ประวัติ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

| 01/01/1970 07:00 น. | 407 Views

หริด ยักไหล่! ผมไม่แยแสความร้อนแรงของ เคน แม้แต่น้อย

     แดเนียล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกจอมเซิ้งทีมชาติอังกฤษออกมาเผยว่า ตัวเขาไม่แยแสว่าจะหลุดจากการเป็นตัวจริงในทีมชาติ แม้หัวหอกรุ่นน้องอย่าง แฮร์รี่ เคน กำลังฟอร์มฮอตแบบสุด ๆ กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ก็ตาม

     เดมี่ เมล์ ได้เผยบทสัมภาษณ์ของ สเตอร์ริดจ์ ว่า " ทำไมผมต้องคอยจ้องมองความงามของผู้อื่นหรือความสำเร็จเหล่านั้นด้วย มันไม่สำคัญสำหรับผมเลย ผมจำเป็นต้องใส่ใจกับมันหรือเปล่า ? "

     " เมื่อคุณเอาแต่จ้องมองคนอื่น คุณก็ไม่เป็นอันทำอะไรในชีวิตของคุณ สิ่งที่ แฮร์รี่ เคน ทำได้ดีมันจะทำให้ตัวเขาประสบความสำเร็จได้ แต่ผมจะไม่ไปเฝ้าดูสิ่งที่เขาทำ ผมแค่ต้องเชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้น "

     ปัจจุบัน แฮร์รี่ เคน สามารถถล่มประตูในลีกถึง 16 ประตู จากโอกาสลงสนามเพียง 18 นัด เท่านั้น และมีโอกาสที่ รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษจะส่งเขาลงสนามเป็นตัวจริงในเกมทีมชาติที่จะถึงนี้ด้วย

 ชื่อเต็ม : แดนี่ยล อังเดร สเตอร์ริดจ์ 

สัญชาติ : อังกฤษ
วันเกิด  : 1 กันยายน 1989
ส่วนสูง : 185 เซ็นติเมตร
น้ำหนัก : 76 กก
หมายเลขเสื้อ : 23
สโมสรเดิม : แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี 
ต้นสังกัดปัจจุบัน : ลิเวอร์พูล 
ตำแหน่ง : กองหน้า

Sturridge v Arsenal (cropped).jpg
 
    แดนี่ยล อังเดร สเตอร์ริดจ์ เกิดเมื่อวันที่ 1 กันยายน 1989 ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับโสมสรลิวเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า ถิ่นกำเนิดของเจ้าตัวอยู่ที่เบอร์มิงแฮม เป็นหลานชายแท้ๆของ ดีน สเตอร์ริดจ์ อดีตหัวหอกดาร์บี้ เคาน์ตี้ ทั้งนี้ แดนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เคยเป็นนักเตะระดับเยาวชนของแอสตัน วิลล่า ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ โคเวนทรี และเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับแมนฯ ซิตี้ ในปี 2003 ซึ่งกองหน้าผิวสีโชว์ผลงานในระดับเยาวชนให้กับ "เรือใบสีฟ้า" ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการพาทีมเข้าชิงเอฟเอ ยูธ คัพ ถึงสองสมัย 
 
    สเตอร์ริดจ์ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 2007/08 ในเดือนมกราคมภายใต้การคุมทีมขอสเวน โกรัน อีริคสัน เขาทำประตูได้ 2 ประตูภายในเวลาห่างกันเพียง 4 วัน รวมถึงประตูตีเสมอดาร์บี้ ที่ช่วยให้ทีมได้คะแนนกลับออกมา
 
 อย่างไรก็ตาม หลังจากหมดสัญญากับแมนเชสเตอร์ซิตี้เมื่อกลางปี 2009 สเตอร์ริดจ์ วัย 20 ปีในขณะนั้นเลือกที่จะมาพัฒนาฝีเท้ากับเชลซี โดย "สิงห์บลูส์" ยอมควักกระเป๋าจ่ายเป็นเงิน 3.5 ล้านปอนด์และเพิ่มขึ้นเป็น 6.5 ล้านปอนด์ขึ้นอยู่กับจำนวนเกมที่เขาลงเล่นให้ต้นสังกัด และทีมชาติอังกฤษ และ กองหน้าเท้าซ้ายเริ่มสร้างผลงานในทีมชุดใหญ่ด้วยการทำ 4 ประตูจากการลงสนาม 3 นัดในเอฟเอคัพกับวัตฟอร์ด เปรสตัน นอร์ธเอนด์ และคาร์ดิฟฟ์ ในเดือนมกราคมปี 2010 เขายังได้รับการโหวตให้เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสรในปีนั้นด้ว 

 
   วันที่ 31 มกราคม 2011 สเตอร์ริดจ์ ถูกปล่อยให้ โบลตัน ยืมตัวไปใช้งานจน หลังจากย้ายไปอยู่กับ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" ได้เพียง 2 วัน ดาวยิงจอมลีลาก็ได้ลงสนามอย่างรวดเร็ว  และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนบอลโบลตัน ต้องผิดหวัง เมื่อเขาจัดการซัด 4 ประตู จากการลงเล่นในช่วง 4 เกมแรกที่พบกับ วูล์ฟส์, สเปอร์ส, เอฟเวอร์ตัน และนิวคาสเซิ่ล ตามลำดับ และกลายเป็นนักเตะคนที่ 6 ในพรีเมียร์ลีกที่สามารถยิง 4 ประตู ใน 4 เกมดังกล่าวอีกด้วย จากนั้น สเตอร์ริดจ์ ก็ย้ายกลับต้นสังกัดแม่ พร้อมกับฝากความประทับใจไว้ให้กับสาวก "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" ด้วยการกดไปทั้งสิ้น 8 ตุงใน 12 นัด 
 
    ในวันขึ้นปีใหม่ปี 2013 กองหน้าวัย 23 ปี ตัดสินใจหนีตัวสำรองจากเชลซี มาเสี่ยงโชคชะตาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล ด้วยสัญญาค้าแข้ง 4 ปี ภายใต้การคุมบังเหียนของ เบรนแดน รอดเจอร์ส โดยเขาจะเข้ามาเสริมแนวรุกให้กับ "หงส์แดง" เคียงข้างกับ หลุยส์ ซัวเรซ ด้วยค่าตัวที่ไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าตัวเลขน่าจะตกอยู่ราวๆ 12 ล้านปอนด์ (ประมาณ 600 ล้านบาท) โดย สเตอร์ริดจ์ ลงสนามเกมแรกก็พังประตูได้เลยในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่เจอกับ แมนส์ฟิลด์ 
 
    จากนั้นเจ้าตัวก็เบิกสกอร์ให้ตัวเองได้อีก 2 ตุงในอีก 2 เกมถัดมาในพรีเมียร์กที่เจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด (แพ้ 1-2) กับ นอริช (ชนะ 5-0) ตามลำดับ จึงกลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงได้ 3 ลูกติดต่อกันในฐานะนักเตะใหม่ต่อจาก เรย์ เคนเนดี้ ตั้งแต่ปี 1974 และสดๆร้อนในแมตช์ถล่มสวอนซี 5-0 กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ยังกดจุดโทษปิดท้ายให้ทีมได้อีกด้วย
 
 
    สเตอร์ริดจ์เริ่มต้นฤดูกาลปี 2013-2014 โดยที่เขาสามารถยิงประตูแรกในฤดูกาลนี้ได้ ซึ่งเป็นประตูเดียวเท่านั้น ส่งให้ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะเหนือสโต็ค ซิตี้ ด้วยการยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ ตามมาด้วยประตูในเกมที่บุกไปเอาชนะแอสตัน วิลล่า 1-0 และอีกครั้งในแมชต์ลีกคัพ ที่ต้องพบกับน็อตต์ส เค้าน์ตี้อีก 2 ลูก ทำให้เขายิงประตูในฤดูกาลนี้ทั้งหมด 4 ลูก จาก 3 เกม เขายังไม่หยุดแค่นั้น เขายังมายิงประตู 1-0 กับการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันเกิดครบ 24 ปีของเขาที่แอนฟิลด์

ADS