ประวัติ อเล็กซิส ซานเชซ

 

ชื่อเต็ม : อเล็กซิส อเลฆานโดร ซานเชซ ซานเชซ

วันเกิด : 19 ธันวาคม 1988 (อายุ 25 ปี)

เกิดที่ : โทโคพิลล่า , ประเทศชิลี

สัญชาติ : ชิลี

ส่วนสูง : 169 เซนติเมตร

ตำแหน่ง : กองหน้า , ปีก

สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซน่อล

 

ประวัติส่วนตัว

 

      อเล็กซิส ซานเชซ เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีม โคเบรลัว ตั้งแต่ชุดเยาวชนเมื่อปี 2004-2005 ก่อนจะขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลต่อมา ซึ่งเมื่อขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ อเล็กซิส ก็ได้กลายเป็นหัวใจหลักในแนวรุกของ โคเบรลัว ทันที ด้วยการลงเล่นให้กับทีมแรกในอาชีพการค้าแข้งของเขาไปทั้งหมด 47 นัด และยิงไปได้ 9 ประตู 

 

อูดิเนเซ่ (2006)

 

      วันที่ 21 เมษายน ปี 2006 สโมสรในศึกกัลโช่ ซีเรียอา ของอิตาลีอย่าง อูดิเนเซ่ ได้มาเห็นฟอร์มของ อเล็กซิส แล้วรู้สึกติดใจจึงติดต่อข้อซื้อตัวไปด้วยราคา 1.7 ล้านปอนด์ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ซานเชซ ก็ยังไม่ได้ไปโลดแล่นในเวทียุโรปในทันทีเพราะเขาถูก อูดิเนเซ่ ปล่อยให้กับทีม โคโล โคโล่ ทีมในลีกชิลี ยืมตัวไปจนจบฤดูกาล

 

โคโล โคโล่ (2006-2007) ยืมตัว

 

      อเล็กซิส ซานเชซ ลงเล่นเกมแรกให้กับทีมใหม่อย่างโคโลโคโล่ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2006 โดยในเกมนั้น โคโลโคโล่ เสมอกับ แอนโทฟากาสต้า ไป 1-1 และหลังจากนั้น วันที่ 29 ตุลาคม ซานเชซ ก็สามารถทำประตูแรกให้โคโลโคโล่จนได้ ในเกมที่เอาชนะ ยูนิเวอร์สิเดด เด ชิลี ไปได้ 4-2 ในตอนแรกนั้น อเล็กซิส เชื่อว่าตำแหน่งของเขาที่แท้จริงนั้นคือตำแหน่งปีกแต่ความคิดแบบนั้นของเขาต้องถูกเบรคไป เมื่อเขาโดนให้ลองได้รับความท้าทายใหม่ด้วยการสวมบทเป็นศูนย์หน้า ซึ่งเขาก็สามารถทำประตูได้ทันทีในเกมแรกที่โดนโยกมาเล่นในตำแหน่งนี้ โดยเป็นเกมที่พบกับ เดปอร์เตส ลา เซรีน่า และเสมอกันไป 4-4 หลังจากนั้นเขาก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนพาตัวเองเข้าไปติดทีมชาติชิลีในชุดยู-20ปี ชิงแชมป์โลกจนได้ ในขณะที่เขาเล่นอยู่กับโคโลโคโล่ในสถานะยืมตัวเขาได้ลงเล่นไปทั้งหมด 32 นัดและยิงไปได้ 5 ประตู

 

 

ริเวอร์ เพลท (2007-2008) ยืมตัว

 

      หลังจากหมดสัญญายืมตัวกับทางด้านโคโลโคโล่ในลีกของชิลี อเล็กซิส ซานเชซ ก็ยังคงไม่ได้ไปโลดแล่นอยู่ในยุโรปเช่ยเคยเพราะเขาถูก อูดิเนเซ่ สั่งให้ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อกับยักใหญ่ของลีกอาร์เจนติน่าอย่าง ริเวอร์ เพลตย์ ซึ่งขณะอยู่ที่อาร์เจนติน่า ซานเชซ ได้ลงเล่นไม่ค่อยสม่ำเสมอ แต่ก็ยังสามารถทำประตูให้อยู่ในเกณฑ์เดิมของเขาได้ โดย ซานเชซ ถูกส่งลงสนามไปทั้งหมด 23 นัดและยิงไปได้ทั้งหมด 4 ประตู

 

 

อูดิเนเซ่ (2008-2011)

 

      หลังจากที่ อูดิเนเซ่ ส่งไปเก็บประสบการณ์มา 2 ปี กับ 2 สโมสร อเล็กซิส ก็ได้มาโลดแล่นในเวทียุโรปในศึกกัลโช่ เซเรียอา ของอิตาลีจนได้ โดย ซานเชซ ได้กลับมาและได้เล่นร่วมกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง อิสล่า ด้วย ซานเชซ มาถึงเกมแรกก็สามารถพาทีมให้ชนะได้เลยในเกมช่วงปรีซีซั่นกับ บาสซาโน่ โดย อูดิเนเซ่ ถล่ม เอาชนะไปได้ 3-0 และแมนออฟเดอะแมตช์ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อเล็กซิส ซานเชซ นั่นเอง 14 กันยายน ซานเชซ ได้ลงเล่นเกมแรกในเซเรียอา และแพ้ให้กับยูเวนตุสไป 1-0 และนัดต่อไปเขาก็ยังช่วยทีมไม่ได้มากเมื่อแพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเวทียุโรปต่อทันที 19 ตุลาคม 2008 อเล็กซิส ยิงประตูแรกในสีเสื้อของอูดิเนเซ่และเป็นประตูแรกของเขาในเซเรียอาด้วย โดยเขาสามารถทำได้ในเกมที่พบกับ เลชเช่ หลังจากทำประตูแรกได้ประตูที่สองก็ตามมาอย่างต่อเนื่องในเกมที่พบกับโบโลญญ่าซึ่งเขาเป็นคนยิงประตูชัยในนาทีที่ 90 และสามารถคว้า แมนออฟเดอะแมตช์ ในเกมนี้ไปครองได้สำเร็จ

 

     

     ในฤดูกาลต่อมา อเล็กซิส กลายเป็นตัวหลักของอูดิเนเซ่ไปโดยปริยายด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของเขาช่วยพาต้นสังกัดไปได้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกโคปา เดเลย์ของอิตาลีได้สำเร็จ โดยในฤดูกาลนี้(2009-2010) อเล็กซิส ซัดไปทั้งหมด 5 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 32 นัด

      ฤดูกาลสุดท้ายของเขาในอิตาลี เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2011 ซานเชซ ระเบิดฟอร์มกดคนเดียว 4 ประตูในเกมที่ไล่ถล่มปาแลร์โม่ไป 7-0 ซึ่งเขาก็กลายเป็นนักเตะชาวชิลีคนแรกที่ทำประตูได้มากที่สุดในหนึ่งนัดของกัลโช่ เซเรียอา โดยได้ทำลายสถิติเก่าของนักเตะรุ่นพี่อย่าง มาร์เซโล่ ซาลัส และ อิวาน ซาโมราโน่ แถมในฤดูกาลนี้การจับคู่ในแดนหน้าของ ซานเชซ กับ ดิ นาตาเล่ ก็สามารถช่วยกันถล่มประตูในเซเรียไปได้ถึง 39 ประตู โดยเป็นรองแค่คู่กองหน้ามหาประลัยจากยูเวนตุสที่ทำกันไปได้ถึง 41 ประตู แต่ถึงอย่างไร ซานเชซ ก็สามารถคว้ารางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฤดูกาล 2011 ไปครองได้สำเร็จจากการโหวตผ่านเว็บไซด์ ฟีฟ่าดอทคอม รวมๆแล้ว อเล็กซิส ซานเชซ ลงเล่นให้อูดิเนเซ่ไปทั้งหมด 95 นัดและยิงไปได้ทั้งหมด 20 ประตู

 

บาร์เซโลน่า (2011-2014)

 

      20 กรกฏาคม 2011 สโมสร ''เจ้าบุญทุ่ม'' บาร์เซโลน่า ยอมควักเงินถึง 25 ล้านปอนด์ ในการดึงตัว อเล็กซิส ซานเชซ มาร่วมทัพ โดยทางด้าน อูดิเนเซ่ ก็ไม่สามารถปฏิเสธข้อเสนอนี้ได้เมื่อเจ้าตัวอย่าง อเล็กซิส แสดงท่าทีว่านี่มันเปรียบดั่งความฝันของเขา ซานเชซ ย้ายไปร่วมทัพ ''บาร์ซ่า'' โดยถือเป็นนักเตะชาวชิลีคนแรกที่ได้มาอยู่กับบาร์เซโลน่าอีกด้วย โดยกุนซือในตอนนั้นอย่าง เป็ป กวาดิโอล่า ก็ได้ออกมาชื่นชมดาวรุ่งรายนี้อย่างสารพัดและมองว่ามันเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีเยี่ยมที่สุดอีกคนหนึ่งของ ''เจ้าบุญทุ่ม'' หลังจากย้ายมาเกมแรก อเล็กซิส ซานเชซ ก็ต้องมาประสบปัญหากับอาการบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2011 ในเกมซุปเปอร์โคปาของสเปน เป็นการพบกันระหว่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด อเล็กซิส ได้รับอาการบาดเจ็บจากการปะทะกับ มาร์เซโล่ และทำให้ต้องโดนเปลี่ยนตัวออกไป อเล็กซิส กลับมาได้อีกครั้งหลังจากพักรักษาตัวไป 2 สัปดาห์ โดยกลับมาลงเล่นในฐานะตัวสำรอง ในเกมยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ 2011 โดยเกมนี้บาร์เซโลน่าสามารถเอาชนะไปได้ 2-0 อเล็กซิส ซานเชซ เปิดตัวเกมแรกในลาลีก้า ในเกมที่ ''บาร์ซ่า'' เปิดบ้านพบกับ บียาร์รีล และเกมนี้ อเล็กซิส ก็สามารถทำประตูแรกได้ในทันทีช่วยให้บาร์เซโลน่าถล่มไปได้ถึง 5-0 

 

     

          14 กุมภาพันธ์ 2012 ซานเชซ ทำประตูแรกให้กับบาร์เซโลน่าในศึกแชมป์เปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ ในเกมที่เอาชนะ ''ห้างขายยา'' ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ไป 3-1 และยังยิงต่อเนื่องในรอบถัดไปที่เจอกับ เบนฟิก้า ได้อีกด้วย อเล็กซิส ที่เป็นตัวหลักของ ''เจ้าบุญทุ่ม'' มาโดยตลอดมีส่วนสำคัญกับในทุกๆรายการที่ได้ลงเล่น โดยภายในระยะเวลา 3 ปี เขาลงเล่นให้บาร์เซโลน่าไปทั้งหมดถึง 88 นัดและยิงประตูไปได้แบบถล่มทลายถึง 39 ประตู

 

อาร์เซน่อล

 

      10 กรกฏาคม 2014 หลังจากโชว์ฟอร์มในศึกเวิลด์ คัพ 2014 ที่ประเทศบราซิล ได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้มีหลายทีมดังในยุโรปรุมจีบเขาเป็นอย่างมาก แต่ในที่สุดแล้ว ซานเชซ ก็ได้เลือกลงเอยกับ ''ไอ้ปืนใหญ่'' อาร์เซน่อล โดยค่าตัวคาดกันว่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ 30-35 ล้านปอนด์ โดย ซานเชซ ได้รับเสื้อหมายเลข 17 หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าของเดิมอย่าง มอนเรอัล ต้องย้ายไปสวมเสื้อเบอร์ 18 แทน 

 

 

 

อาร์เซน่อล (2014-2015)

 

          อเล็กซิส ซานเชซ 10 สิงหาคม ลงเล่นเกมเกมแรกอย่างเป็นทางการในการพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก คอมมูนิตี้ชิลด์ ก่อนเป็น อาร์เซน่อลชนะไป 3-0 ซานเชซ ยังคงโชว์ฟอร์มเทพเหมือนที่ผ่านมาเพราะลงนัดแรกในศึกพรีเมียร์ลีก ก็สามารถทำแอสซิสต์ได้ในเกมที่เอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 หลังจากนั้นวันที่ 27 สิงหาคม สามารถเบิกสกอร์แรกในสีเสื้อ อาร์เซน่อล เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ถัดจากนั้น 4 วันทำประตูแรกในลีกเกมเสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 

          4 มีนาคม หยุดสถิติไร้สกอร์ของตัวเองในรอบ 8 นัดลงได้ด้วยการทำประตูในเกมบุกเฉือน ควีนปาร์ค เรนเจอร์ 2-1 และทำได้ต่อเนื่องเกมเปิดบ้านทุบ ลิเวอร์พูล 4-1 และได้รับเลือก แมน ออฟ เดอะแมตช์ ในเกมนั้น วันที่ 18 เมษายน ยิง 2 ประตูช่วยให้ อาร์เซน่อล ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอล เอฟเอ คัพ 8 วันหลังจากนั้นเป็นผู้เล่นจากทีมปืนโตคนเดียวที่มีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมของ พีเอฟเอ

 

 

          วันที่ 30 เมษายน 2015 อเล็กซิส ซานเชซ ทำประตูครบ 25 ประตูในรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ที่ถล่ม แอสตัน วิลล่า ขาดลอย 4-0 ทำให้ ซานเชซ กลายเป็นผู้เล่นจากทีมชาติชิลีคนแรกที่ได้สัมผัสถ้วยใบนี้ นับตั้งแต่ปี 1952 ที่ จอร์จ โรเบลโด้ เคยทำไว้สมัยที่ค้าแข้งกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ภายใต้การลงเล่นเพียงแค่ฤดูกาลแรกเขาได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ อาร์เซน่อล

 

อาร์เซน่อล (2015-2016)

 

          อเล็กซิส ซานเชซ เริ่มต้นนัดแรกของฤดูกาลในฐานะตัวสำรองในเกมที่ อาร์เซน่อล เปิดบ้านพ่ายต่อ เวสต์แฮม 2-0 หลังจากนั้นเจ้าตัวไม่สามารถทำสกอร์ช่วยทีมเป็นเวลา 10 นัดด้วยกันก่อนมาระเบิดฟอร์มซัดแฮททริคแรกของตัวเองในสีเสื้อของปืนใหญ่เป็นฮีโร่ช่วยทีมถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 5-2 กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ทำแฮททริคใน 3 ลีกใหญ่ของยุโรปทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เซเรีย อา อิตาลี และ ลาลีก้า สเปน

 

          เนื่องจากเจ้าตัวประสบปัญหาอารการบาดเจ็บรบกวนทำให้ต้องหยุดพักไป ก่อนกลับมาได้อีกครั้งในวันที่ 30 มกราคม 2016 ฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 4 พบกับ เบิร์นลี่ย์ และสามารถทำประตูได้ด้วยและยังฟอร์มแรงต่อเนื่องด้วยการทำประตูในลีกอีกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมในเกม ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ กับ สเปอร์ส ไปแบบสุดมัน 2-2 แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถพาต้นสังกัดของเขามีถ้วยแชมป์ติดมือมาได้ โดยจบอันดับในลีกเป็นอันดับที่แต้มห่างจ่าฝูง เลสเตอร์ ซิตี้ ถึง 10 แต้ม

 

 

ทีมชาติชิลี

 

          ซานเชซ ขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2007 และสามารถยิงประตูได้ในเกมแรกที่อุ่นเครื่องกับ สวิตเซอร์แลนด์ ได้ทันที และหลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นตัวหลักของทีมชาติมาโดยตลอด ซานเชซ ฟอร์มกลับมาเป็นที่น่าจับตามองอีกครั้ง หลังจากระเบิดฟอร์มเทพในศึกเวิลด์ คัพ 2014 ที่ประเทศบราซิล ได้ยิงไปได้ทั้งหมด 2 ประตู และมีส่วนสำคัญในการพาชิลีทะลุเข้าไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ท้ายที่สุดก็ต้องพ่ายเจ้าภาพไปในการดวลจุดโทษหลังจากเสมอกันใน 90 นาที 1-1 อเล็กซิส ซานเชซ ติดทีมชาติชุดใหญ่ไปทั้งหมด 71 เกม ยิงไปได้ 24 ประตู

 

 

บอลโลก 2014

 

          วันที่ 13 มิถุนายน สามารถทำประและแอสซิสต์ได้ในเกมที่เอาชนะ ออสเตรเลีย 3-1 ช่วยทีมผ่านรอบ 16 ทีมได้เป็นสำเร็จก่อนโคจรมาเจอของหนักอย่างเจ้าภาพ บราซิล เกมนั้นเจ้าตัวทำประตูตีเสมอให้กับชิลีจนต้องมีการยิงจุดโทษเกิด ก่อจะเป็นเจ้าภาพที่แม่นมากกว่าเอาชนะไป ส่งผลให้ชิลี หยุดแค่รอบ 16 ทีมเท่านั้น

 

 

โคปาอเมริกา 2015

 

          ชิลี ทีมชาติของเขานั้นได้เป็นเจ้าภาพซึ่งนัดแรกของทัวร์นาเม้นนั้นเจ้าทำ 1 แอสซิสต์ช่วยทีมเอาชนะ เอกัวดอร์ 2-0 และกลับมาทำสกอร์ได้อีกครั้งในรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายเกมถล่ม โบลิเวีย 5-0 ส่งผลให้พวกเขาเข้ารอบโดยนั่งแท่นเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม รอบ 8 ทีมสุดท้ายเขาได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เกทเอาชนะอดีตแชมป์เก่าอย่าง อุรุกวัย รอบรองชนะเลิศทำอีก 1 แอสซิสต์ให้ทีมเฉือน เปรู 2-1 วันที่ 4 กรกฎาคมนัดชิงชนะเลิศเจอของหนักอย่าง อาร์เจนติน่า ก่อนเป็น ชิลี เอาชนะไปได้ในการดวลลูกจุดโทษและเป็น อเล็กซิส ซานเชซ เป็นคนยิงประตูปิดกล่องไป ฉลองชัยในบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่