ประวัติ โนวัค โยโควิช

| 01/01/1970 07:00 น. | 499 Views

 

ชื่อเต็ม : โนวัค โยโควิช
วันเกิด : 22 พฤษภาคม 1987
เกิดที่ : เบลเกรด, ยูโกสลาเวีย
สัญชาติ : เซอร์เบีย
ส่วนสูง : 188 เซนติเมตร

 

ประวัติส่วนตัว

          โนวัค โยโควิช เกิดวันที่ 22 พฤษภาคม 1987 นักเทนนิสชาวเซอร์เบีย ปัจจุบันรั้งตำแหน่งมือวางอันดับหนึ่งของโลก ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโลกตลอดกาล

          โยโควิช คว้าแชมป์แกรนด์สแลมประเภทชายเดี่ยว 8 ครั้ง ยึดอันดับหนึ่งของโลกมาเป็นเวลานานกว่า 135 สัปดาห์ เป็นนักเทนนิสชาวเซอร์เบียรายแรกที่ได้แชมแกรนด์สแลมมากกว่าหนึ่่งครั้งในปีเดียว และเป็นนักเทนนิสชาวเซอร์เบียคนแรกที่รั้งอันดับหนึ่งของโลกมากกว่า 100 สัปดาห์

 

เส้นทางในอาชีพนักเทนนิส


2006 : แชมป์ เอทีพี แรก

 

 

          โยโควิช เทิร์นโปรในปี 2003 กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นอันดับท็อป 40 ของโลก หลังจากทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศครั้งแรก ในศึกเฟรนช์ โอเพ่น ปี 2006 และยังพาตัวเองไปถึงรอบ 4 ของรายการวิมเบิลดันในปีเดียวกัน

          3 สัปดาห์หลังจากวิมเบิลดัน โยโควิชคว้าแชมป์เอทีพีครั้งแรกในรายการ ดัตช์ โอเพ่น ที่เอเมอร์สฟอร์ท โดยเอาชนะ นิโคลัส มาสซู ในรอบชิงชนะเลิศแบบไม่เสียเลยแม้แต่เซ็ตเดียว และเอาชนะรายการที่สองของเส้นทางอาชีพในศึก โมเซลล์ โอเพ่น ที่ เมตซ์ ไต่ขึ้นไปอันดับท็อป 20 เป็นครั้งแรก

 

2007 : ทะลุถึงอันดับท็อป 10 ของโลก และเข้ารอบชิงเมเจอร์ครั้งแรก

 

 

          โยโควิช เริ่มต้นปี 2007 ด้วยการเอาชนะ คริส กุซซิโอเน่ ในรอบรองชนะเลิศรายการบริสเบน อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อนไปแพ้ในศึกออกเตรเลี่ยน โอเพ่น รอบ 4 ให้กับแชมป์ในตอนท้ายอย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ 3 เซ็ตรวด

          จากฟอร์มการเล่นของเขาในรายการมาสเตอร์ส ซีรี่ส์ที่ อินเดียน เวลล์ส และ คีย บิสเคย์น ที่ได้รองแชมป์ และแชมป์ตามลำดับ ทำให้เขาพุ่งขึ้นไปอยู่ในอันดับท็อป 10 ของโลก โยโควิช แพ้ที่อินเดียน เวลล์ส ในรอบชิงชนะเลิศให้กับ ราฟาเอล นาดาล แต่ก็ไปแก้แค้นคืนได้ที่ คีย์ บิสเคย์น ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนไปคว่ำ กีเญอร์โม่ คานาส ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ไปได้ในท้ายที่สุด

 

2008 : แชมป์เมเจอร์ครั้งแรก และเหรียญทองแดงโอลิมปิค

 

 

          โยโควิช ลงเล่นโอลิมปิคครั้งแรกในปี 2008 เขาและเนนัด ซิมอนยิช จับคู่ลงแข่งประเภทชายคู่ แต่ก็ตกรอบแรกโดยน้ำมือของคู่หูชาวเช็ค มาร์ติน แดมม์ และ พาเวล วิซเนอร์ ในส่วนของประเภทชายเดียว โยโควิชแพ้ในรอบรองชนะเลิศให้กับ ราฟาเอล นาดาล จากนั้นก็ไปเอาชนะ เจมส์ เบลค ผู้ที่แพ้จากรอบรองชนะเลิศอีกคู่หนึ่ง คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิคไปครอง

          หลังจากตระเวนเล่นหลายทัวร์นาเม้นต์ทั่วโลก โยโควิชเข้าร่วมศึก มาสเตอร์ส คัพ ส่งท้ายปีที่เซี่ยงไฮ้ ในรอบแรกแบบพบกันหมดเขาปราบ ฮวน มาร์ติน เดล ปอร์โต้ 3 เซ็ตรวด จากนั้นก็เอาชนะ นิโคลาย ดาวีเดนโก้ สามเซ็ตรวดเช่นกัน ก่อนแพ้ให้กับซองก้าในรอบสุดท้าย แต่เขาก็ได้เข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ เอาชนะ กิลล์ส ซิมง เข้าไปชิงกับ นิโคลาย ดาวีเดนโก้ คว้าแชมป์มาสเตอร์ส คัพ ได้ในท้ายที่สุด

 

2010 : คว้าแชมป์เดวิสคัพ และอันดับสองยูเอส โอเพ่น

 

 

          ในศึกยูเอส โอเพ่น ปี 2010 โยโควิชเกือบต้องแพ้เกมแรกให้กับ วิคเตอร์ ทรอยซ์กี้ แต่จากนั้นเขาก็เก็บชัยต่อเนื่องจาก ฟิลิปป์ เพ็ตซ์เนอร์, เจมส์ เบลค, มาร์ดี้ ฟิช และ กาเอล มงฟิลส์ สามเซ็ตรวดทุกคน ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศสี่ปีติดต่อกัน โดยเอาชนะ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ 5 เซ็ต เป็นการเก็บชนะครั้งแรกเหนือเฟเดอเรอร์ หลังจากพบกันมาถึง 4 ครั้งในรายการนี้ แต่สุดท้ายโยโควิชก็เข้าไปพ่ายนาดาลในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งแรกของนาดาลอีกด้วย

          ในปีเดียวกัน โยโควิชพาทีมชาติเซอร์เบียเข้ารอบสุดท้ายศึกเดวิส คัพ เอาชนะทีมชาติโครเอเชีย ตามด้วยทีมชาติเช็ค ก่อนเข้าชิงไปพบกับทีมชาติฝรั่งเศสที่มี กิลล์ส ซิมง และกาเอล มงฟิลส์ ก่อนเอาชนะคว้าแชมป์เดวิส คัพ ครั้งแรกให้ทีมชาติเซอร์เบียได้สำเร็จ ที่เมืองเบลเกรด

 

2011 : ทริปเปิ้ลแกรนด์สแลม พร้อมก้าวสู่อันดับหนึ่งของโลก

 

 

          โยโควิชคว้าแชมป์ได้ถึง 10 รายการในปี 2011 รวมถึง 3 รายการแกรนด์สแลม ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น, วิมเบิลดัน และยูเอส โอเพ่น แถมทำสถิติเอาชนะเงินรางวัลในซีซั่นเดียวมากที่สุดของ เอทีพี เวิร์ลด์ ทัวร์ ที่ 12 ล้านดอลลาร์ โยโควิชจบซีซั่นด้วยสถิติ ชนะ 70 แพ้ 6 และทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 ของโลกในช่วงสิ้นปี แต่หลังจบซีซั่นอันดับของเขาก็ตกลง เนื่องจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่หลัง

          พีท แซมพราส เคยกล่าวไว้ว่า ซีซั่น 2011 ของโยโควิชเป็นอะไรที่ดีที่สุดที่เท่าที่เคยเห็นมาในชีวิต โดยขนานนามมันว่า "หนึ่งในความสำเร็จที่ดีที่สุดในวงการกีฬาทุกประเภท" บอริส เบ็คเกอร์ บอกว่า "หนึ่งในปีที่ดีที่สุดจริงๆตลอดกาลของวงการเทนนิส" พร้อมเพิ่มเติมว่า "อาจไม่ใช่สถิติที่ดีที่สุด แต่เขาเอาชนะทั้งเฟเดอเรอร์ เอาชนะนาดาล เขาเอาชนะทุกคนที่เข้ามาท้าทายเขาในรายการใหญ่ๆของโลก" และสุดท้าย ราฟาเอล นาดาล ที่พ่ายให้กับโยโควิชรอบชิงชนะเลิศ 6 รายการ 3 พื้นสนาม นิยามประสิทธิภาพของโยโควิชไว้ว่า "น่าจะเป็นระดับสูงสุดของวงการเทนนิสเท่าที่ผมเคยเห็นมา"

 

2012 : กลับมาทวงบัลลังก์มือ 1 โลก

 

 

          ในศึกยูเอส โอเพ่น วันที่ 9 กันยายน โยโควิชเอาชนะ ดาบิด เฟร์เรร์ ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ก่อนไปพ่ายให้กับ แอนดี้ เมอร์เรย์ แบบสุดมันส์ 5 เซ็ต จากนั้นเขาก็เดินทางไปป้องกันแชมป์ ไชน่า โอเพ่น คว่ำ โจ วิลเฟรด ซองก้า 3 เซ็ตรวด สัปดาห์ต่อมาก็ได้โอกาสล้างแค้น เมอร์เรย์ เอาชนะได้ในศึก เซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส คว้าแชมป์ไปครองในท้ายที่สุด และจากการที่เฟเดอเรอร์ ถอนตัวในรายการปารีส มาสเตอร์ส โยโควิชก็การันตีการกลับคืนสู่บังลังก์มือ 1 ของโลกอีกครั้ง ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2012 เขาคว้าแชมป์เอทีพี เวิร์ลด์ ทัวร์ โดยเอาชนะเฟเดอเรอร์ได้ในรอบชิงชนะเลิศ ก่อนคว้าแชมป์ชายเดี่ยว ไอทีเอฟ เวิร์ลด์ แชมเปี้ยน 2012 จากสมาคมเทนนิสนานาชาติไปครอง

 

2013 : คว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งที่ 6

 

 


          โยโควิชเริ่มต้นปี 2013 ด้วยการเอาชนะ แอนดี้ เมอร์เรย์ ในรอบชิงชนะเลิศออสเตรเลียน โอเพ่น 2013 ทำสถิติชนะรายการนี้สามครั้งติดต่อกัน และเป็นการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งที่ 6 ในเส้นทางอาชีพของเขา สัปดาห์ต่อมาเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเซอร์เบีย ทำศึกเดวิส คัพกับทีมชาติเบลเยียม เอาชนะ โอลิวิเยร์ โรชัส 3 เซ็ตรวด ทำคะแนนให้ทีมชาติเซอร์เบียขึ้นนำ 2-0

 

2014: ครองแชมป์วิมเบิลดันครั้งที่ 2

 

 

          โยโควิช ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เฟรนช์ โอเพ่น 2014 เสียเพียง 2 เซต จาก 6 แมตช์ แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายให้กับนาดาลในเซตที่ 4 รอบชิงชนะเลิศ เป็นการแพ้ครั้งแรกของ โยโควิช จากการพบกัน 5 ครั้งหลังสุดของทั้งคู่ และในศึกวิมเบิลดัน 2014 โยโควิชเป็นฝ่ายเอาชนะ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในรอบชิงชนะเลิศ 5 เซ็ต กลับไปเป็นมือหนึ่งของโลกแทนที่ ราฟาเอล นาดาล

          ในเวิร์ลด์ ทัวร์ รอบสุดท้าย โยโควิชทำสถิติชนะในการแข่งขันแบบพบกันหมด 3 ครั้ง โดยเสียเพียงแค่ 9 เกมเท่านั้น สุดท้ายก็คว้าแชมป์ไปครองเนื่องจาก เฟเดอเรอร์ ถอนตัวก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เป็นแชมป์รายการที่ 7 ในปีนี้ และเป็นแชมป์เวิร์ลด์ ทัวร์ ครั้งที่ 4 ของเขา ทำให้เขารักษาอันดับมือ 1 ของโลกไว้ได้ก่อนจบซีซั่น

 

2015 : แชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น สมัยที่ 5

 

 

          โยโควิชเริ่มต้นซีซั่นด้วยรายการ กาตาร์ โอเพ่น ที่ โดฮา ที่ๆเขาเอาชนะสองรอบแรกโดยเสียเพียง 6 เกมเท่านั้น อย่างไรก็ตามเขาแพ้ให้กับ อิโว คาร์โลวิช ในรอบก่อนรองชนะเลิศ จากนั้นก็เดินทางไปแข่งออสเตรเลียน โอเพ่น ที่เอาชนะ 5 รอบแรกโดยไม่เสียเลยแม้แต่เซ็ตเดียว รอบรองชนะเลิศต้องทำศึกกับ สแตน วาวริงก้า ที่เอาชนะเขาได้ในปีก่อน โยโควิชโดนตีเสมอหลังจากขึ้นนำได้ 2 ครั้ง ก่อนจะกลับมาโชว์ฟอร์มโหดในเซ็ตสุดท้ายเอาชนะไปได้ในท้ายที่สุด เข้าไปชิงเป็นครั้งที่สามกับ แอนดี้ เมอร์เรย์ หลังจากต้องขับเคี่ยวกันถึงช่วงไทเบรคใน 2 เซตแรกของเขา โยโควิชก็หาฟอร์มเก่งเจอหลังเสิร์ฟพลาดหลายครั้งในช่วงเริ่มเซตที่ 3 เก็บชัยได้ในเซตที่ 4 คว้าแชมป์ไปครองแบบสุดมันส์

ADS