ประวัติ โตนาลี่ จอมทัพขับเคลื่อนแดนกลางของสาลิกา

 

ชื่อเต็ม : ซานโดร โตนาลี (Sandro Tonali)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 8 พฤษภาคม ปีค.ศ. 2000
ส่วนสูง : 1.81 ซม.
ตำแหน่ง : กองกลาง
สโมสรปัจจุบัน : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

            ซานโดร โตนาลี คือ เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2000 ที่เมือง โลดี ประเทศอิตาลี และเติบโตที่ ซานต์อันเจโล โลดิเจียโน โดยเป็นแฟนบอลตัวยงของ เอซี มิลาน มาตั้งแต่วัยเด็ก เส้นทางลูกหนังระดับเยาวชนของเขาเริ่มต้นกับทีม ลอมบาร์เดีย อูโน ก่อนย้ายไปเก็บประสบการณ์กับ เปียเชนซา และในปี 2012 โตนาลีได้เข้าร่วมอะคาเดมีของ เบรสชา ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพนักฟุตบอล

            ซึ่งที่เบรสชานี่เองที่เขาถูกปรับบทบาทจากกองหน้ามาเล่นในตำแหน่ง เรจิสตา หรือมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกมจากแดนลึก และการเปลี่ยนตำแหน่งครั้งนี้เองที่ปลดล็อกศักยภาพของเขาอย่างเต็มที่ จนกลายเป็นจอมทัพอนาคตไกลของวงการลูกหนังอิตาลี

            โตนาลีประเดิมสนามในระดับอาชีพกับเบรสชาเมื่ออายุเพียง 17 ปี และมีส่วนสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ เซเรีย บี ฤดูกาล 2018–19 ก่อนจะก้าวขึ้นสู่เวทีลูกหนังระดับสูงอย่างเต็มตัวเมื่อได้โอกาสย้ายมาอยู่กับ เอซี มิลาน ในปีถัดมาโดยเริ่มจากสัญญายืมตัว ก่อนจะกลายเป็นกำลังหลักของทีม ลงสนามรวมทุกรายการถึง 130 นัด และเป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าแชมป์ กัลโช เซเรีย อา ฤดูกาล 2021–22 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกครั้งแรกของสโมสรในรอบกว่าทศวรรษ

            กระทั่งในปี 2023 โตนาลีก็สร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการลูกหนัง เมื่อย้ายไปร่วม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยค่าตัวราว 70 ล้านยูโร ทำให้เขากลายเป็น นักเตะอิตาลีที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์

เส้นทางค้าแข้งระดับสโมสร

เบรสชา :

            ซานโดร โตนาลี ประเดิมสนามอาชีพกับ เบรสชา เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2017 ขณะอายุเพียง 17 ปี โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในเกมเซเรีย บี นัดบุกไปแพ้ อาเวลลิโน 1-2 ถือเป็นก้าวแรกบนเส้นทางลูกหนังอาชีพของเจ้าตัว

            ต่อมาในวันที่ 28 เมษายน 2018 โตนาลีทำประตูแรกในอาชีพได้สำเร็จ แม้จะเป็นเกมที่เบรสชาแพ้ ซาแลร์นิตานา 2-4 ในศึกเซเรีย บี ฤดูกาล 2017–18 ซึ่งฤดูกาลแรกของเขาในฐานะนักเตะอาชีพนั้น โตนาลีลงเล่นรวม 19 นัดในลีก ยิงได้ 2 ประตู พร้อมทำ 2 แอสซิสต์ โชว์แววเด่นเกินวัย

            ฤดูกาลถัดมา 2018–19 โตนาลีก้าวขึ้นมาเป็น ตัวหลักเต็มตัวให้กับ เบรสชา และมีบทบาทสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ เซเรีย บี พร้อมเลื่อนชั้นกลับสู่เวที เซเรีย อา ได้อย่างยิ่งใหญ่

            จากนั้นเจ้าตัวได้ประเดิมสนามบนลีกสูงสุดของอิตาลีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2019 ในวัย 19 ปี ในเกมที่เบรสชาบุกเอาชนะ กายารี 1-0 ต่อมาในวันที่ 29 กันยายน โตนาลีโชว์คลาสด้วยการเปิดเตะมุมให้ มาริโอ บาโลเตลลี โหม่งทำประตูในเกมบุกแพ้ นาโปลี 1-2 และยังเคยซัดไกลนอกกรอบอย่างสุดสวยเข้าประตูไปแล้ว แต่ถูก VAR ริบคืน เนื่องจากมีจังหวะฟาวล์ก่อนหน้า

            กระทั่งวันที่ 26 ตุลาคม เขาทำประตูแรกในศึกเซเรีย อา ได้สำเร็จ จากลูกฟรีคิกระยะไกลฝั่งซ้าย ปั่นเสียบสามเหลี่ยมอย่างหมดจด แม้สุดท้ายเบรสชาจะบุกไปแพ้ เจนัว 1-3 ก็ตาม แต่ประตูดังกล่าวก็ยิ่งตอกย้ำชื่อของโตนาลีในฐานะมิดฟิลด์ดาวรุ่งอนาคตไกลของอิตาลีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เอซี มิลาน ฤดูกาล 2020–2021 : สัญญายืมตัว

            ด้วยผลงานที่โดดเด่นทำให้ในวันที่ 9 กันยายน 2020 ซานโดร โตนาลี ได้ย้ายมาร่วมทัพ "รอสโซเนรี่" เอซี มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล ค่าธรรมเนียมยืมตัว 10 ล้านยูโร พร้อมออปชันซื้อขาดที่ 15 ล้านยูโร และโบนัสเพิ่มเติมอีกสูงสุดถึง 10 ล้านยูโร โดยเจ้าตัวรับค่าเหนื่อยปีละ 2 ล้านยูโร ตามสัญญาระยะยาว 5 ปี

            เพียง 3 วันหลังเปิดตัว โตนาลีก็ได้ลงสนามนัดแรกในสีเสื้อ "ปีศาจแดงดำ" แบบไม่เป็นทางการ ในเกมอุ่นเครื่องที่สนาม มิลาเนลโล พบกับ เบรสชา อดีตต้นสังกัดของเขานั่นเอง

            การประเดิมสนามอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2020 ในศึก ยูโรป้า ลีก รอบคัดเลือกรอบสอง โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 83 และมีส่วนช่วยให้มิลานเอาชนะ แชมร็อก โรเวอร์ส 2-0

            ส่วนการลงเล่นในเวที กัลโช เซเรีย อา นัดแรกกับมิลาน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2020 ในเกมเปิดบ้านชนะ โบโลญญา 2-0 ที่สนาม ซาน ซิโร โดยโตนาลีลงมาเล่นในช่วง 13 นาทีสุดท้ายของเกม

            ตลอดฤดูกาล 2020–21 มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีรายนี้ลงสนามให้มิลานรวม 37 นัด และได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงถึง 23 เกม ค่อยๆ พัฒนาบทบาทของตัวเอง จนกลายเป็นกำลังสำคัญในแดนกลางของทีม

ฤดูกาล 2021–2022 : แชมป์กัลโช เซเรีย อา

            เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2021 เอซี มิลาน ตัดสินใจใช้ออปชันซื้อขาด ซานโดร โตนาลี มาจากเบรสชาอย่างเป็นทางการ พร้อมจับเซ็นสัญญาระยะยาว 5 ปี โดยที่เจ้าตัวยอมลดค่าเหนื่อย เพื่อสานฝันในวัยเด็กกับสโมสรที่เขาเชียร์มาตั้งแต่เยาว์วัย การตัดสินใจครั้งนี้สร้างความประทับใจให้แฟนบอลมิลานอย่างมาก และได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามในโลกโซเชียล

            โตนาลีทำประตูแรกในสีเสื้อ "รอสโซเนรี" ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2021 จากลูกฟรีคิกสุดสวยในเกมถล่ม กายารี 4-1 เป็นประตูเบิกสกอร์ของเกม

            ต่อมาในวันที่ 3 ตุลาคม ที่สนาม เกวิสส์ สเตเดี้ยม เกมบุกเยือน อตาลันตา โตนาลีโชว์ความดุดัน แย่งบอลจาก เรโม ฟรอยเลอร์ ก่อนลากเข้าไปซัดประตูที่สอง พามิลานคว้าชัยสุดมัน 3-2

            วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2022 เขาแอสซิสต์ให้ ราฟาเอล เลเอา ทำประตูในเกมพบ อูดิเนเซ พร้อมสร้างสถิติเป็น กองกลางอายุน้อยที่สุด ที่ทำได้มากกว่า 1 ประตู (2 ประตู) และมากกว่า 1 แอสซิสต์ (2 แอสซิสต์) ในเซเรีย อา ฤดูกาลนั้น

            ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล โตนาลีกลายเป็นฮีโร่หลายครั้ง
– วันที่ 24 เมษายน ในเกมพบ ลาซิโอ ขณะสกอร์กำลังจะจบที่ 1-1 เขาซัดประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พามิลานคว้า 3 แต้มล้ำค่า และยึดตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป

– วันที่ 8 พฤษภาคม 2022 ซึ่งตรงกับวันเกิดครบ 22 ปี ของเจ้าตัว โตนาลีเหมาคนเดียว 2 ประตู ทั้งลูกตีเสมอและประตูชัย ในเกมบุกชนะ เวโรนา 3-1

            ชัยชนะนัดดังกล่าวส่งมิลานกลับขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง หลังจากเสียตำแหน่งให้ อินเตอร์ ไปเพียง 48 ชั่วโมง ในการลุ้นแชมป์ที่สูสีที่สุดฤดูกาลหนึ่ง และยังทำให้โตนาลีกลายเป็น กองกลางอายุน้อยที่สุดที่ยิงได้อย่างน้อย 5 ประตูในเซเรีย อา ฤดูกาลนั้น (และอายุน้อยเป็นอันดับสองของผู้เล่นทั้งหมด รองจาก อารอน ฮิคกี้ย์ ของโบโลญญา)

            กระทั่งวันที่ 22 พฤษภาคม 2022 มิลานบุกถล่ม ซาสซูโอโล 3-0 การันตีแชมป์ สคูเด็ตโต้ ครั้งแรกของสโมสรในรอบ 11 ปี โดยตลอดฤดูกาล โตนาลีลงสนามไป 36 นัด ยิงได้ 5 ประตู และทำ 3 แอสซิสต์

            ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขาทำให้ได้รับคำชื่นชมจากกูรูฟุตบอลอิตาลีระดับตำนาน ไม่ว่าจะเป็น เปาโล ดิ คานิโอ, โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ และ ฟาบิโอ คาเปลโล ซึ่งรายหลังถึงกับกล่าวว่า

            "โตนาลีมีดีพอจะยืนเป็นตัวจริงได้ แม้ในทีมมิลานยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอดีต"


นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด :

            ด้วยผลงานสุดแข็งแกร่งกับ เอซี มิลาน ทำให้ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2023 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศคว้าตัว ซานโดร โตนาลี มาร่วมทีมด้วยสัญญาระยะยาว 5 ปี แม้ไม่เปิดเผยค่าตัวอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานว่าอยู่ที่ราว 70 ล้านยูโร ซึ่งทำให้เขากลายเป็น นักเตะอิตาลีที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปโดยปริยาย

            โตนาลีประเดิมสนามให้ทัพ "สาลิกาดง" ครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ในเกมเทสติโมเนียลของ อัลลัน แม็คเกรเกอร์ พบกับ เรนเจอร์ส ก่อนจะสร้างความประทับใจทันทีในเกมพรีเมียร์ลีกนัดเปิดตัว วันที่ 12 สิงหาคม เมื่อซัดประตูแรกของเกมช่วยให้นิวคาสเซิลเปิดบ้านถล่ม แอสตัน วิลลา 5-1

            อย่างไรก็ตาม เส้นทางกับทีมใหม่ต้องสะดุดลง เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2023 สโมสรออกแถลงการณ์ว่า โตนาลีกำลังถูกสอบสวนโดย อัยการอิตาลี และ สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี จากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเล่นพนันผิดกฎหมาย ก่อนที่ในวันที่ 26 ตุลาคม เขาจะถูกสั่งแบนห้ามลงเล่นฟุตบอล 10 เดือน จากการละเมิดกฎการพนันของอิตาลี ซึ่งรวมถึงการบำบัดฟื้นฟูปัญหาการติดพนันเป็นเวลา 8 เดือนอีกด้วย

            บทลงโทษดังกล่าวทำให้โตนาลีต้องพลาดการลงสนามตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล 2023–24 รวมถึงศึก ยูโร 2024 ไปอย่างน่าเสียดาย

            ต่อมาในเดือนมีนาคม 2024 เขายังถูกตั้งข้อหาเพิ่มเติมจาก สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) ในความผิดเกี่ยวกับการพนัน โดยถูกกล่าวหาว่าวางเดิมพันในเกมฟุตบอลช่วงระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม ถึง 12 ตุลาคม 2023 และในเดือนพฤษภาคม FA ได้ลงโทษเพิ่มด้วยการแบน อีก 2 เดือนแบบรอลงอาญา พร้อมอนุญาตให้เขากลับมาลงเล่นได้ในเดือนสิงหาคม 2024 ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องไม่มีความผิดซ้ำในฤดูกาล 2024–25

            หลังพ้นโทษแบน โตนาลีกลับมาลงสนามอีกครั้งเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2024 ในเกม อีเอฟแอล คัพ รอบสาม นัดเสมอ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 1-1 โดยเล่นไป 61 นาที ซึ่งเป็นการลงสนามครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน

            อีกเพียง 4 วันถัดมา เขาก็กลับมาสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ด้วยการลงเป็นตัวสำรองแทน ฌอน ลองสตาฟฟ์ ในนาทีที่ 68 และช่วยทีมเปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 2-1

            จุดสูงสุดกับนิวคาสเซิลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2025 เมื่อโตนาลีลงเล่นครบ 90 นาที ในนัดชิงชนะเลิศ อีเอฟแอล คัพ 2025 และเป็นหนึ่งในทีมชุดประวัติศาสตร์ที่พาสโมสรคว้า แชมป์รายการในประเทศครั้งแรกในรอบ 70 ปี โดยก่อนหน้านั้น เขายังยิง 2 ประตู ในรอบก่อนรองชนะเลิศ พบกับ เบรนท์ฟอร์ด มีส่วนสำคัญในการพาทีมทะลุถึงรอบชิง

            ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2025 มีรายงานว่า โตนาลีได้ต่อสัญญากับนิวคาสเซิลไปแล้วตั้งแต่ช่วงถูกแบน โดยขยายสัญญาออกไปจนถึงปี 2029 พร้อมออปชันขยายเพิ่มอีก 1 ปีถึง 2030 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่สโมสรยังมีต่อมิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีรายนี้อย่างเต็มเปี่ยม

 

ทีมชาติอิตาลี :

            ซานโดร โตนาลี เริ่มสร้างชื่อในระดับทีมชาติจากชุดเยาวชน โดยกับทีมชาติอิตาลี รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เขาเป็นหนึ่งในขุนพลชุดลุยศึก ชิงแชมป์ยุโรป ยู19 ปี 2018 และพาทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนจะพ่ายให้กับ โปรตุเกส 3-4 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ อย่างน่าเสียดาย

            วันที่ 21 มีนาคม 2019 โตนาลีได้ประเดิมสนามกับทีมชาติอิตาลี รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในเกมอุ่นเครื่องที่เสมอกับ ออสเตรีย 0-0 ที่เมืองตรีเอสเต ก่อนจะมีชื่อติดทีมลุยศึก ชิงแชมป์ยุโรป ยู21 ปี 2019 ในเวลาต่อมา

            ด้วยผลงานที่โดดเด่นในระดับสโมสรทำให้ในเดือนพฤศจิกายน 2018 เขาได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติอิตาลี ชุดใหญ่ เป็นครั้งแรกจาก โรแบร์โต มันชินี กุนซือใหญ่ของทัพอัซซูรีในขณะนั้น จากนั้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2019 หลังจากลงเล่นให้ทีม ยู21 ในเกมคัดเลือกที่เสมอกับ ไอร์แลนด์ 0-0 โตนาลีก็ถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่อีกครั้งในวันถัดมา เพื่อเตรียมลงทำศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือก พบกับ กรีซ และ ลิกเตนสไตน์

            การประเดิมสนามกับทีมชาติชุดใหญ่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2019 โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองในเกมบุกถล่ม ลิกเตนสไตน์ 5-0 ที่เมืองวาดุซ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางรับใช้ชาติของมิดฟิลด์ดาวรุ่งรายนี้

            เพียงหนึ่งเดือนถัดมา วันที่ 15 พฤศจิกายน โตนาลีได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงให้ทีมชาติอิตาลีครั้งแรก ในเกมบุกเอาชนะ บอสเนียฯ 3-0 ในรายการเดียวกัน ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะดาวรุ่งที่ถูกจับตามอง และหนึ่งในอนาคตของแดนกลางทัพอัซซูรี

สไตล์การเล่น :

            ซานโดร โตนาลี ถูกสื่ออิตาลียกย่องมาโดยตลอดว่าเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดของประเทศ โดยกูรูฟุตบอลจำนวนมากนิยามเขาในบทบาทของ “เรจิสตา” หรือมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกมจากแดนลึก แม้แท้จริงแล้วเขาจะเป็นกองกลางที่เล่นได้หลากหลายบทบาท ก็ตาม

            ในช่วงวัยเยาว์ โตนาลีมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับ อันเดรีย ปีร์โล ตำนานกองกลางทีมชาติอิตาลี ซึ่งเริ่มต้นอาชีพกับเบรสชาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเคลื่อนที่ การประสานงานร่างกาย บุคลิกในสนาม คุณภาพทางเทคนิค ตำแหน่งการเล่น ไปจนถึงสไตล์การคุมเกมจากแดนกลาง

            โตนาลีเป็นมิดฟิลด์ที่ แข็งแกร่ง รวดเร็ว มีพลังล้นเหลือ และเล่นได้อย่างสง่างาม ผสานความคิดสร้างสรรค์ วิสัยทัศน์ในสนาม และความสามารถในการอ่านเกมได้อย่างยอดเยี่ยม โดยตำแหน่งถนัดคือมิดฟิลด์ตัวกลางหรือมิดฟิลด์ตัวรับ ในบทบาทเพลย์เมกเกอร์แดนลึกของระบบ 4–3–3

            สมัยค้าแข้งกับเบรสชา เขาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของเกมแดนกลาง ใช้การผ่านบอลเป็นอาวุธหลักในการขับเคลื่อนทีม ซึ่งในฤดูกาล 2017–18 ศึกเซเรีย บี โตนาลีทำได้ 2 ประตู และ 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 19 นัด แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลต่อเกมตั้งแต่อายุยังน้อย และถึงแม้จะถนัดเท้าขวาโดยธรรมชาติ แต่โตนาลีขึ้นชื่อเรื่องการวางบอลยาวที่แม่นยำ ทั้งสองเท้า รวมถึงความสามารถในการรับหน้าที่ ลูกตั้งเตะ ไม่ว่าจะเป็นฟรีคิกหรือเตะมุม

            นอกจากเกมรุก ความขยันและความดุดันในเกมรับยังทำให้เขาสามารถเล่นเป็นมิดฟิลด์ บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ ได้เช่นกัน ขณะที่ความคิดสร้างสรรค์ การหาพื้นที่ การสอดขึ้นทำเกมช้า–เร็ว และการพาบอลขึ้นหน้า ทำให้เขาเคยถูกใช้งานในบทบาทที่สูงขึ้นภายใต้การคุมทีมของ สเตฟาโน ปิโอลี กับเอซี มิลาน ในตำแหน่ง เมซซาลา (กองกลางกึ่งปีก)

            นอกเหนือจากปีร์โลแล้ว โตนาลียังยกให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด และ ลูกา โมดริช เป็นแรงบันดาลใจในเส้นทางลูกหนังของเขา และเจ้าตัวยังเคยเปรียบสไตล์การเล่นของตัวเองกับ เจนนาโร กัตตูโซ ในแง่ของความทุ่มเทและหัวใจนักสู้

            ด้วยศักยภาพทั้งหมดนี้ ทำให้ในเดือนกรกฎาคม 2019 ยูฟ่า ยกชื่อซานโดร โตนาลีให้เป็นหนึ่งใน 50 ดาวรุ่งน่าจับตามองของฤดูกาล 2019–20 ตอกย้ำสถานะของเขาในฐานะกองกลางอนาคตไกลของวงการฟุตบอลยุโรป