอซิลคว้าบัลลงดอร์ปีหน้าหรือไม่?

     "สิ่งสำคัญคือเราเป็นกีฬาประเภททีม มันจึงไม่มีเหตุผลสำหรับผมที่จะสนับสนุนความพยายามส่วนบุคคล"

     "เราอยู่ในสังคมที่ทุกอย่างเกี่ยวกับปัจเจกนิยม(เชื่อในประโยชน์ของแต่ละบุคคล) ดังนั้นการที่กีฬาประเภททีมมุ่งสู่จุดนั้น สำหรับผมมันขัดแย้งกับรากเหง้าของกีฬาของเราเล็กน้อย"

ประวัตินักกีฬา ประวัตินักฟุตบอลเมซุต โอซิลMesut Ozil,ฟุตบอล

 

ข้อมูลนักฟุตบอล

ชื่อ: เมซุต โอซิล (Mesut Ozil)

สัญชาติ : เยอรมัน

วันเกิด : 15 ตุลาคม 1988 (อายุ 24 ปี)

สถานที่เกิด : เกลเซนเคียร์เช่น, เยอรมันตะวันตก

ส่วนสูง : 183 Cm.

ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก

ต้นสังกัดปัจจุบัน : อาร์เซน่อล

 

ประวัตินักฟุตบอล

    เมซุต โอซิล เริ่มเตะฟุตบอลเมื่ออายุ 7 ขวบ และเพียง 13 ปีหลังจากนั้นก็ได้เป็นถึงแชมป์ยุโรป และมีคนรู้จักไปทั่วโลก ส่วนระดับสโมสร เนื่องจากเป็นคนพื้นที่เกลเซนเคียร์เช่น จึงเซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับสังกัด ชาลเก้ 04 แต่ฝ่ายหลังกลับไม่เลือกปั้นเขา เพราะตอนนั้นมี ลินคอล์น ชาวบราซิล เป็นจอมทัพ แถมผู้มาแทนคือ อิวาน ราคิติช ซึ่งพวกเขาซื้อมาจากสวิตเซอร์แลนด์ เมซุต โอซิล จึงต้องย้ายมา แวร์เดอร์ เบรเมน อีกค่ายหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงในการปั้นดาวรุ่งของวงการฟุตบอล

     เมซุต โอซิล มีการเล่นไม่ต่างจาก ดิเอโก้ ลูกพี่ของเขา เพราะครองบอลอย่างคล่องแคล่ว หาจังหวะขึ้นไปทำประตูได้ดี พร้อมลากบอลทะลุทะลวงกองหลังคู่แข่งตลอดเวลา ส่วนการจ่ายบอลแม่นถือเป็นเรื่องปกติของจอมทัพเบรเมนมาทุกยุคทุกสมัยอยู่ แล้ว ซึ่งน่าแปลกที่ทีมชาติเยอรมันกลับหาคนเล่นสไตล์นี้ไม่ได้ และต้องใช้ มิชาเอล บัลลัค ซึ่งเกิดจากการเป็นกองกลางเชิงรับ มาเล่นตัวรุกแทน แถมที่ผ่านมา แบร์นด์ ชไนเดอร์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ หรือ ลูคัส โพดอลสกี้ ก็ถูกจับให้ไปเล่นปีกมากกว่า

     เมซุต โอซิล ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ เรอัล มาดริด ในลาลีก้า สเปน และเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติเยอรมัน ดาวเตะเชื้อสายเติร์ก ไต่เต้ามาตั้งระดับเยาวชน ยู-19 เมื่อปี 2006 ก่อนจะมาโด่งดังสุดขีดในปี 2009 ซึ่งช่วยให้ "อินทรีเหล็ก จูเนียร์" ผงาดครองแชมป์ยูโร ยู-21 ได้สำเร็จ จากนั้นเจ้าตัวก็สร้างชื่อในทีมขาติชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง

     เมซุต โอซิล ยังเป็นตัวจักรสำคัญให้ เยอรมัน ในเวิลด์ คัพ 2010 แถมยังได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลทองเท้าทองคำในทัวร์นเมนต์ดังกล่าวอีกด้วย หลังจบศึกที่แอฟริกาใต้ กองกลางจอมเทคนิค ตัดสินใจโยกสังกัดไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในสเปน ในเดือนสิงหาคม 2010 มิดฟิลด์ตาโปน ปรับตัวเข้ากับ "ราชันชุดขาว" ได้อย่างรวดเร็ว เมซุต โอซิล จัดเป็นกองกลางที่ครบเครื่อง ทั้งความแข็งแกร่ง และเทคนิค จนถูกยกให้เป็น ซีเนอดีน ซีดาน คนใหม่แห่งถิ่นเบร์นาบิว

      เมซุต โอซิล เป็นเพลย์เมกเกอร์ที่มากความสามารถ ที่จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูมากสุดในยุโรป ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2010 โดยแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมยิงไป 47 ลูก และปัจจุบันได้ย้ายมาสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลด้วยค่าตัวราว 50 ล้านยูโร (ประมาณ 2,000 ล้านบาท) ในไม่กี่ชั่วโมงก่อนเส้นตายตลาดซื้อขายจะปิดตัวลง

 

เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพ

      เมซุต โอซิล เล่นในทีมเยาวชนมาหลายทีมแต่ได้มาอยู่ในทีมที่ดังจริงๆคือ ชาลเก้ 04 ในปี 2005 ทั้งที่อายุเพียง 17 ปี ในตำแหน่งกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม ซึ่งเจ้าตัวได้ลงมาแทน ลิคอล์น กองกลางของทีมที่ติดโทษแบน ในเกมลีก้า โพคาล ที่พบกับ เลเวอร์คูเซ่น จากนั้นในปี 2008 ในช่วงตลาดเปิดมกราคม เมซุต โอซิล ได้ย้ายทีมไปอยู่กับ แวร์เดอร์ เบรเมน ด้วยราคา 4.3 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 3 ปี และ ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟอร์มของเขาในศึกฟุตบอลโลก 2010 นั้นเข้าตาทุกสำนัก ท้ายที่สุดเขาก็ได้ย้ายไปสวมชุดขาวจากการดึงตัวของ โชเซ่ มูรินโญ่ ยอดกุนซือชาวโปรตุเกส

       เมซุต โอซิล ได้ถูกเรียกมาติดทีมชาติชุดอายุต่ำกว่า 17 ปี ตั้งแต่ปี 2006 จากนั้นในปีต่อมา ก็ก้าวกระโดดขึ้นไปติดทีมชาติชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี จนปี 2009 ได้ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติชุดใหญ่ในที่สุดในเดือน กุมภาพันธ์ ต่อมาในช่วงปิดฤูกาลปีเดียวกันเขาก็เป็นคีย์แมนพาทีมชาติ เยอรมันชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีเป็นจ้าวยุโรปด้วยการพิชิตอังกฤษไป 4-0 อย่างเด็ดขาด ขณะที่ฟอร์มการเล่นของเขากัราชันชุดขาว ก็ทำได้อย่างเนียนตาเล่นเข้ากับเหล่าสตาร์ระดับโลกกันได้อย่างลงตัว ด้วยทักษะการเลี้ยงบอลพร้อมความเร็ว อีกทั้งยังมีการจ่ายบอลที่เฉียบคมทะลุแผงหลังได้อย่างเด็ดขาด

     ในศึกฟุตบอลโลก 2010 เมซุต โอซิล ได้กลายเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติเยอรมัน แทนที่ของ มิชาเอล บัลลัค ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยกองกลางหน้าแขก โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ทำเกมได้อย่างเฉียบคมด้วยความเร็วของเขา และ ทักษะในการจ่ายบอลที่ร้ายกาจ

     เพียงชั่วข้ามคืนหลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทีมชาติ เมซุต โอซิล ก็กลายเป็นนักเตะที่มีผู้กล่าวถึงมากสุดในเยอรมัน คาดหมายกันไปต่างๆนานาว่าเขาอาจข่วยให้ประเทศแห่งนี้กลับมาประสบความสำเร็จ กันอีกครั้ง

     ในซีซั่น 2011-12 เมซุต โอซิล ได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อหมายเลข 10 และกลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกของ มูรินโญ่ ในตำแหน่งกลางรุก หลังจากที่ กาก้า เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน และฟอร์มตก จากนั้นวันที่ 14 สิงหาคม 2011 ดาวเตะเมืองเบียร์ ก็ทำประตูสำคัญในเกมกับบาร์เซโลน่า ซึ่งนับเป็นประตูแรกของเขาที่เจาะตาข่ายบาร์ซ่าได้ด้วย เมื่อฤดูกาลอันยาวนานจบลง เมซุต โอซิล ช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลา ลีก้า ในรอบหลายปีได้สำเร็จ พ่วงด้วยรางวัลผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูได้มากที่สุดถึง 17 ครั้ง

 

ADS